
การสร้างบ้านตาม ทิศทางลม แดด ฝน เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องใช้เป็นปัจจัยประกอบการออกแบบบ้าน เพื่อให้ได้บ้านอยู่ในทิศทางที่สัมพันธ์กับสภาพอากาศของเมืองไทย ทั้งร้อน ฝน หนาว รวมถึงทิศทางลมที่เปลี่ยนไปในแต่ละช่วงเวลา บทความนี้ KACHA เลยอยากจะพาไปรู้จักกับ “ทิศทางลม” เพื่อเป็นความรู้สำหรับคนที่กำลังจะสร้างบ้านว่าจะสำคัญอย่างไร? ไปดูกันเลย
ทิศทางลม คืออะไร?
ทิศทางลมคือ กระแสอากาศที่เคลื่อนที่พัดผ่านเข้ามาตามทิศทางต่าง ๆ ซึ่งถือได้ว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ อีกเรื่องหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้ในการใช้วางแปลนผังบ้านลงบนตำแหน่งของพื้นที่สำหรับปลูกสร้างบ้าน เพื่อให้บ้านหันไปในทิศทางที่เหมาะสมกับสภาพอากาศและตำแหน่งที่ตั้ง

ทิศทางลมในประเทศไทย เป็นอย่างไร?
ก่อนการสร้างบ้าน หรือซื้อบ้านนั้น สิ่งที่ควรรู้และทำความเข้าใจ คือ การวางแผนผังของทิศบ้านให้เหมาะสมกับทิศทางลม แดด และฝน ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในเขตร้อน มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าวเกือบตลอดทั้งปี โดยแบ่งออกเป็น 3 ฤดู ดังนี้
1. ฤดูร้อน โดยเริ่มต้นประมาณช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม
- อากาศร้อน : จะมีอุณหภูมิอยู่ระหว่าง 35-39.9 อาศาเซลเซียส
- อากาศร้อนจัด : จะมีอุณหภูมิสูงตั้งแต่ 40 องศาเซลเซียสขึ้นไป
2. ฤดูฝน เริ่มต้นประมาณช่วงเดือนมิถุนายน-พฤศจิกายน โดยทั่วไปแล้ว จะเข้าสู่ช่วงฤดูฝนไม่ช้าก็เร็วกว่ากำหนดประมาณ 1-2 สัปดาห์ เมื่อมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ได้พัดผ่านปกคลุมประเทศไทย รวมถึงมีร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่าน ทำให้เริ่มมีฝนตกชุกทั่วทั้งประเทศ ซึ่งสามารถวัดค่าปริมาณน้ำฝนได้ ดังนี้
- ฝนวัดจำนวนไม่ได้ : ปริมาณฝนน้อยกว่า 1 มิลลิเมตร
- ฝนเล็กน้อย : ปริมาณฝนระหว่าง 1-10.0 มิลลิเมตร
- ฝนปานกลาง : ปริมาณฝนระหว่าง 1-35.0 มิลลิเมตร
- ฝนหนัก : ปริมาณฝนระหว่าง 1-90.0 มิลลิเมตร
- ฝนหนักมาก : ปริมาณฝนตั้งแต่ 1 มิลลิเมตรขึ้นไป
3. ฤดูหนาว เริ่มต้นประมาณช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ ในช่วงราว ๆ 1-2 สัปดาห์แรกก่อนเปลี่ยนฤดูกาล จากฤดูฝนเข้าสู่ฤดูหนาว สภาพอากาศจะมีความแปรปรวนค่อนข้างสูง และเกิดขึ้นไม่แน่นอน แม้ว่าจะเริ่มมีอากาศเย็นแล้ว แต่ก็ยังคงมีฝนตกประปรายอยู่ ซึ่งเกณฑ์ในการแบ่งอุณหภูมิต่ำสุดของลักษณะสภาพอากาศในฤดูหนาว สามารถแบ่งออกได้ ดังนี้
- อากาศหนาวจัด : จะมีอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส
- อากาศหนาว : มีอุณหภูมิระหว่าง 0-15.9 องศาเซลเซียส
- อากาศเย็น : มีอุณหภูมิระหว่าง 0-22.9 องศาเซลเซียส
ดังนั้นการออกแบบบ้าน ควรวางตำแหน่งให้ถูกทิศทาง เพื่อใช้ประโยชน์จากกระแสลมทั้ง 2 ช่วงเวลานี้มากที่สุด โดยด้านยาวของบ้าน หันเข้าหาทิศทางลม เพื่อรับความเย็นเข้าสู่ตัวบ้าน และมีตำแหน่งประตู-หน้าต่าง เป็นช่องเปิด ให้สามารถระบายถ่ายเทอากาศ และความร้อนระหว่างภายนอกและภายในได้อย่างสมดุล
ข้อดี-ข้อเสีย ของทิศทางลม
การอ่านทิศทางลมให้ออก ถือเป็นสิ่งจำเป็น และมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะทำให้บ้านน่าอยู่ มีอายุการใช้งานที่ยาวนานแล้ว ยังทำให้บ้านธรรมดา ๆ กลายมาเป็นบ้านประหยัดพลังงานได้อีกด้วย ข้อดีและข้อเสียของทิศทางลมที่ส่งผลโดยตรงต่อตัวบ้าน มีดังนี้
1. ข้อดีของบ้านที่ตั้งรับทิศทางลมได้ถูกต้อง
- ประหยัดพลังงาน เนื่องจากตัวบ้านถ่ายเทอากาศได้สะดวก ไม่ร้อนอบอ้าว และเย็นสบาย
- ยืดอายุการใช้งาน เนื่องจากลดแรงปะทะโดยตรงกับสภาพอากาศต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแดด ลม และฝน
- สนุกกับการจัดการพื้นที่ใช้สอยต่าง ๆ ภายในบ้านให้เข้ากับทิศทางลม เพื่อช่วยประหยัดพลังงาน โดยใช้ประโยชน์จากแสงแดดและลมจากธรรมชาติ
2. ข้อเสียของบ้านที่ตั้งรับทิศทางลมไม่ถูกต้อง
- หากตั้งทิศทางของบ้านในทิศทางรับกับลมมรสุม หรือได้รับอิทธิพลจากลมมรสุม เมื่อเกิดพายุฝนลมฟ้ากระหน่ำ จะทำให้บ้านเกิดความเสียหายได้ เนื่องจากเป็นสุดเสี่ยงจากการพัดผ่านของกระแสลมและฝนโดยตรง
วางผังบ้านอย่างไรให้ถูกทิศทางลม แดด ฝน
ต้องรู้ทิศของแสงแดด ทิศฝนสาด
- ทิศแสงแดด ดวงอาทิตย์จะโคจรอ้อมไปทางทิศใต้นาน 8 เดือน คือ ช่วงเดือนกันยายน-เมษายน และอ้อมไปทางทิศเหนือเล็กน้อย 4 เดือน ในช่วงเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม ทำให้ทิศใต้เป็นทิศที่รับแดดมากที่สุด แต่ทิศที่ร้อนที่สุด คือ ทิศตะวันตก เพราะรับแสงแดดโดยตรงในช่วงบ่ายนั่นเอง
- ทิศของลมและฝน ทิศตะวันตกเฉียงใต้ จะเป็นทิศที่มีฝนสาดเข้าบ้านมากที่สุด เพราะเป็นฤดูฝน ซึ่งได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ฤดูฝนจะเริ่มจากช่วงกลางเดือนพฤษภาคม และทิ้งช่วงไปสักพัก ก่อนจะกลับมาในเดือนกรกฎาคม จนไปสิ้นสุดในเดือนตุลาคม แต่บางพื้นที่ เช่น ภาคใต้ ยังคงมีฝนตกชุกไปจนถึงปลายปี
ต้องรู้ทิศของห้องนอน
ห้องนอน ควรตั้งอยู่ทางทิศเหนือ เพื่อรับแสงแดดอ่อน ๆ ที่แสนสดใสในยามเช้า ช่วงเวลา 6:30-9:00 น. อีกทั้งเมื่อถึงช่วงที่ดวงอาทิตย์โคจรอ้อมทิศใต้ ห้องที่อยู่ทางทิศนี้ จะไม่สะสมความร้อน ทำให้นอนหลับสบายในยามค่ำคืน ยิ่งถ้าเป็นช่วงฤดูหนาว ก็จะมีลมเย็น ๆ พัดโชยเข้ามาด้วย

ต้องรู้ทิศของห้องรับแขก ห้องทำงาน
ควรตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อรับแสงแดดในช่วงเช้าที่ยังไม่ร้อนจนเกินไป ตกบ่ายแสงแดดก็ไม่สาดเข้ามา จึงสามารถนั่งทำงานหรือนั่งเล่นได้อย่างรื่นรมย์ตลอดวัน
ต้องรู้ทิศของทางเข้าบ้าน และสวน
ควรอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ พื้นที่สีเขียวหน้าบ้าน จะช่วยให้ลมที่พัดผ่านเข้าไปในบ้านเป็นลมเย็น และสดชื่น ช่วยกรองแสงสะท้อนให้ดูนวลตา ไม่แข็งกระด้างเหมือนส่องผ่านพื้นปูนเข้าไป

ต้องรู้ทิศของห้องเก็บของ และลานจอดรถ
ห้องเก็บของ และลานจอดรถ ควรอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ เพื่อเป็นตัวกั้นไม่ให้ความร้อนเข้าไปถึงตัวบ้านได้ แต่ก็ควรมีการระบายอากาศที่ดีด้วย ไม่เช่นนั้นฝุ่นและควัน อาจเป็นต้นเหตุให้ข้าวของในพื้นที่ส่วนนี้เสียหายได้ ทิศนี้ควรมีชายคายื่นยาวเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันแดดแรงช่วงบ่าย และป้องกันฝนสาดเข้าสู่ตัวบ้านด้วย
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง :
ต้องรู้ทิศของห้องทานอาหาร
ห้องทานอาหาร ควรตั้งทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อรับลมจากทิศใต้ สำหรับการระบายอากาศ หรือหากใครจะยกไปตั้งติดกับห้องครัว ก็ไม่ผิดแต่อย่างใด

ต้องรู้ทิศของห้องน้ำ ห้องครัว ส่วนซักล้าง
ห้องน้ำ และห้องครัว ควรตั้งไว้ทางทิศตะวันตก เพื่อให้แสงแดดช่วยฆ่าเชื้อโรค และลดกลิ่นอับอันไม่พึงประสงค์ ทั้งยังช่วยป้องกันความร้อน และความชื้นเข้าไปยังพื้นที่ใช้งานในบ้าน และส่วนซักล้างควรอยู่ทางทิศตะวันตก เพื่อใช้ประโยชน์จากแสงแดดยามบ่ายอย่างเต็มที่ ควรมีชายคายื่นยาว เพื่อป้องกันแดดแรงฝนสาดด้วย
เป็นอย่างไรกันบ้างกับทิศทางลม ที่เรานำมาฝากกัน จะเห็นว่าทิศทางลม แดด ฝนนั้น มีส่วนช่วยทำให้ยืดอายุการใช้งานและถนอมบ้านให้อยู่กับเราไปนาน ๆ อยู่สบายในทุก ๆ ฤดู ทำให้บ้านไม่ร้อน เย็นสบาย และประหยัดพลังงานอีกด้วย ????????
>>สามารถติดตามบทความต่าง ๆ ของ KACHA ได้ตามนี้เลย<<
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง :
ข้อมูลและภาพจาก : บ้านและสวน
เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสารสำคัญ และโปรโมชั่นพิเศษมากมาย สามารถติดตามเราผ่านช่องทางต่างๆได้หลากหลายช่องทางตามด้านล่างนี้เลย
บทความที่เกี่ยวข้อง
พลาสติก PE คืออะไร? รู้จักประเภท คุณสมบัติ และการใช้งานที่ควรรู้
30 กรกฎาคม 2025
พลาสติก PP คืออะไร? รวมคุณสมบัติและการใช้งาน
30 กรกฎาคม 2025
มือใหม่ต้องรู้! หัวไขควงแบบต่างๆ มีอะไรบ้าง ใช้ต่างกันยังไง
30 มิถุนายน 2025
ไขข้อสงสัย! น็อตคืออะไร น็อตมีกี่ประเภท
30 มิถุนายน 2025
10 อุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วม ที่ควรมีไว้ติดบ้านก่อนน้ำจะมา
9 มิถุนายน 2025
แม่แรงไฮดรอลิค คืออะไร มีแบบไหนบ้าง?
9 มิถุนายน 2025
บทความที่น่าสนใจ
พลาสติก PE คืออะไร? รู้จักประเภท คุณสมบัติ และการใช้งานที่ควรรู้
30 กรกฎาคม 2025
พลาสติก PP คืออะไร? รวมคุณสมบัติและการใช้งาน
30 กรกฎาคม 2025
มือใหม่ต้องรู้! หัวไขควงแบบต่างๆ มีอะไรบ้าง ใช้ต่างกันยังไง
30 มิถุนายน 2025
ไขข้อสงสัย! น็อตคืออะไร น็อตมีกี่ประเภท
30 มิถุนายน 2025
10 อุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วม ที่ควรมีไว้ติดบ้านก่อนน้ำจะมา
9 มิถุนายน 2025
แม่แรงไฮดรอลิค คืออะไร มีแบบไหนบ้าง?
9 มิถุนายน 2025