
ตรวจ “ระบบไฟฟ้า” ด้วยตัวเอง ทำได้อย่างไร?
“ระบบไฟฟ้า คือ การส่งจ่ายกระแสไฟฟ้าจากแหล่งกำเนิดไปยังผู้ใช้ไฟฟ้า ตามประเภทการใช้งาน โดยส่งจากสถานีไฟฟ้าผ่านสายไฟฟ้าแรงสูง สถานีไฟฟ้าย่อย หม้อแปลงแปลงไฟฟ้าให้ต่ำลงไปยังบ้านพักอาศัย สำนักงาน หรือโรงงานอุตสาหกรรม”
ระบบไฟฟ้า ที่การไฟฟ้าฯ ส่งจ่ายไปยังบ้านเรือนทั่วไป เรียกว่า ระบบไฟฟ้าแรงดันต่ำ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ระบบด้วยกัน (1 เฟสและ 3 เฟส) ในการใช้งานนั้นการไฟฟ้าฯ จะพิจารณาให้เหมาะสมตามความต้องการของผู้ใช้ไฟฟ้าว่าจะใช้ระบบใด โดยพิจารณาจากปัจจัยสำคัญ 2 ประการ คือ ปริมาณการใช้ไฟฟ้า ประเภทและจำนวนของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้ภายในบ้านนั่นเอง วันนี้ KACHA จะพาไปดูวิธีตรวจสอบ ระบบไฟฟ้า เบื้องต้นกัน
การทดสอบมิเตอร์ไฟฟ้า

ระบบไฟฟ้า ภายในบ้านให้เริ่มตรวจโดยปิดสวิตช์ไฟทุกจุด รวมถึงถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ออกให้หมด จากนั้น ดูมิเตอร์ที่หน้าบ้านว่าเฟืองเหล็กยังหมุนอยู่หรือไม่ หากยังหมุนอยู่แสดงว่ามีกระแสไฟรั่ว และตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดอื่น ๆ เช่น เครื่องตัดไฟรั่วว่ายังทำงานดีอยู่หรือไม่ ด้วยการกดปุ่มทดสอบหรือ Test (ควรกดปุ่มทดสอบนี้เป็นประจำทุก 1-3 เดือน) ถ้ายังใช้ได้ดี สวิตช์หรือคันโยกจะตกลงมาทันทีเพื่อตัดกระแสไฟฟ้า และรวมถึงเซอร์กิตเบรกเกอร์หรือเบรกเกอร์
ตรวจสอบเมนสวิตช์

ตรวจสอบดูว่ามีมดหรือแมลงเข้าไปทำรังในตู้หรือไม่ เซอร์กิตเบรกเกอร์หรือเบรกเกอร์ลูกย่อยยังสามารถใช้ปลดวงจร ระบบไฟฟ้า ในบ้านได้หรือไม่ ป้องกันไฟรั่วและไฟดูดได้ดีอยู่หรือไม่ หากมีอุปกรณ์ชำรุดหรือเสียหายควรหามาเปลี่ยนใหม่ให้เรียบร้อย
ตรวจสอบสายไฟฟ้า จุดไหนชำรุดเสียหาย

คอยตรวจสอบสายไฟฟ้าว่ามีส่วนใดชำรุดเสียหายบ้าง โดยเฉพาะสายไฟที่ซ่อนอยู่บนฝ้าเพดานอาจเปื่อยกรอบ เนื่องจาก ผ่านการใช้งานมานานหรืออาจจะถูกหนูกัดแทะฉนวนจนสายขาดได้ (ในกรณีที่ไม่ได้หุ้มสายไว้ด้วยท่อร้อยสายไฟ) ถ้าพบเจอต้องเปลี่ยนใหม่โดยทันที
ตรวจสอบเต้ารับไฟฟ้า

ตรวจสอบเต้ารับไฟฟ้าดูว่าหลวม มีรอยแตกร้าว หรือรอยไหม้บ้างหรือไม่ ถ้าเต้ารับหลวมให้ขันสกรูให้แน่นดังเดิม แต่ถ้าแตกร้าวหรือพบรอยไหม้ควรเปลี่ยนใหม่ และควรทดสอบเต้ารับทุกจุดว่ามีไฟหรือไม่ โดยใช้ไขควงวัดไฟทดสอบได้
ตรวจสอบเครื่องใช้ไฟฟ้า

เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มักมีการจับต้องขณะใช้งาน เช่น เครื่องซักผ้า ตรวจเช็กว่ามีกระแสไฟฟ้ารั่วหรือไม่ ด้วยการใช้ไขควงวัดไฟแตะที่ตัวเครื่องส่วนที่เป็นโลหะ ถ้าหลอดไฟติดหรือเรืองแสง แสดงว่ามีไฟรั่วให้หยุดใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นนั้นทันที และตรวจเช็กว่ามีการติดตั้งสายดินถูกต้องหรือไม่ ถ้าไม่มีให้ติดตั้งสายดินให้เรียบร้อย เพื่อช่วยให้ไม่เกิดอันตรายจากไฟฟ้าดูด
หมายเหตุ : ถ้าเครื่องตัดไฟรั่วไม่ทำงาน เมื่อลองแก้ไขเบื้องต้นแล้วยังพบปัญหาอยู่ แนะนำให้เรียกช่างไฟฟ้ามืออาชีพมาช่วยแก้ไข และในขณะที่ปลดเมนสวิตช์เพื่อทำการซ่อมแซมนั้น ให้เขียนป้ายเตือนไว้ว่า “ห้ามสับไฟ! ช่างไฟฟ้ากำลังทำงาน” แขวนไว้ที่เมนสวิตช์ทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน ????
เคล็ดลับ! วิธีแก้ไขไฟรั่ว-ไฟดูด จากเครื่องใช้ไฟฟ้า
- เมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟรั่วหรือไฟดูดขึ้น สิ่งแรกที่ต้องทำคือ ตัดกระแสไฟฟ้าให้เร็วที่สุดด้วยการถอดปลั๊ก ปิดเมนสวิตช์ และงดใช้เครื่องใช้ไฟฟ้านั้น ๆ แต่วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือ ติดตั้งระบบสายดินที่ได้มาตรฐาน และควรติดตั้งเบรกเกอร์กันดูดเพิ่มเติมด้วย โดยจะตัดวงจรอัตโนมัติ เช่น เครื่องซักผ้าชำรุด อาจมีกระแสไฟรั่วออกมาที่ตัวเครื่อง เมื่อเราไปจับหรือสัมผัสส่วนที่เป็นโลหะ เบรกเกอร์ก็จะตัดกระแสไฟฟ้า เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับผู้ใช้งาน
- ตามมาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าสำหรับประเทศไทย แนะนำให้ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันไฟรั่วไฟดูดที่มีพิกัดกระแสไฟรั่วไม่เกิน 30 มิลลิแอมป์ สำหรับการใช้ไฟฟ้าในห้องน้ำ โรงจอดรถ ห้องครัว รวมไปถึงการใช้งานภายนอกบ้าน และวงจรย่อยสำหรับเครื่องทำน้ำร้อน-น้ำอุ่น และอ่างอาบน้ำวน
ส่งท้ายสักนิด ทำความเข้าใจเรื่องระบบส่งไฟ
ระบบไฟฟ้า ที่ส่งจ่ายไปยังบ้านเรือนทั่วไป เรียกว่า ระบบไฟฟ้าแรงดันต่ำ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ระบบด้วยกัน คือ
ระบบไฟฟ้า 1 เฟส
ระบบไฟฟ้าที่ใช้กันทั่วไปตามบ้าน เป็นกระแสสลับระบบ 1 เฟส 2 สาย แรงดัน 220 โวลต์ ความถี่ 50 เฮิรตซ์ โดยสายไฟ 2 สายที่ใช้ สายหนึ่งจะมีกระแสไฟฟ้าไหลอยู่ หรือเรียกว่า สายเคอร์เรนต์ (Current line) ส่วนอีกสายจะเป็นสายนิวทรัล (Neutral line) ที่ไม่มีกระแสไฟฟ้าไหลอยู่ จะเห็นได้จากปลั๊กไฟตามบ้านที่มีช่องเสียบอยู่ 2 ช่อง ถ้าเอาไขควงสำหรับตรวจกระแสไฟฟ้าลองวัด จะเห็นว่าช่องหนึ่งจะมีไฟแดงปรากฏ ส่วนอีกช่องจะไม่มีไฟแดงปรากฏ แสดงว่าไม่มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน แต่เมื่อเวลาใช้งานกับหลอดไฟหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าจำเป็นต้องใช้ร่วมกันทั้ง 2 สาย เพื่อให้กระแสไฟฟ้าครบวงจร ส่วนปลั๊กไฟที่มี 3 ช่องนั้น ก็ยังเป็นระบบไฟฟ้าแบบ 1 เฟสเหมือนกัน แต่ช่องที่เพิ่มขึ้นมานั้นเป็นช่องที่ต่อกับสายดิน (Ground) เพื่อให้กระแสไฟฟ้าไหลลงดินเวลาเกิดไฟรั่วเป็นการเพิ่มความปลอดภัย
ระบบไฟฟ้า 3 เฟส
เป็นระบบไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส 4 สาย แรงดัน 380 โวลต์ ความถี่ 50 เฮิรตซ์ โดยที่ 3 สายจะเป็นสายที่มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน โดยทั่วไประบบไฟฟ้า 3 เฟส มักใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งไฟฟ้าระบบนี้ไม่สามารถนำมาใช้กับระบบแสงสว่าง หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าตามบ้านได้โดยตรง แต่การนำระบบไฟฟ้า 3 เฟสเข้ามาใช้ในบ้านนั้น จะนำมาแบ่งแยกให้เป็นระบบไฟฟ้า 1 เฟส 3 ชุด แล้วกระจายไปตามจุดต่าง ๆ ที่มีการใช้ไฟฟ้า การกระจายจุดของการใช้งานเช่นนี้ ทำให้ไฟฟ้าแต่ละเฟสไม่ถูกใช้งานมาก ถือเป็นการเฉลี่ยการใช้ไฟฟ้า ทำให้ประหยัดค่าไฟฟ้า เพราะการคิดอัตราค่าใช้ไฟฟ้าซึ่งมีหน่วยเป็นกิโลวัตต์ – ชั่วโมง จะคิดเป็นอัตราก้าวหน้า คือ ยิ่งมีการใช้ไฟฟ้ามากจะยิ่งเสียค่าไฟฟ้าในอัตราที่สูงขึ้น ดังนั้น การกระจายการใช้ไฟฟ้าออกเป็น 3 ส่วน จึงทำให้การใช้ไฟฟ้าในแต่ละส่วนหรือแต่ละเฟสน้อยลง ไม่ต้องเสียค่าไฟฟ้าในอัตราที่สูง
สรุปได้ว่า ทั้ง 2 ระบบ สามารถนำมาใช้งานภายในบ้านได้เหมือนกัน หากนำระบบไฟฟ้า 3 เฟสมาใช้ จะเสียค่าใช้จ่ายในตอนต้นค่อนข้างสูง เช่น ค่าติดตั้ง ค่าประกันการใช้ไฟฟ้า แต่สามารถประหยัดค่าใช้ไฟฟ้าได้ในระยะยาว ดังนั้น ควรติดตั้งกับบ้านหรืออาคารที่ค่อนข้างใหญ่ มีการใช้ไฟฟ้าหลายจุดและเป็นปริมาณมากถึงจะคุ้มกว่า แต่หากเป็นบ้านหรืออาคารที่มีขนาดเล็กและมีปริมาณการใช้ไฟฟ้าไม่มากควรติดตั้งระบบไฟฟ้า 1 เฟสก็เพียงพอ
จะเห็นได้ว่า ไฟฟ้า เป็นแหล่งพลังงานสำคัญในการดำเนินชีวิต โดยเฉพาะบ้านที่อยู่มานาน จึงควรหมั่น ตรวจระบบไฟฟ้า ภายในบ้านให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้อยู่เสมอ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินภายในบ้านของเรานั่นเอง
สามารถติดตามบทความต่าง ๆ ของ KACHA ได้ตามนี้เลย
KACHA ผู้จัดจำหน่าย รอกโซ่ รอกโซ่มือสาว เครนยกของ และอุปกรณ์เสริมสำหรับงานช่าง ต่าง ๆ ราคาจับต้องได้ สินค้าคุณภาพ บริการหลังการขายที่ประทับใจ นอกจากนี้ บริษัทของเรา ยังมีบริการรับ สร้างโกดัง สร้างโรงงาน สร้างคลังสินค้าต่าง ๆ จากช่างมืออาชีพที่มีประสบการณ์ การันตีผ่านมาตรฐานก่อสร้าง และความปลอดภัยต่าง ๆ เข้าชมเว็บไซต์ www.kacha.co.th
เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสารสำคัญ และโปรโมชั่นพิเศษมากมาย สามารถติดตามเราผ่านช่องทางต่างๆได้หลากหลายช่องทางตามด้านล่างนี้เลย
บทความที่เกี่ยวข้อง
พลาสติก PE คืออะไร? รู้จักประเภท คุณสมบัติ และการใช้งานที่ควรรู้
25 กรกฎาคม 2025
พลาสติก PP คืออะไร? รวมคุณสมบัติและการใช้งาน
14 กรกฎาคม 2025
มือใหม่ต้องรู้! หัวไขควงแบบต่างๆ มีอะไรบ้าง ใช้ต่างกันยังไง
30 มิถุนายน 2025
ไขข้อสงสัย! น็อตคืออะไร น็อตมีกี่ประเภท
30 มิถุนายน 2025
10 อุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วม ที่ควรมีไว้ติดบ้านก่อนน้ำจะมา
9 มิถุนายน 2025
แม่แรงไฮดรอลิค คืออะไร มีแบบไหนบ้าง?
9 มิถุนายน 2025
บทความที่น่าสนใจ
พลาสติก PE คืออะไร? รู้จักประเภท คุณสมบัติ และการใช้งานที่ควรรู้
25 กรกฎาคม 2025
พลาสติก PP คืออะไร? รวมคุณสมบัติและการใช้งาน
14 กรกฎาคม 2025
มือใหม่ต้องรู้! หัวไขควงแบบต่างๆ มีอะไรบ้าง ใช้ต่างกันยังไง
30 มิถุนายน 2025
ไขข้อสงสัย! น็อตคืออะไร น็อตมีกี่ประเภท
30 มิถุนายน 2025
10 อุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วม ที่ควรมีไว้ติดบ้านก่อนน้ำจะมา
9 มิถุนายน 2025
แม่แรงไฮดรอลิค คืออะไร มีแบบไหนบ้าง?
9 มิถุนายน 2025