รวม 15 ของแต่งบ้าน น่าใช้ แต่งบ้านให้สวย หลากหลายสไตล์

เปลี่ยนห้องที่แสนน่าเบื่อ ให้กลายเป็นห้องที่มีเอกลักษณ์สวยงาม แสดงถึงตัวตนของเรามากขึ้นด้วย ของแต่งบ้าน สวย ๆ และมีสไตล์

หากใครยังไม่มีไอเดียในการเลือกของตกแต่ง หรือคิดยังไม่ออกว่าจะเลือกยังไงให้ได้ของที่ถูกใจ

วันนี้ KACHA  ได้รวบรวม ของแต่งบ้าน ยอดฮิต มาอัดแน่นไว้ในบทความนี้ จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ไปดูกันเลย!!

1. ผ้าม่าน (Curtain)

ผ้าม่าน ของตกแต่งห้อง

ผ้าม่าน ของแต่งบ้านสารพัดประโยชน์ที่นอกจากจะป้องกันแสงแดดที่ส่องเข้ามาในบ้านแล้ว ยังช่วยแบ่งห้องให้เป็นสัดส่วน พลางสายตาจากคนภายนอก และที่สำคัญคือสามารถเปลี่ยนบรรยากาศภายในห้องได้อย่างน่าทึ่ง หากใครเบื่อกับห้องเก่าที่ให้ความรู้สึกจืดชืด ลองเปลี่ยนเป็นผ้าม่านที่มีสีสันสดใส จะช่วยแต่งเติมพื้นที่ให้รู้สึกสนุกสนานขึ้น หรือหากใครเป็นสายมินิมอล ชอบความเรียบง่าย สบาย ๆ ลองใช้เป็นผ้าม่านที่เป็นสีอ่อน หรือผ้าม่านแบบโปร่งแสงที่มีความพลิ้วไหว ให้บรรยากาศที่โปร่งโล่ง รับลมได้ดี แต่หากใครต้องการห้องที่มีความคลาสสิคหรือย้อนยุค แนะนำให้เลือกผ้าม่านสไตล์วินเทจบวกกับราวม่านไม้ จะให้ความสวยงาม ชวนให้นึกถึงบรรยากาศในอดีตมากขึ้น

2. วอลเปเปอร์ (Wallpaper)

จะเปลี่ยนสีผนังให้เปลืองค่าใช้จ่ายไปทำไม ในเมื่อมี ของแต่งบ้าน ที่เรียกว่า “วอลเปเปอร์” ลอกออกหรือจะเปลี่ยนใหม่ก็ทำได้สะดวก แถมยังถูกกว่าสีทาบ้านบางยี่ห้ออีกด้วย นอกจากนี้ ยังช่วยปกปิดความด่างพร้อยของผนังที่อาจจะเป็นรูหรือเป็นรอยที่ไม่น่ามองได้อย่างแนบเนียน ในปัจจุบันวอลเปเปอร์มีลวดลายให้เลือกเยอะมาก เช่น ลวดลายของไม้ ต้นไม้ หรือดอกไม้ ที่ให้บรรยากาศที่เน้นความเป็นธรรมชาติ หรือจะเป็นลวดลายของอิฐหรือปูนที่เหมาะกับบ้านสไตล์ลอฟท์ แนวดิบ ๆ เท่ ๆ เน้นโชว์โครงสร้างและผิวของวัสดุก่อสร้าง นอกจากนี้ลวดลายของวอลเปเปอร์ยังส่งผลต่อมุมมองการมองเห็น เช่น วอลเปเปอร์ลายใหญ่จะทำให้ห้องดูแคบลง จึงไม่เหมาะกับห้องเล็กหรือห้องที่มีผนังแคบ วอลเปเปอร์ลายเล็กหรือลายเรียบทำให้ห้องดูกว้างขึ้น เหมาะกับห้องที่มีเฟอร์นิเจอร์เยอะ ๆ เป็นต้น แม้ว่าวอลเปเปอร์จะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อเสียเช่นกัน คือ มีอายุการใช้งานสั้น หลุดร่อนง่าย และอาจเกิดเชื้อราบนผนังได้ถ้าติดในพื้นที่ที่มีความชื้น เพราะฉะนั้น เราควรเลือกใช้วอลเปเปอร์ที่ผลิตจากวัสดุที่ได้มาตรฐาน เป็นมิตรต่อผนัง หรือศึกษารายละเอียดต่าง ๆ เพิ่มเติมก่อนติดตั้ง

3. นาฬิกา (Clock)

นาฬิกา ของแต่งบ้าน

นาฬิกา ไอเทมที่ทุกบ้านต้องมี จะดีกว่าไหมถ้าเราจะใช้ประโยชน์ให้มากกว่าการดูเวลา ลองเปลี่ยนผนังที่ว่างเปล่าให้น่าดึงดูดด้วยนาฬิกาดีไซน์เก๋ ๆ ให้เข้ากับสไตล์ห้อง ถ้าเป็นนาฬิกาติดผนัง ควรเลือกเรือนที่มีขนาดใหญ่พอสมควร เพื่อที่จะได้มองเห็นในระยะทางที่ไกลขึ้น ทั้งนี้แนะนำให้ดูขนาดของห้องร่วมด้วย เพื่อที่จะได้เลือกขนาดที่พอดี หรือถ้าเป็นนาฬิกาแบบตั้งโต๊ะ ควรเลือกแบบอะนาล็อกเป็นตัวเลขบอกค่าต่าง ๆ  เพื่อความรวดเร็วในการดูเวลา ส่วนฟังก์ชันและการดีไซน์นั้นขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล แต่ถ้าใครยังไม่มีไอเดีย ให้สังเกตสไตล์ของห้องและของแต่งห้องอื่น ๆ ว่ามีการตกแต่งในลักษณะไหน แล้วเลือกนาฬิกาที่มีความเหมาะสมได้เลย

4. โคมไฟ (Lamp)

โคมไฟ เป็นของแต่งบ้านอีกประเภทหนึ่งที่นอกจากให้แสงสว่างภายในและนอกบ้านแล้ว ยังช่วยเพิ่มความสวยงาม สร้างเสน่ห์ให้ห้องดูน่าดึงดูดมากขึ้น  เพราะการเลือกใช้ประเภทและรูปแบบของโคมไฟ บ่งบอกรสนิยมของเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดี  แสงสว่างจากโคมไฟหลากหลายประเภทให้ความสวยงามและให้แสงสว่างที่แตกต่างกัน เหมาะกับการเลือกใช้งานที่หลากหลาย เช่น แบบฝังเพดาน แบบติดห้อยเพดาน ติดผนัง หรือตั้งวางบนพื้น มาพร้อมการดีไซน์ที่ตอบโจทย์บ้านทุกสไตล์ มีแบบให้เลือกอย่างจุใจ และถ้าใครอยากประหยัดมากขึ้น แนะนำให้เลือกเป็นหลอด LED

5. โต๊ะกลาง (Coffee Table)

โต๊ะ ของแต่งบ้าน

โต๊ะกลาง เป็นทั้งเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้าน โดยเฉพาะห้องรับแขกหรือห้องนั่งเล่นที่มีพื้นที่กว้างขวาง โต๊ะกลางจะเป็นจุดหลักที่เป็นแหล่งพบปะสังสรรค์ของผู้คนในบ้านหรือแขกที่มาเยี่ยมเยือน ถือเป็นจุดพักผ่อนหย่อนใจอีกที่หนึ่ง ดังนั้น การเลือกโต๊ะกลางที่โดดเด่นและมีสไตล์ จะยิ่งช่วยเสริมให้จุดนั้นมีความสวยงามน่านั่งมากยิ่งขึ้น ในปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลายเช่นเดียวกับของตกแต่งบ้านชนิดอื่น สามารถเลือกให้เข้าสไตล์ของห้องได้ตามความต้องการ ส่วนขนาดของโต๊ะกลางที่เหมาะสม ควรมีขนาดที่สัมพันธ์กับขนาดห้องและขนาดโซฟา ทั้งความกว้างและความสูง จะทำให้สะดวกในการใช้งานมากยิ่งขึ้น

6. โซฟา (Sofa)

โซฟา ของแต่งบ้าน

เมื่อมีโต๊ะกลางตั้งวางภายในห้องแล้ว ไอเทมที่ขาดไม่ได้เลย คือ โซฟา หนึ่งในเฟอร์นิเจอร์ประจำบ้านที่มีความสำคัญ ถือเป็นของแต่งบ้านที่ต้องใช้ความละเอียดในการพิจารณา เพราะเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่มีอายุการใช้งานยาวนานและมีราคาแพง ดังนั้น จึงควรเลือกโซฟาที่ผลิตจากวัสดุที่แข็งแรง ทนทาน มีการออกแบบที่ดี นุ่ม นั่งแล้วสบายตัว ส่วนลวดลายและดีไซน์ ให้พิจารณาจากการตกแต่งห้องนั้น ๆ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเป็นห้องรับแขกสไตล์โมเดิร์น ควรเลือกโซฟาที่มีขอบเส้นน้อย ดีไซน์ทันสมัย สีสันสดใส ขาโซฟาขัดกลมเกลี้ยง หรือถ้าต้องการตกแต่งห้องแบบคลาสสิคร่วมสมัย ควรเลือกโซฟาที่มีดีไซน์เรียบง่าย รูปทรงทั่วไป หรือถ้ากลัวว่าห้องจะน่าเบื่อจนเกินไป สามารถเลือกเครื่องหุ้มที่มีลวดลายหรือตกแต่งด้วยหมอนสีสันสะดุดตาเพิ่มเติมได้

7. หมอนอิง (Backrest Pillow)

หมอนอิง ของแต่งบ้าน

หมอนอิง หรือ หมอนพิงหลังโซฟา เป็นของตกแต่งบ้านที่มักถูกมองข้าม เนื่องจากมีขนาดเล็ก บางคนมองว่าไม่มีความจำเป็น แต่ความเป็นจริงแล้วหมอนอิงถือเป็นของแต่งบ้านชิ้นสำคัญในการช่วยเพิ่มลูกเล่นให้กับโซฟา ช่วยให้ห้องนั่งเล่นนั้นสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ถ้าต้องการเปลี่ยนบรรยากาศให้ห้องดูสนุกสนาน ลองเปลี่ยนเป็นหมอนอิงที่มีสีสันสดใส ตัดกับสีพื้นเรียบ ๆ ของโซฟา หรือเลือกโทนสีที่แตกต่างเฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งภายในห้อง เช่น สีน้ำเงิน-เหลือง สีแดง-ดำ ที่เมื่อจับคู่กันแล้ว จะเข้ากันได้เป็นอย่างดี ส่วนตำแหน่งการจัดวางหมอนอิงโซฟานั้นไม่จำกัด ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนอยากจะจัดหมอนอิงเล็ก หมอนอิงใหญ่ สลับกันให้เต็มโซฟา หรือจัดวางไว้ตรงกลางก็ได้เช่นกัน แต่สำหรับการจัดวางแบบพื้นฐาน เพียงแค่จัดหมอนอิงให้สมดุลกันทั้งซ้ายและขวาก็สวยงามเป็นระเบียบดีแล้ว

8. บีนแบ็ก (Bean Bag)

บีนแบ็ค บีนแบ็ก ของแต่งบ้าน

บีนแบ็ก โซฟาอเนกประสงค์สุดชิค ที่ได้รับการออกแบบมาให้เหมาะกับสรีระของทุกคน นั่งแล้วสบายตัวเหมือนนอนอยู่บนเตียงนุ่ม ๆ ที่สำคัญคือมีน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายง่าย จะนั่งเล่น นั่งทำงานที่ไหนก็ทำได้สะดวก ตอบโจทย์ทั้งบ้านขนาดใหญ่จนไปถึงคอนโดที่มีพื้นที่จำกัด สามารถแต่งห้องให้สวย ทันสมัย และดูมินิมอลได้ภายในตัว หรือถ้าใครชอบแนวหรูหรา บีนแบ็กหนัง ถือเป็น ของแต่งบ้าน ที่ดี เพราะดูสวยเรียบหรู มองแล้วไม่น่าเบื่อ และถ้าใครมีห้องที่กว้างมาก บีนแบ็กเซต ที่มีหลาย ๆ ชิ้น ก็น่าสนใจ เพราะนอกจากจะดูสวยเข้ากันได้ดีแล้ว ยังเพิ่มพื้นที่นั่งให้สามารถสังสรรค์หรือทำงานแบบเป็นกลุ่มได้

sponsored (โฆษณา)

9. รูปภาพ (Pictures)

กรอบรูป ของแต่งบ้าน

การใช้ รูปภาพ พร้อมกรอบสวย ๆ ติดผนัง วางบนชั้นวางของ หรือบนโต๊ะ เป็นหนึ่งในไอเดียแต่งบ้านยอดนิยมที่ช่วยเสริมให้บ้านดูน่าสนใจมากขึ้นแถมยังสร้างเอกลักษณ์ให้กับที่อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี เช่น รูปบุคคล รูปสัตว์เลี้ยงแสนรัก ภาพวาด ภาพพิมพ์ที่ชื่นชอบ หรือรูปข้อความความหมายดี ๆ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต กรอบรูป เป็นของแต่งบ้านอีกอย่างหนึ่งที่สามารถเปลี่ยนบรรยากาศภายห้องได้ ทั้งยังแสดงให้เห็นถึงรสนิยมทางด้านศิลปะของเจ้าของบ้านได้ดี ซึ่งกรอบรูปไม่จำเป็นต้องติดไว้กลางห้องเท่านั้น แต่ยังเลือกติดไว้ที่มุมใดมุมหนึ่ง เพื่อสร้างความน่าสนใจเฉพาะจุด หรือจะสร้างความแตกต่างด้วยการติดกรอบรูปผสมผสานทั้งแนวตั้งและแนวนอน เพื่อความเก๋ไก๋ ชิคแบบไม่เหมือนใครก็ได้เช่นกัน

10. ตะเกียงโบราณ (Lantern)

ตะเกียง มีความสำคัญมากในสมัยโบราณ เพราะเป็นอุปกรณ์จุดไฟให้แสงสว่างในยามค่ำคืน ในปัจจุบันนิยมใช้เป็นของแต่งบ้าน เพื่อเพิ่มความสวยงาม ช่วยสร้างบรรยากาศที่โรแมนติก อบอุ่น เมื่อนำมาวางประดับในห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือห้องครัว จะได้กลิ่นอายที่มีความวินเทจและอบอุ่นหน่อย โดยเฉพาะ ตะเกียงเจ้าพายุ และ ตะเกียงน้ำมันก๊าด ที่เป็น ตะเกียงโบราณ จะให้ความรู้สึกเก่า เก๋ มากขึ้น แต่จะหายากและมีราคาสูง ในปัจจุบันมีตะเกียงไฟฟ้าที่ด้านในเป็นหลอด LED เข้ามาทดแทน ราคาจะถูกกว่า ดีไซน์ทันสมัยมากขึ้น ซึ่งแล้วแต่ว่าเราจะชอบแบบไหนมากกว่า

11. เทียนหอม (Aroma Candles)

เทียนหอม ของแต่งบ้านที่สร้างบรรยากาศสุดโรแมนติก เป็นไอเทมที่ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานและตกแต่ง เพราะมีกลิ่นที่หอมอบอวล สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย และยังมีรูปลักษณ์ที่สวยงาม ช่วยตกแต่งห้องให้มีเสน่ห์เพิ่มขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ เทียนหอมมีหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้ ซึ่งแต่ละแบบจะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน เช่น เทียนหอมแบบแท่งที่วางบนเชิงเทียน จะให้ความรู้สึกหรูหรามีระดับ เทียนหอมแบบก้อน ให้ความรู้สึกสบาย ๆ สไตล์มินิมอล เทียนหอมแบบเจลที่มีลักษณะโปร่งใส ประดับด้วยเปลือกหอย หัวใจ ของจิ๋ว หรือโมเดลขนาดเล็ก เน้นโชว์รายละเอียดความคิดสร้างสรรค์ หรือจะเป็น เทียนหอมในถ้วยที่ ใช้งานง่าย วางสะดวก สีสันสวยงาม แถมยังมีลวดลายและลักษณะของถ้วยที่ช่วยเพิ่มมิติความสวยงาม

12. แจกันดอกไม้/กระถางต้นไม้ (Flowerpot)

ของแต่งบ้านที่ทำให้รู้สึกสดชื่น ใกล้ชิดกับธรรมชาติ คงหนีไม่พ้นสีเขียวของใบไม้และสีสันสดใสของดอกไม้ นอกจากจะสวยงามแล้ว ไม้ประดับบางชนิดยังช่วยฟอกอากาศ ดูดซับสารพิษ มอบอากาศที่บริสุทธิ์ ปลอดโปร่ง สร้างความร่มรื่นภายในบ้านได้ดี นอกจากนี้ สไตล์และสีสันของแจกันหรือกระถางยังช่วยเสริมให้ห้องมีความโดดเด่นขึ้นไปอีก ส่วนการจัดวาง สามารถวางแบบเดี่ยว แบบคู่ หรือจัดกลุ่ม ไว้ตามมุมห้อง บนบันได บนโต๊ะ หรือทางเข้าบ้านได้ตามความชอบ แต่อาจจะต้องคำนึงถึงขนาดของโต๊ะ ขนาดพื้นที่ และความเหมาะสมโดยรวมร่วมด้วย

13. หนังสือ (Books)

หนังสือ อีกหนึ่งของแต่งบ้านที่ฮอตฮิตมากในปัจจุบัน ตัวช่วยเติมเต็มให้โต๊ะหรือชั้นวางให้สมบูรณ์แบบ นอกจากจะช่วยเพิ่มกิมมิคให้พื้นที่มีความน่าสนใจแล้ว ประเภทของหนังสือยังบ่งบอกถึงรสนิยมของเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดี โดยหนังสือที่นิยมนำมาตกแต่งเพิ่มความสวยงาม ส่วนมากจะเป็นหนังสือที่เกี่ยวกับแฟชั่น แบรนด์หรู หรือไลฟ์สไตล์ที่มีความโมเดิร์น ตลอดจนหนังสือประวัติศาสตร์ที่มีความคลาสสิค

14. พรม (Carpet)

นอกจากจะช่วยป้องกันการขีดข่วนของพื้น เพิ่มสัมผัสความอ่อนนุ่มให้เท้า และป้องกันการลื่นล้มแล้ว พรม ยังเป็น ของแต่งบ้าน ที่ช่วยทำให้บ้านดูหรูหรามากยิ่งขึ้น แถมยังสร้างบรรยากาศของห้องให้ต่างกันอย่างลิบลับ เพราะลวดลายหรือสีสันของพรมเป็นตัวกำหนด Mood & Tone โดยรวมของห้องอีกอย่างหนึ่ง ส่วนเทคนิคสำหรับการเลือกพรม สิ่งแรกที่เราต้องทราบและหาคำตอบให้ได้อย่างชัดเจน คือ ทิศทางการตกแต่งบ้านของเราเป็นไปในแนวทางไหน ขนาดห้องเท่าไหร่ เฟอร์นิเจอร์มีมากน้อยแค่ไหน พฤติกรรมการใช้งานเป็นอย่างไร เช่น พรมสีโทนอ่อน จะช่วยให้ห้องดูกว้างขวาง โปร่ง ดูสว่าง และสบายตามากขึ้น แต่อาจจะไม่เหมาะกับห้องที่ต้องเจอฝุ่นละอองเยอะ เพราะจะเห็นคราบสกปรกได้ชัดเจน ส่วนพรมปูพื้นสีโทนกลางนั้นเป็นสีที่เข้าได้ดีกับทุกห้อง เพราะจะกลมกลืนไปกับเฟอร์นิเจอร์ได้ง่าย ดูไม่โดดเด่นสะดุดตาจนเกินไป ในขณะที่พรมปูพื้นโทนสีเข้มจะทำให้ห้องดูหรูหรา โมเดิร์น เป็นทางการ เป็นต้น

15. กระจก (Mirror)

กระจก เป็นของแต่งบ้านอีกอย่างหนึ่งที่ช่วยทำให้บ้านหรือพื้นที่ดูกว้างกว่าที่เป็นจริงได้ แถมยังช่วยในการเพิ่มแสงสว่าง เมื่อสะท้อนกับแสงไฟนุ่ม ๆ หรือแสงแดดอ่อน ๆ ก็จะเกิดมิติวับวับ ช่วยสร้างความหรูหราได้เป็นอย่างดี ยิ่งถ้าเลือกติดกระจกที่มีดีไซน์เก๋ ๆ ด้วย ก็จะยิ่งทำให้บ้านดูมีรสนิยม ช่วยเปลี่ยนบรรยากาศบ้านที่แสนน่าเบื่อ ให้กลับมาน่าอยู่มากขึ้น สำหรับห้องที่ไม่มีหน้าต่าง การเพิ่มกระจกที่มีกรอบหรือดีไซน์คล้ายกับหน้าต่างเข้าไป จะช่วยสะท้อนมุมมองของฝั่งตรงข้าม ทำให้ห้องดูสว่าง กว้างขวาง และมีมิติมากขึ้นกว่าเดิม แถมยังช่วยพรางตา ทำหน้าที่เหมือนเป็นหน้าต่างบานหนึ่งของห้องไปในตัว

ประโยชน์ของการแต่งบ้าน

การแต่งบ้าน นอกจากจะช่วยให้บ้านสวยงามน่าอยู่มากขึ้นแล้ว ยังช่วยรักษาสุขภาพจิต ผ่อนคลายความเครียดให้กับเจ้าของบ้านได้ เนื่องจากการจัดและตกแต่งบ้าน จะช่วยให้บ้านมีระเบียบสวยงาม แยกเป็นสัดส่วน มีสภาพแวดล้อมดี ไม่รก หรือ ยุ่งเหยิง เหมาะกับการพักอาศัยนั่นเอง การแต่งบ้านยังมีประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมาย เช่น ช่วยให้เรารู้จักลำดับความสำคัญในชีวิต ฝึกกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบว่าควรมีลำดับขั้นตอนในการแต่งบ้านยังไง ทั้งยังช่วยให้เรามองเห็นตัวตนและรสนิยมของเรามากขึ้น สังเกตได้จากการเลือกเฟอร์นิเจอร์ หรือ ของแต่งบ้านต่าง ๆ รวมถึงช่วยลดความตึงเครียด ฝึกใช้ความคิดอย่างสร้างสรรค์ในการตกแต่ง

เป็นอย่างไรบ้างกับ ของแต่งบ้าน ที่เรารวบรวมมา จะเห็นได้ว่ามีแต่ไอเทมเด็ด ๆ ดี ๆ ที่หาซื้อได้ทั่วไป แต่สามารถเปลี่ยนให้บ้านที่จืดชืด ให้เป็นบ้านที่มีเสน่ห์ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หากใครที่ได้ของแต่งบ้านแล้ว แต่ยังคิดไม่ออกว่าจะวางตรงไหน จะแต่งยังไง ลองค้นหาภาพการตกแต่งบ้านเพิ่มเติมทางอินเทอร์เน็ต แล้วนำปรับแต่งให้เหมาะกับสไตล์ของเราได้เลย

    KACHA ผู้จัดจำหน่าย เครื่องมือช่างราคาถูก และอุปกรณ์เสริม สำหรับช่างมืออาชีพ ราคาที่คุณจับต้องได้ รับรองสินค้าคุณภาพ บริการหลังการขายที่ประทับใจอย่างแน่นอน!! เลือกดูสินค้า สินค้าจาก KACHA  คลิกเลย ????????

Sponsered (โฆษณา)