Brisbane wynn cryptocurrency casino

  1. Slots Games Online: You don't need to worry because they are among the most trustworthy online gaming provider in Malaysia.
  2. Paradice Casino No Deposit Bonus 100 Free Spins - There have been discussions of blocking foreign gaming sites but that measure does not appear to be imminent.
  3. How Do Online Casino Bonuses Work: We believe that from the technical side of the site is well-designed, from the left of its side we have a panel that quickly allows you to make a deposit and withdrawals and go to our player profile or on the main page.

Online cryptocurrency casino 10 free

Best Online Casinos To Play Ireland
However, an average rake will be in the region of 10-20%.
Bonus Register Casino Uk
Indeed, VIP members can also win a pizza each week with the VIP Pizza Club promotion.
With AU and Asian dealers, multi-game play capabilities and VIP tables, players will enjoy a true to life experience.

Rama cryptocurrency casino orillia

Best New Uk Based Online Casinos 2025
Youve got your roulette wheel strategy down, now you just need to put it into action.
European Roulette System
So whatever your taste in beer, perry or cider is, you will most likely find a lot of it at the Australia Beer & Cider Festival.
Play European Roulette At Williamhill Online Casino

วิธีจัดเก็บ สินค้าอันตราย ทำอย่างไรให้มีความปลอดภัยต่อคลังสินค้า

วิธีจัดเก็บ สินค้าอันตราย ทำอย่างไรให้มีความปลอดภัยต่อคลังสินค้า

ขึ้นชื่อว่า สินค้าอันตราย ฟังดูแล้ว ก็อดเป็นกังวลเกี่ยวกับการเก็บรักษาอยู่ไม่น้อย บทความนี้เลยพามาเช็กลิสท์วิธีจัดเก็บ สินค้าอันตราย อย่างไรให้ปลอดภัยต่อสินค้า แค่แยกให้ถูกประเภท ก็ช่วยลดความเสี่ยงได้แล้ว!

สินค้าอันตราย คืออะไร? มีกี่ประเภท?

สินค้าอันตราย (Dangerous Goods) หมายถึง สิ่งของ หรือวัตถุ ที่สามารถก่อให้เกิดความเสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญต่อสุขภาพ ความปลอดภัย หรือทรัพย์สินเมื่อนำมาขนส่ง อาจด้วยตัวของมันเอง หรือเมื่อสัมผัสกับสารอื่น (อากาศ ประกายไฟ หรือ น้ำ ฯลฯ) ก็ตาม

โดยสหประชาชาติด้านการขนส่งสินค้าอันตราย ภายใต้สภาเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ ได้จัดทำคู่มือเล่มสีส้ม (Orange Book) ว่าด้วยการขนส่งสินค้าอันตราย ให้นำไปใช้เป็นแนวทางในการออกกฎหมายในประเทศ ซึ่งคู่มือเล่มสีส้มนี้ มีการปรับปรุงใหม่เป็นระยะทุกๆ สองปี เพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม

สินค้าอันตราย คืออะไร? มีกี่ประเภท?

สินค้าอันตราย จำแนกได้ทั้งหมด 9 ประเภท

  1. ประเภทที่ 1 วัตถุระเบิด ที่สามารถระเบิดออกมาได้ เมื่อได้รับความร้อน ประกายไฟ เปลวไฟ การเสียดสี หรือการกระทบกระเทือน เช่น ระเบิด ดินปืน หัวกระสุน
  2. ประเภท 2 ก๊าซ
    • ประเภท 2A ก๊าซอัด ก๊าซเหลว หรือก๊าซที่สามารถละลายได้ภายใต้ความดัน เช่น ก๊าซอัดในถัง – LPG
    • ประเภท 2B ก๊าซภายใต้ความดันในกระป๋องสเปรย์ เช่น อุปกรณ์ฉีดละอองลอย (Aerosol Dispensers) และภาชนะปิดขนาดเล็กที่บรรจุก๊าซ (Gas Cartridges) ที่ทำด้วยโลหะ แก้ว หรือพลาสติกที่ออกแบบให้ใช้งานครั้งเดียว
  1. ประเภท 3 ของเหลวไวไฟ
    • ประเภท 3A ของเหลวที่มีจุดวาบไฟ ไม่เกิน 60°C เช่น MEK, Toluene
    • ประเภท 3B ของเหลวที่มีจุดวาบไฟมากกว่า 60 – 93°C และมีคุณสมบัติเข้ากับน้ำไม่ได้
  1. ประเภท 4 ของแข็งไวไฟ
    • ประเภท 4.1A ของแข็งไวไฟที่มีคุณสมบัติระเบิด ตาม UN Recommendations ได้แก่ วัตถุระเบิดที่ถูกทำให้เฉื่อยด้วยน้ำ หรือแอลกอฮอล์ หรือเจือจางโดยสารอื่นเพื่อข่มคุณสมบัติการระเบิด
    • ประเภท 4.1B ของแข็งไวไฟที่ไม่มีคุณสมบัติระเบิด ตาม UN Recommendationsสามารถลุกไหม้ง่าย เนื่องจากการเสียดสีกัน หรือเมื่อลุกไหม้สามารถลุกลามออกไปได้อย่างรวดเร็ว
    • ประเภท 4.2 สารที่มีความเสี่ยงต่อการลุกไหม้ได้เอง เช่น สาร Pyrophoric : ตัวสารทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศภายใน 5 นาที อุณหภูมิสูงจนลุกติดไฟได้ด้วยตัวเอง และสาร Self-heating : ตัวสารทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ เกิดความร้อนรอบตัวไม่สามารถระบายออกได้ และสะสมต่อเนื่องอยู่ภายในจนทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นจนถึงอุณหภูมิที่สามารถลุกติดไฟได้เอง
    • ประเภท 4.3 สารให้ก๊าซไวไฟเมื่อสัมผัสกับน้ำ หรือ ความชื้นในอากาศ สามารถให้ก๊าซไวไฟเป็นส่วนผสมของอากาศในระดับความเข้มข้นที่สามารถจุดระเบิดได้
  1. ประเภท 5 สารที่เมื่อรวมกับสารอื่นแล้วจะเกิดปฏิกิริยาทำให้เกิดติดไฟได้
    • ประเภท 5.1 สารออกซิไดซ์ เป็นสารที่ไม่จำเป็นต้องติดไฟ โดยทั่วไปจะปล่อยออกซิเจน ซึ่งเป็นสาเหตุหรือร่วมในการลุกไหม้ของวัสดุอื่น
    • ประเภท 5.2 สารเปอร์ออกไซด์อินทรีย์ เป็นสารไม่เสถียร ไวต่อความร้อน เมื่อได้รับความร้อนจะสลายตัวซึ่งจะให้ความร้อนและไอของสารไวไฟหรือติดไฟและอาจเกิดการระเบิดตามมา
  2. ประเภท 6 สารพิษ
    • ประเภท 6.1A สารติดไฟได้ ที่มีคุณสมบัติเป็นพิษ
    • ประเภท 6.1B สารไม่ติดไฟได้ ที่มีคุณสมบัติเป็นพิษ
    • ประเภท 6.2 สารติดเชื้อ ที่เป็นสาเหตุการเกิดโรคในมนุษย์และสัตว์ ได้แก่ แบคทีเรีย ไวรัส ริคเก็ตเซีย (Rickettsia) เชื้อรา รวมทั้งจุลินทรีย์ที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม
  3. ประเภท 7 สารกัมมันตรังสี
  4. ประเภท 8 สารที่มีสภาพเป็นกรด
    • สารติดไฟ ที่มีคุณสมบัติกัดกร่อน
    • สารไม่ติดไฟ ที่มีคุณสมบัติกัดกร่อน
  5. ประเภท 9 สิ่งของหรือสารอันตรายเบ็ดเตล็ด

วัตถุและสิ่งของอันตราย ซึ่งไม่จัดอยู่ในประเภทที่ 1 ถึงประเภทที่ 8 และให้รวมถึงสารที่มีอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 100 องศาเซลเซียสในสภาพของเหลว หรือมีอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 240 องศาเซลเซียสในสภาพของแข็ง เช่น ปุ๋ยแอมโมเนียมไนเตรทชนิด B (UN.2071), Asbestos, Zinc hydrosulfite, PBC เป็นต้น

วิธีจัดเก็บ สินค้าอันตราย ให้ปลอดภัยต่อคลังสินค้า

วิธีจัดเก็บ สินค้าอันตราย ให้ปลอดภัยต่อคลังสินค้า

การจัดเก็บวัตถุอันตราย แบ่งเป็น 3 แบบดังนี้

  1. การจัดเก็บแบบแยกบริเวณ (Separate Storage) หมายถึง การจัดเก็บวัตถุอันตายแยกบริเวณออกจากกัน
    • กรณีอยู่ในอาคาร (ภายในคลังสินค้าเดียวกัน) จะถูกแยกออกจากสารอื่น ๆ โดยมีผนังทนไฟ ซึ่งสามารถทนไฟได้อย่างน้อย 90 นาที
    • กรณีอยู่กลางแจ้ง (ภายนอกคลังสินค้า) จะถูกแยกออกจากบริเวณอื่นด้วยระยะทางที่เหมาะสม เช่น 5 เมตรระหว่างสารไวไฟ กับสารไม่ไวไฟ หรือ 10 เมตรระหว่างวัตถุอันตรายอื่รน ๆ หรือ กั้นด้วยกำแพงทนไฟ ซึ่งสามารถทนไฟอย่างน้อย 90 นาที
  2. การจัดเก็บแบบแยกห่าง (Segregate Storage) หมายถึง การจัดเก็บวัตถุอันตรายตั้งแต่ 2 ประเภทขึ้นไปภายในบริเวณเดียวกัน ทั้งนี้ต้องมีมาตรการป้องกันที่เพียงพอสำหรับการจัดเก็บวัตถุอันตรายนั้น โดยต้องนำข้อกำหนดพิเศษเพิ่มเติมสำหรับการจัดเก็บวัตถุอันตรายที่มีคุณสมบัติเฉพาะ เช่น วัตถุระเบิด สารออกซิไดส์ หรือสารไวไฟ มาพิจารณาประกอบ ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ฝนตารางจัดเก็บวัตถุอันตราย
วิธีจัดเก็บ สินค้าอันตราย ให้ปลอดภัยต่อคลังสินค้า
วิธีจัดเก็บ สินค้าอันตราย ให้ปลอดภัยต่อคลังสินค้า

3. การจัดเก็บวัตถุอันตรายที่มีปริมาณน้อยในคลังสินค้า ซึ่งโดยปกติจะไม่อนุญาตให้ทำได้แต่หากจำเป็นต้องจัดเก็บในปริมาณน้อยเพียงชั่วคราว ก็อนุโลมให้จัดเก้บได้ แต่ต้องมั่นใจว่า

    • มาตรการด้านความปลอดภัยที่จำเป็นสำหรับวัตถุอันตรายประเภทอื่น ๆ ที่เก็บในคลังสินค้านั้น มีเพียงพอ
    • วัตถุอันตรายปริมาณน้อยที่จะนำมาจัดรวม ต้องไม่ทำปฏิกิริยากับ วัตถถุอันตรายประเภทอื่น ๆ ที่จัดเก็บอยู่ก่อนแล้ว
    • เพิ่มมาตรการในการป้องกัน เช่น เว้นระยะห่างปลอดภัย อย่างน้อย 3 เมตร, เก็บในตู้พิเศษสำหรับวัตถุอันตราย หรือ ห้องที่สร้างเพื่อการจัดเก็บแยกบริเวณ เป็นต้น
    • หากจัดเก็บกระป๋องสเปรย์ (aerosol) ต้องมีวัสดุกั้น เช่น กำแพงกั้น หรือ ตาข่ายเหล็ก เป็นต้น

สถานที่เก็บรักษา สินค้าอันตราย ควรมีอะไรบ้าง?

สถานที่เก็บรักษา สินค้าอันตราย ควรมีอะไรบ้าง?

1.พื้นอาคาร

    • แข็งแรงรับน้ำหนักได้ดี
    • ทนทานต่อการกัดกร่อนของสารในวัตถุอันตราย
    • หากเป็นพื้นอาคารสำหรับเก็บของ – ก๊าซไวไฟ พื้นต้องนำไฟฟ้าและป้องกันไฟฟ้าสถิตได้
    • พื้นต้องไม่ดูดซับของเหลว เรียบ ไม่ลื่น ไม่แตกร้าว ทัความสะอาดง่าย

2. หลังคา

    • กันแดด กันฝนได้ดี ไม่มีรอยรั่ว
    • สามารถระบายความร้อนและควัน ในกรณีเกิดเพลิงไหม้ได้ดี
    • วัสดุมุงหลังคาทนไฟได้ 30 นาที
    • โครงสร้างหลัก เช่น เสา คาน ต้องทำด้วยวัสดุไม่ติดไฟ
    • หลังคาภายในอาคารไม่ควรมีฝ้า หากจำเป็นควรใช้ฝ้าที่ทำจากวัสดุไม่ติดไฟ

3.ผนังอาคาร

    • ผนังกันไฟตัดตอนมี 2 กรณี
        • อาคารมีความยาวและความกว้างตั้งแต่ 30 เมตรขึ้นไป ต้องมีผนังกันไฟกั้นตัดตอนทุก 30 เมตร
        • อาคารมีความกว้างน้อยกว่า 30 เมตร และมีพื้นที่ตั้งแต่ 1,200 ตารางเมตร ต้องมีผนังกันไฟตัดตอนที่ระยะห่างไม่เกิน 40 เมตร
สถานที่เก็บรักษา สินค้าอันตราย ควรมีอะไรบ้าง?

4. ประตูและทางออกฉุกเฉิน

    • ประตูฉุกเฉินควรมีขนาดกว้างไม่น้อยกว่า 1.1 เมตร
    • ประตูฉุกเฉินต้องไม่มีการล็อคประตุด้วยกุญแจ และไม่มีสิ่งกีดขวาง
    • ประตูฉุกเฉินต้องเป็นประตูบานผลักออกด้านนอกเท่านั้น เมื่อเปิดประตูไปต้องไม่เจอทางตัน
    • ประตูฉุกเฉินในอาคารขนาดใหญ่ ควรมีทุกระยะ 35 เมตร
    • มีแสงสว่างฉุกเฉินส่องบริเวณประตูฉุกเฉินเสมอ
    • ประตูสำหรับเข้า – ออก ต้องมีอย่างน้อย 2 ประตู
    • ประตูกันไฟแบบเลื่อนปิดอัตโนมัติเมื่อเกิดเปลวไฟ ต้องไม่หลุดหรือล้มออกจากรางและเชื่อมต่อกับสัญญาณเตือนภัย
    • ประตูกันไฟต้องทนไฟได้ไม่น้อยกว่ากำแพงกันไฟ

5. กำแพงทนไฟ

    • กำแพงทนไฟสูงเหนือหลังคา 0.3 – 1 เมตร
    • กำแพงทนไฟด้านผนังยื่นออก 0.3 – 0.5 เมตร
    • กำแพงทนไฟ : F30 F60 F90 F120 F180 ขึ้นอยู่กับวัสดุและความหนา
    • กำแพงทนไฟต้องทำด้วย ฉนวนกันความร้อน หรือ ไม่ลามไฟ และควรบุด้วยแผ่นเหล็กทั้งสองด้าน

6. ระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้า

    • อุปกรณ์ไฟฟ้ามีการต่อสายดิน
    • มีระบบป้องกันการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร
    • หลอดไฟแสงสว่างควรอยู่เหนือวัตถุอันตรายอย่างน้อย 50 ซม. และต้องไม่ก่อให้เกิดความร้อนต่อวัตถุอันตรายที่เก็บ
    • กรณีใช้โคมไฟชนิด Metal halide และ Mercury ต้องมีฝากันครอบ
    • กรณีเก็บของเหลวไวไฟหรือสารเปอร์ออกไซด์อินทรีย์ (3A และ 5.2) อุปกรณ์ไฟฟ้าต้องเป็นชนิดป้องกันระเบิด (Explosion proof) ที่เหมาะสมกับชนิดสารเคมี
    • กรณีมีการถ่ายบรรจุของเหลวไวไฟ
    • ต้องมีมาตรการป้องกันประจุไฟฟ้าสถิต
    • มีการต่อสายดินถัง/ภาชนะโลหะเพื่อป้องกันไฟฟ้าสถิต
    • สาย/ท่อที่ใช้ขนถ่ายควรเป็นชนิดป้องกันการเกิดไฟฟ้าสถิต
สถานที่เก็บรักษา สินค้าอันตราย ควรมีอะไรบ้าง?

7. ระบบป้องกันฟ้าผ่า

    • ติดตั้งระบบสายล่อฟ้า ครอบคลุมอาคารที่เก็บของเหลวไวไฟหรือก๊าซไวไฟ
    • มีค่าความต้านทานดินไม่เกิน 5 โอห์ม ต้องมีการตรวจอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
    • สิ่งปลูกสร้างใด ๆ ที่อยู่ในระยะ 30 เมตรของสิ่งปลูกสร้างที่เก็บวัตถุระเบิดหรือวัตถุไวไฟ ต้องติดตั้งระบบสายล่อฟ้า

8. ระบบระบายอากาศ

    • การระบายอากาศแบบธรรมชาติ เช่น หลังคาซ้อน 2 ชั้นกลางห้อง (แบบกรงนก)
    • การระบายอากาศแบบทางกล เช่น พัดลมระบายอากาศ (ต้องได้รับการออกแบบจากผู้เชี่ยวชาญ

9. เส้นทางจราจร

    • มีการจัดแบ่งเส้นทางเดินจากเส้นทางรถยกอย่างชัดเจนโดยมีการกำหนดพื้นที่จัดวางสารเคมี/วัตถุอันตราย อย่างชัดเจน พร้อมกำหนดแนวเส้นทางเดินรถยก แยกกับแนวเส้นทางคนเดิน
สถานที่เก็บรักษา สินค้าอันตราย ควรมีอะไรบ้าง?

10. ระบบป้องกันอัคคีภัย

    • สัญญาณเตือนภัย
      • มีระบบสัญญาณแจ้งเหตุไฟไหม้ แบบกดด้วยมือ ต้องอยู่ในบริเวณที่เห็นเด่นชัด ไม่มีสิ่งของวางกีดขวาง
      • มีระบบสัญญาณแจ้งเหตุไฟไหม้ แบบอัตโนมัติ
      • มีระบบสัญญาณแจ้งเหตุสารเคมี/ก๊าซรั่วไหล และมีเสียงเตือนที่ต่างจากระบบสัญญาณแจ้งไฟไหม้
    • การติดตั้งสัญญาณเตือนภัย
      • 1) สวิตซ์แบบกดอยู่ในตำแหน่งเหมาะสมทุกระยะ 30 ม. และมีการทดสอบเดือนละ 1 ครั้ง
      • 2) อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ ต้องติดตั้งตำแหน่งสูงสุดของหลังคา
      • 3) อุปกรณ์ตรวจจับความร้อน/ตรวจจับก๊าซ ติดตั้งระดับความสูงเหมาะสม
      • 4) อุปกรณ์ตรวจจับก๊าซ ติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสมกับชนิดของก๊าซ
      • 5) อุปกรณ์ตรวจจับทุกชนิดต้องกันระเบิดได้ หากติดตั้งในพื้นที่ที่มีไอระเหยสารไวไฟ
    • อุปกรณ์สำหรับใช้ดับเพลิงติดตั้งกระจายทั่วทั้งคลังสินค้า

11. ระบบน้ำดับเพลิง

  • หัวกระจายน้ำดับเพลิง (Water sprinkling) ครอบคลุมพื้นที่ที่มีการเก็บวัตถุอันตราย กรณีพื้นที่เก็บรักษาวัตถุไวไฟขนาดตั้งแต่ 14 ตร.ม. ขึ้นไป ต้องติดตั้งระบบดับเพลิงอัตโนมัติ
  • หากมีการติดตั้งระบบหัวกระจายน้ำดับเพลิงในชั้นวางสินค้า (In rack sprinkling) อย่างน้อยต้องติดตั้งหัวกระจายน้ำทุก 2 ชั้น และต้องไม่มีการปิดวาล์วท่อจ่ายน้ำ
  • ระบบหัวรับน้ำดับเพลิง (Water hydrant) ทุกระยะ 50 ม. ข้อต่อสายส่งน้ำต้องเป็นขนาดเดียวกัน หรือเข้ากันได้กับอุปกรณ์ของหน่วยดับเพลิงท้องถิ่น
  • ตู้ดับเพลิงแบบสาย (Fire hose reel) มีความยาวครอบคลุมพื้นที่ หน้าตัดท่อไม่ต่ำกว่า 1 – ½ นิ้ว
  • มีระบบน้ำสำรองสำหรับดับเพลิง มีไม่น้อยกว่า 100 ลบ.ม./ชม.ในพื้นที่มีขนาดไม่เกิน 2,500 ตร.ม.
  • มีระบบน้ำสำรองสำหรับดับเพลิง มีไม่น้อยกว่า 200 ลบ.ม./ชม. ในพื้นที่มีขนาดไม่เกิน 4,000 ตร.ม.
  • เครื่องสูบน้ำดับเพลิงชนิด Jockey pump ต้องมีการตรวจสอบ เกจวัดแรงดันในท่อว่าอยู่ในสภาวะพร้อมใช้งาน
  • เครื่องสูบน้ำดับเพลิงชนิด Emergency Electric pump ต้องมีการตรวจสอบและบำรุงรักษาให้พร้อมใช้งาน
  • เครื่องสูบน้ำดับเพลิงชนิด Diesel Engine Pump ต้องมีการตรวจสอบความเพียงพอของน้ำมันดีเซลและบำรุงรักษาให้พร้อมใช้งาน
  • มีการทดสอบเดินเครื่องสูบน้ำดับเพลิงสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ครั้งละไม่ต่ำกว่า 30 นาที

12. ห้องอาบน้ำฉุกเฉิน อุปกรณ์ล้างตาฉุกเฉิน และอุปกรณ์ปฐมพยาบาล

    • ห้องอาบน้ำฉุกเฉินควรตั้งอยู่ในพื้นที่ปฏิบัติงาน ไม่ไกลและไร้สิ่งกีดขวาง
    • ควรมีพื้นที่สำหรับการปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยมีอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น เช่น อุปกรณ์ทำแผล อุปกรณ์สำหรับล้างตาฉุกเฉิน อุปกรณ์ช่วยระบบทางเดินหายใจ (กรณีผู้ป่วยสูดดมสารพิษ/ไอระเหยเข้าไป)
    • มีแผนรับมือกรณีเกิดอุบัติเหตุ หรือ เจ็บป่วยจากสารเคมี หรือ วัตถุอันตราย

สินค้าอันตราย แท้ที่จริงแล้วเปรียบเหมือนกับสินค้าเปราะบางที่ต้องการการเอาใจใส่ และเก็บรักษาให้ถูกวิธี โดยข้อกำหนดและข้อห้ามของการเก็บรักษาสินค้าอันตรายนั้นยังมีแยกย่อยไปอีกมาก ควรศึกษาให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินนะคะ

ข้อมูลอ้างอิง : nrie.org, dgt-academy, ecs-support, si.mahidol

เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสารสำคัญ และโปรโมชั่นพิเศษมากมาย สามารถติดตามเราผ่านช่องทางต่างๆได้หลากหลายช่องทางตามด้านล่างนี้เลย

บทความที่เกี่ยวข้อง

  • มือใหม่ต้องรู้! หัวไขควงแบบต่างๆ มีอะไรบ้าง ใช้ต่างกันยังไง

    มือใหม่ต้องรู้! หัวไขควงแบบต่างๆ มีอะไรบ้าง ใช้ต่างกันยังไง

    6 มิถุนายน 2025

  • ไขข้อสงสัย! น็อตคืออะไร? น็อตมีกี่ประเภท?

    ไขข้อสงสัย! น็อตคืออะไร น็อตมีกี่ประเภท

    9 มิถุนายน 2025

  • 10 อุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วม ที่ควรเตรียมไว้ก่อนน้ำจะมา

    10 อุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วม ที่ควรมีไว้ติดบ้านก่อนน้ำจะมา

    9 มิถุนายน 2025

  • แม่แรงไฮดรอลิค คืออะไร? มีกี่แบบ?

    แม่แรงไฮดรอลิค คืออะไร มีแบบไหนบ้าง?

    9 มิถุนายน 2025

  • วิธีใช้เครื่องรัดกล่อง รุ่นกึ่งอัตโนมัติ KACHA

    วิธีใช้เครื่องรัดกล่อง ระบบกึ่งอัตโนมัติ – KACHA

    9 มิถุนายน 2025

  • รถ X Lift คืออะไร มีจุดเด่นอย่างไร และทำไมถึงกลายเป็นตัวช่วยสำคัญในภาคอุตสาหกรรม

    รถ X Lift คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญในงานระดับอุตสาหกรรม?

    9 มิถุนายน 2025

บทความที่น่าสนใจ

  • มือใหม่ต้องรู้! หัวไขควงแบบต่างๆ มีอะไรบ้าง ใช้ต่างกันยังไง

    มือใหม่ต้องรู้! หัวไขควงแบบต่างๆ มีอะไรบ้าง ใช้ต่างกันยังไง

    6 มิถุนายน 2025

  • ไขข้อสงสัย! น็อตคืออะไร? น็อตมีกี่ประเภท?

    ไขข้อสงสัย! น็อตคืออะไร น็อตมีกี่ประเภท

    9 มิถุนายน 2025

  • 10 อุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วม ที่ควรเตรียมไว้ก่อนน้ำจะมา

    10 อุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วม ที่ควรมีไว้ติดบ้านก่อนน้ำจะมา

    9 มิถุนายน 2025

  • แม่แรงไฮดรอลิค คืออะไร? มีกี่แบบ?

    แม่แรงไฮดรอลิค คืออะไร มีแบบไหนบ้าง?

    9 มิถุนายน 2025

  • วิธีใช้เครื่องรัดกล่อง รุ่นกึ่งอัตโนมัติ KACHA

    วิธีใช้เครื่องรัดกล่อง ระบบกึ่งอัตโนมัติ – KACHA

    9 มิถุนายน 2025

  • รถ X Lift คืออะไร มีจุดเด่นอย่างไร และทำไมถึงกลายเป็นตัวช่วยสำคัญในภาคอุตสาหกรรม

    รถ X Lift คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญในงานระดับอุตสาหกรรม?

    9 มิถุนายน 2025