รอกไฟฟ้า รอกยกของ

…

1.1 รอกโซ่มือสาว ราคาถูก สามารถใช้งานได้อัตโนมัติ ไม่ต้องใช้ไฟฟ้า เหมาะกับคนที่ต้องการใช้งานบ้างเป็นบางครั้ง ข้อเสีย คือ ยกของขึ้นแนวดิ่งได้ ในระดับความสูงที่จำกัด

1.2 รอกโซ่ไฟฟ้า ราคาแพงกว่ารอกโซ่มือสาว ใช้ระบบไฟฟ้าในการยก ช่วยทุ่นแรงได้ดี เหมาะกับคนที่ใช้งานเป็นประจำ ข้อเสีย คือ ต้องใช้ในพื้นที่ที่มีไฟฟ้าเท่านั้น

1.3 รอกสลิงไฟฟ้า ราคาปานกลางถึงแพงมาก ใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่อง เหมาะกับคนที่ต้องการใช้ยกของทั่วไป และ ในอุตสาหกรรมหนัก ข้อเสีย คือ ต้องติดตั้งบนพื้นราบ หรือ ต้องยึดเข้ากับโครงสร้างที่มั่นคง หากต้องการใช้ในแนวดิ่ง และ ลวดสลิงอาจพันกันได้ง่าย

1.4 รอกลม มีทั้งระบบลม และ นิวเมติก ใช้มอเตอร์แบบหมุน หรือ ลูกสูบขับเคลื่อน โดยใช้อากาศอัด ทำให้รอกเย็นลงระหว่างทำงาน ทำงานได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องหยุดพัก เหมาะสำหรับใช้งานในพื้นที่อันตราย เช่น พื้นที่ก่อสร้างที่มีความร้อนสูง หรือ มีประกายไฟ เป็นต้น

รอกไฟฟ้า รอกยกของ รอกโซ่แบบควบคุมด้วยมือ เหมาะกับการใช้งานในสภาพแวดล้อม ที่มีอุณหภูมิและความชื้นปกติ หากเป็นสายโซ่ ไม่ควรใช้ในพื้นที่ที่มีความชื้นสูงเพราะอาจทำให้เกิดสนิมได้ สำหรับพื้นที่อันตราย สายที่ใช้ควรเป็นสายสลิง เพราะมีความทนทานต่อประกายไฟ ความชื้นและ ความร้อน มากกว่า สำหรับรอกลม ใช้งานได้ทั้งในสภาพแวดล้อมทั่วไป และ แบบสุดขั้ว เพราะขับเคลื่อนด้วยระบบลม ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อมที่มีความร้อนสูง สามารถใช้งานในพื้นที่ที่มีประกายไฟ หรือ พื้นที่ที่เสี่ยงต่อการเกิดระเบิดได้

เมื่อเลือกซื้อ รอกยกของ รอกโซ่ หากเป็นรอกบังคับด้วยมือ เช่น รอกโซ่มือสาว ให้เลือกซื้อเครื่องที่ยกน้ำหนักได้สูงสุด เท่าที่เราใช้โดยปกติ และ ห้ามใช้ยกสิ่งของที่หนักเกินกำลัง หูยก แท่นยก หรือ โครงสร้างเครน ที่ติดตั้งรอกจะรับไหว โดยเด็ดขาด เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายได้

สำหรับ รอกไฟฟ้า อย่าง รอกสลิงไฟฟ้า รอกโซ่ไฟฟ้า นอกจากต้องเลือกเครื่องที่ยกน้ำหนักได้สูงสุด เท่าที่ใช้โดยปกติแล้ว ยังต้องดูอัตราการโหลดของรอกด้วย ว่ามีประสิทธิภาพมากแค่ไหน ซึ่งมักมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ MEL.65.

การติดตั้ง รอกไฟฟ้า รอกยกของหนัก ทำได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ติดตะขอเกี่ยวกับโครงรอก หรือ คานเหล็ก (Top Hook Mounted) ทำขายึดติดอยู่ที่ด้านบนของโครงรอก (Lug Mounted) หรือ ติดตั้งแบบแขวนไว้กับรถเข็น แล้วเคลื่อนที่ไปมาด้วยโมโนเรล หรือ คานเครนสะพาน (Trolley Mounted)

ซึ่งถ้าหากต้องเลือกแล้วละก็ พยายามเลือกรูปแบบการติดตั้งที่เข้ากับตัวเรามากที่สุด โดยพิจารณาจากรูปแบบการทำงานเป็นหลัก เช่น หากใช้งานในพื้นที่จำกัด ไม่ต้องขยับรอกไปมาเยอะ ก็อาจเลือกแบบที่ติดตะขอ แต่ถ้าเป็นพื้นที่กว้างขวาง ต้องเคลื่อนที่ไปมาตลอดเวลาแล้วละก็ แนะนำให้เลือกแบบทำขายึด หรือ ติดตั้งแบบแขวน แล้วเคลื่อนที่ด้วยโมโนเรล เพราะช่วยให้ทำงานได้สะดวกขึ้น เป็นต้น

การติดตั้งรอก ควรติดให้อยู่สูงจากพื้นดินมากพอ ที่จะสามารถหย่อนโซ่ หรือ สายสลิง ลงมาได้ทั้งหมด เพราะหูยก กับ ตัวรอก เมื่อติดตั้งไว้ด้านบนแล้ว อาจกินพื้นที่ลงมาเยอะพอสมควร จึงควรคาดคะเนให้ดี ก่อนทำการติดตั้ง โดยให้โฟกัสที่ระยะหย่อนโซ่หรือสายสลิงเป็นหลัก เพื่อให้สามารถขึ้นสุด-ลงสุด ยกหรือเคลื่อนย้ายสิ่งของ ไปยังระดับความสูงที่ต้องการได้ง่าย

สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม ก็คือ กำลังไฟของตัว รอกไฟฟ้า รอกยกของ รอกโซ่ ว่ารองรับไฟบ้าน 220V หรือ รองรับไฟโรงงาน 380V เพราะหากซื้อมาแล้ว กำลังไฟไม่พอ หรือ เกินพอดี ก็จะไม่สามารถใช้งานได้ ฉะนั้น จึงควรเลือกซื้อแบบที่กำลังไฟพอดีกัน กับ สถานที่ที่เราปฏิบัติงาน ซึ่งถ้าหากใครอยากใช้ทั้งไฟบ้านและไฟโรงงาน สามารถเลือกซื้อแบบที่รองรับระบบไฟทั้ง 2 แบบก็ได้ เพราะนอกจากจะทำให้สะดวกเวลาทำงานแล้ว ยังสามารถประยุกต์ใช้ทำงานได้หลายที่อีกด้วย

ความเร็วในการยกสินค้าของรอกไฟฟ้า รอกยกของ โดยปกติ อยู่ระหว่าง 8 – 32 FPM ซึ่งเทคนิคการเลือกซื้อให้ได้ความเร็วที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับว่า ต้องการยกหรือเคลื่อนย้ายอะไร น้ำหนักน้อยหรือมาก ซึ่งถ้าหากเป็นลังสินค้า หรือ สิ่งของที่มีน้ำหนักไม่มากนัก ก็อาจเลือกใช้รอกที่มีความเร็วในการยกสินค้าสูง มอเตอร์แรงม้าต่ำ แต่หากเป็นสิ่งของที่น้ำหนักมาก แตกได้ง่าย หรือ ต้องระมัดระวังการกระทบกระเทือนเป็นพิเศษ เช่น โคมไฟแชนเดอร์เรีย หรือ โคมไฮเบย์ ก็ควรใช้รอกที่มีความเร็วต่ำ และ มอเตอร์แรงม้าสูง แทน เพื่อให้การยกขึ้นในแนวดิ่ง เป็นไปอย่างนิ่มนวลที่สุด ป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น

เพราะสิ่งของต่าง ๆ ที่ใช้ รอก ทำการยกหรือเคลื่อนย้ายนั้น มีน้ำหนักเยอะ อีกทั้งยังต้องแขวนลอยอยู่กลางอากาศ ซึ่งอาจเกิดการแกว่งไกว จนเสี่ยงต่อการร่วงหล่นลงมา เป็นอันตรายต่อคนใน พื้นที่ปฏิบัติงานได้ ดังนั้น จึงควรดูรอกไฟฟ้า รอกยกของ รอกโซ่ของแต่ละบริษัทด้วย ว่ามีระบบ Safety ติดตั้งอยู่หรือไม่ เช่น ระบบป้องกันการยก ตะขอเซฟตี้ล็อค ปุ่ม Emergency ฯลฯ ซึ่งนอกจากจะช่วยให้เกิดความมั่นใจในการใช้งานแล้ว ยังเป็นการตรวจสอบว่า สินค้านั้นมีมาตรฐาน ตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่

เนื่องจากการใช้งาน รอกไฟฟ้า รอกยกของ รอกโซ่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง จนอาจถึงแก่ชีวิตได้ ทำให้ทั้งนายจ้าง ลูกจ้าง หรือ ผู้ที่ซื้อมาใช้งานเอง ต้องรู้จักวิธีปฏิบัติงานเป็นอย่างดี เพื่อความปลอดภัยของตนเอง และ คนรอบข้าง มี 4 ขั้นตอน คือ

1. ผู้ที่จะใช้รอกไฟฟ้า รอกยกของ รอกโซ่ จะต้องได้รับอนุญาต และ ผ่านการอบรมการใช้งานแล้วเท่านั้น
2. ผู้ใช้ควรสวมอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยให้ครบถ้วน เช่น หมวก Helmet , ถุงมือ ,รองเท้า Safety ฯลฯ
3. ตรวจสอบระบบควบคุมการทำงานของรอก ก่อนใช้งานเสมอ หากพบสิ่งผิดปกติให้หยุดใช้งาน และ แจ้งแก้ไขทันที
4. ก่อนทำการยกรอกไฟฟ้า รอกยกของ รอกโซ่ ควรตรวจดูความเรียบร้อยว่า โซ่ หรือ ลวดสลิง เกี่ยวกับตะขอเรียบร้อยแล้วหรือไม่

ตามกฎกระทรวง เรื่อง มาตรฐานในการบริหาร จัดการ และ ดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และ สภาพแวดล้อมในการทำงาน เกี่ยวกับเครื่องจักร ปั้นจั่น และ หม้อน้ำ พ.ศ. 2564 กำหนดให้นายจ้าง ลูกจ้าง หรือ ผู้ใช้งาน ต้องปฏิบัติงานระหว่างใช้ รอกไฟฟ้า รอกยกของ รอกโซ่ตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัย ตัวอย่างเช่น ต้องติดตั้งรอกไว้ในที่มั่นคงแข็งแรง และ ปลอดภัย ตรวจสอบรอกว่ามีส่วนไหนชำรุดเสียหาย ก่อนทำงานเสมอ ติดป้ายบอกมาตรการป้องกันอันตราย ป้ายบอกขนาดพิกัดที่ปลอดภัย ให้เห็นได้ชัดเจน ฯลฯ
ที่สำคัญคือ หากรอกมีขนาดพิกัดรับน้ำหนักได้ตั้งแต่ 1 ตันขึ้นไป ต้องมีการทดสอบส่วนประกอบและอุปกรณ์ของรอก เพื่อความปลอดภัย อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยวิศวกรซึ่งได้ขึ้นทะเบียนตามมาตรา 9 และ นิติบุคคล ซึ่งได้รับใบอนุญาต ตามมาตรา 11

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 10 เรื่องต้องรู้ก่อนซื้อ รอกไฟฟ้า รอกยกของ รอกโซ่ที่ Kacha นำมาฝาก คงทำให้หลายคนได้รับข้อมูล พร้อมนำไปประกอบการตัดสินใจ ซื้อเครื่องมือนี้มาใช้งานได้ ไม่มากก็น้อย หากใครอยากซื้อรอกแบบใดแบบหนึ่งมาใช้งานแล้วละก็ ลองศึกษา และ พิจารณาแต่ละข้อด้วยตัวเอง เพื่อให้สามารถเลือกซื้อรอก ที่เหมาะกับการทำงานของตนเองได้มากที่สุด