น้ำประปา คืออะไร?

น้ำประปา หรือน้ำก๊อก คือ น้ำที่ไหลออกมาจากก๊อกน้ำ เริ่มใช้กันมาตั้งแต่ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 และเป็นสาธารณูปโภคพื้นฐานที่จำเป็นในปัจจุบัน น้ำประปาผลิตมาจากน้ำดิบ สูบเข้าไปยังถังพักตกตะกอน และผ่านกรรมวิธีฆ่าเชื้อโรค จากนั้นจึงเพิ่มแรงดันและส่งไปยังท่อน้ำต่าง ๆ ในบ้านของผู้ใช้น้ำ

210811-Content-น้ำประปาในบ้านเป็นแบบไหน-ดื่มได้หรือไม่-02


ความแตกต่างของน้ำบริสุทธิ์ กับน้ำสะอาด (น้ำประปา)

???????? น้ำบริสุทธิ์ คือ น้ำที่ปราศจากสิ่งเจือปนทุกชนิดโดยทั่วไปได้จากขั้นตอนการทำน้ำให้ระเหยแล้วกลั่นตัวกลับเป็นหยดน้ำ จึงเรียกกันว่า น้ำกลั่น ในปัจจุบันได้มีการพัฒนาการทำน้ำให้บริสุทธิ์ขึ้นอีกหลายวิธี เพื่อนำน้ำไปใช้ในการอุตสาหกรรม เนื่องจากน้ำเป็นตัวทำละลายที่ดี น้ำบริสุทธิ์จะยิ่งมีความสามารถในการทำละลายได้สูงกว่าน้ำทั่วไป น้ำบริสุทธิ์จึงไม่เหมาะสำหรับการอุปโภคบริโภค เพราะจะเป็นอันตรายต่อเนื้อเยื่ออ่อนในร่างกาย และขาดแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย 

???????? น้ำสะอาด คือ น้ำที่มีสารละลายแร่ธาตุต่าง ๆ อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมต่อการบริโภค ดังนั้นการทำน้ำสะอาดเพื่อการบริโภค หรือน้ำประปา จึงต้องมีการกำหนดมาตรฐานน้ำดื่มไว้โดยกำหนดปริมาณสารละลายและแร่ธาตุแต่ละรายการที่ให้มีได้ในน้ำประปาหน่วยงานที่รับผิดชอบในการผลิตน้ำประปาจึงต้องตรวจสอบควบคุมการผลิตน้ำทุกขั้นตอนให้เป็นไปตามมาตรฐานน้ำดื่มที่กำหนด


น้ําประปา ดื่มได้จริงหรือไม่?

ข้อสําคัญในการใช้เครื่องกรอง คือ ต้องปฏิบัติ ตามคู่มือการใช้งาน ควบคุมอัตราการกรองให้อยู่ใน เกณฑ์กําหนด ทําความสะอาดไส้กรองอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการเปลี่ยนไส้กรองเมื่อหมดอายุใช้งาน และควร เก็บน้ําที่กรองแล้วใส่ในภาชนะที่สะอาดแล้วเก็บในตู้เย็น

✅ น้ําประปาสะอาดปลอดภัย และได้รับการตรวจ สอบคุณภาพอย่างสม่ำเสมอ จึงไม่ควรมีความกังวลใจต่อ การดื่มน้ําประปา

210811-Content-น้ำประปาในบ้านเป็นแบบไหน-ดื่มได้หรือไม่-03

❌ ไม่ควรดื่มนํ้าที่ยังไม่ผ่านกระบวนการปรับปรุง คุณภาพนํ้า เช่น การดื่มนํ้าจากบ่อ แม่นํ้า ลำคลอง หรือจากน้ําดื่มบรรจุขวดที่ไม่มีมาตรฐานรองรับ


เลือกเครื่องกรองน้ำประปาแบบไหนดี ได้น้ำดื่มมีคุณภาพสูง

ก่อนจะเลือกเครื่องกรองน้ำ ต้องทราบลักษณะของน้ำที่จะผ่านเครื่องกรอง เช่น น้ำบาดาล หรือน้ำประปา เพื่อเลือกไส้กรองที่เหมาะสมกับลักษณะของน้ำ นอกจากนี้ ต้องทราบจำนวนสมาชิกภายในบ้าน เพื่อเลือกกำลังผลิตน้ำได้เพียงพอต่อวันด้วย

เครื่องกรองน้ำในครัวเรือนแบ่งได้ 2 ประเภท คือ เครื่องกรองน้ำใช้ และเครื่องกรองน้ำดื่ม

  • เครื่องกรองน้ำใช้ เป็นเครื่องกรองน้ำประปา หรือ กรองน้ำบาดาลก่อนเข้าสู่ระบบท่อน้ำดีในบ้าน เพื่อคัดกรองแร่ธาตุ และสิ่งสกปรก ที่อาจเข้าสู่ระบบน้ำดีภายในบ้าน ทำให้ท่ออุดตัน และขึ้นสนิม มักใช้คู่กับปั๊มน้ำและถังเก็บน้ำดี
  • เครื่องกรองน้ำดื่ม เป็นเครื่องกรองน้ำคุณภาพสูงขึ้น ด้วยไส้กรองหลายชั้น คัดกรองอนุภาคและสิ่งสกปรก บางรุ่นมีคุณสมบัติฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ ใช้ต่อกับน้ำประปา เพื่อกรองน้ำดื่มภายในครัวเรือน
210811-Content-น้ำประปาในบ้านเป็นแบบไหน-ดื่มได้หรือไม่-04


วิวัฒนาการของเครื่องกรองน้ำ เป็นอย่างไร?

น้ำดื่มที่เรานำมาใช้บริโภคกันนั้น มาจากแหล่งน้ำธรรมชาติ และโรงงานทำน้ำประปา จากในอดีตมีวิธีทำให้น้ำบริสุทธิ์ ดังนี้

ในอดีต ก่อนนำน้ำมาใช้ดื่ม เราใช้วิธีทำให้น้ำตกตะกอนด้วยการแกว่งสารส้ม หรือหยดคลอรีน ทิ้งไว้ค้างคืน วิธีการกรองแบบนี้แยกได้เฉพาะส่วนที่เป็นตะกอน แต่ไม่สามารถฆ่าเชื้อโรคขนาดเล็กได้ จึงต้องนำน้ำไปต้มก่อนดื่ม

  • ใช้ไส้กรองคาร์บอน (หรือถ่าน)

ลำดับต่อมามีการคิดค้นวิธีทำน้ำให้บริสุทธิ์ด้วยการผ่านไส้กรองคาร์บอน เพื่อดักจับธาตุต่าง ๆ ที่ปนเปื้อนมากับน้ำ ทำให้น้ำมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ หรือใช้กรองน้ำที่ผ่านคลอรีนมาแล้ว

  • ใช้ไส้กรองอื่น ๆ เช่น ซิลิกา (หรือทราย)

หลังจากวิธีนำคาร์บอน หรือถ่าน มาช่วยดูดกลิ่นคลอรีน ก็มีการค้นคว้าส่วนประกอบอื่น ๆ มาใช้กับไส้กรอง เพื่อให้น้ำบริสุทธิ์มากขึ้น ในช่วงเวลาต่อมาใช้ทราย หรือซิลิกามาเป็นไส้กรองเครื่องกรองน้ำ และมีไส้กรองบางประเภทที่ดักจับจุลินทรีย์ขนาดเล็กไม่ให้ปนเปื้อนมากับน้ำได้ด้วย

  • ใช้ระบบ RO (Reverse Osmosis)

เมื่อมีการค้นพบไส้กรองที่ช่วยให้น้ำบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น มีวิธีการคิดค้นใช้ไส้กรองหลาย ๆ ชั้นร่วมกัน เพื่อให้น้ำผ่านเครื่องกรองน้ำได้สะอาดที่สุด น้ำที่ผ่านระบบ RO (Reverse Osmosis) เป็นที่ยอมรับในการใช้ดื่ม นำมาประกอบอาหาร เครื่องกรองน้ำระบบ RO ใช้หลักการให้ผ่านไส้กรองหลายชั้น และผ่านเยื่อคัดกรองอนุภาคอีกชั้นหนึ่ง เพื่อให้มั่นใจในความสะอาด

  • ใช้แสงยูวีฆ่าเชื้อ (UV Filters)

การฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ในเครื่องกรองน้ำ เริ่มใช้เทคโนโลยีแสงยูวีมาใช้ฆ่าเชื้อ ด้วยคลื่นแสงที่มีประสิทธิภาพทำลายดีเอ็นเอของเชื้อโรคได้ ทำให้เครื่องกรองน้ำชนิดนี้กำจัดสิ่งสกปรกได้ถึง 99% จึงนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย


วิธีเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำ

1. รู้ส่วนประกอบของน้ำที่ใช้ในครัวเรือน

ก่อนอื่นต้องทราบองค์ประกอบของน้ำที่ใช้ในบ้านของเรา หากเป็น น้ำประปา ก็เป็นน้ำที่ทำให้สะอาดมาในระดับหนึ่งแล้ว แต่หากเป็นน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติ โดยเฉพาะน้ำบาดาล ก็จะมีแร่ธาตุที่ต้องกรองออกเยอะกว่าน้ำประปา เช่น ธาตุไนเตรต ฟลูออไรด์ และกลิ่นไม่พึงประสงค์ รวมถึงต้องใช้เครื่องกรองที่ฆ่าเชื้อโรคจุลินทรีย์ต่าง ๆ ได้

2. รู้วัตถุประสงค์ของน้ำที่จะใช้

หากต้องการน้ำสะอาดไว้ดื่ม จำเป็นต้องเลือกเครื่องกรองน้ำคุณภาพสูง แต่หากต้องการน้ำสำหรับอาบ หรือบริโภคอื่น ๆ ก็ใช้เครื่องกรองน้ำธรรมดาทั่วไป ที่ราคาไม่สูงมากนัก เพื่อกรองตะกอน และกลิ่นก็เพียงพอ

3. รู้ไส้กรองของเครื่องกรองน้ำที่เลือก

ผู้บริโภคควรสอบถามถึงไส้กรองที่ใช้ในเครื่องกรองน้ำรุ่นต่าง ๆ จะได้ทราบคุณสมบัติการกรอง และการฆ่าเชื้อโรค เพื่อตรงกับวัตถุประสงค์ที่เลือกใช้ เช่น หากต้องการน้ำบริสุทธิ์สำหรับดื่มโดยไม่ต้องนำมาต้มอีก ก็ควรเป็นเครื่องกรองน้ำที่ฆ่าเชื้อโรคได้ในตัว

4. เปรียบเทียบราคาเครื่องกรองน้ำยี่ห้อต่าง ๆ

ในคุณสมบัติเดียวกัน ราคาของเครื่องกรองน้ำควรจะไม่ต่างกันมาก บางยี่ห้อเพิ่มประกันหลังการขาย พร้อมบริการเปลี่ยนไส้กรองตามอายุการใช้งาน ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภคที่ต้องการบริการหลังการขาย

5. เลือกเครื่องกรองน้ำที่ได้รับมาตรฐานอุตสาหกรรม

อย่าดูที่ยี่ห้อ และราคาเพียงอย่างเดียว ต้องดูสัญลักษณ์มาตรฐานที่ได้รับการรองรับจากกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อยืนยันความปลอดภัยเบื้องต้น

210811-Content-น้ำประปาในบ้านเป็นแบบไหน-ดื่มได้หรือไม่-05


ทั้งนี้ เพื่อความมั่นใจในการบริโภคน้ำประปา ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบคุณภาพความสะอาดของน้ำได้โดยเปิดน้ำใส่ภาชนะ และสังเกตว่าต้องใส ไม่มีตะกอน หากมีกลิ่นคลอรีนแสดงว่าน้ำได้ผ่านการฆ่าเชื้อมาแล้ว ให้ตั้งทิ้งไว้นาน 20-30 นาที กลิ่นคลอรีนจะจางหายไป และเพื่อช่วยเพิ่มความมั่นใจให้มากยิ่งขึ้น ก่อนดื่มควรเปิดน้ำประปารองใส่ตุ่มพักไว้เพื่อให้ตกตะกอน และลดกลิ่นคลอรีน จากนั้นนำไปต้มจนเดือด นาน 3-5 นาที จะทำให้น้ำสะอาด แร่ธาตุในน้ำยังอยู่ครบ และยังช่วยลดความเสี่ยงจากการได้รับสารไตรฮาโลมีเทนด้วย แต่ปัจจุบันประชาชนนิยมใช้เครื่องกรองน้ำผ่านการกรองชั้นถ่านเพื่อดูดกลิ่น และผ่านสารเรซินเพื่อลดความกระด้าง และนำไปฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ด้วยการผ่านแสงอัลตราไวโอเลต หรือแก๊สโอโซน ทำให้ปลอดภัยมากขึ้น

แต่อย่างไรก็ตาม ต้องทำความสะอาดเครื่องกรองน้ำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มีประสิทธิภาพที่ดีในการกรองน้ำและไม่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคเนื่องจากบางครัวเรือนที่ยังมีการใช้ท่อที่เป็นเหล็กอยู่ เมื่อใช้งานไปในระยะเวลานานอาจมีคราบสนิมเกาะในบริเวณท่อและหลุดออกมาปนเปื้อนในน้ำ ทำให้เสี่ยงเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้