
❝ เชื่อว่าหลายคนคงรู้จักกับ “สีย้อมไม้” เป็นสีที่มีความสำคัญกับงานไม้ภายในบ้านของเรา ไม่ว่าจะเป็นวงกบไม้ พื้นไม้ ประตูไม้ หรือแม้แต่เฟอร์นิเจอร์ไม้ โดยเฉพาะกับการทาเพื่อซ่อมแซมให้งานไม้ที่ดูเก่าดูโทรม กลับมามีสีสันสดใสเหมือนได้ของใหม่ ❞
วันนี้ KACHA ขอพาไปดู วิธีการเลือกสีย้อมไม้ที่เหมาะสม ว่างานที่เหมาะกับสีย้อมไม้เป็นแบบไหนกันบ้าง? และสีย้อมไม้ สีทาไม้ ต่างกันอย่างไร?
สีย้อมไม้ คืออะไร?
ในวงการก่อสร้างและตกแต่ง สีย้อมไม้มักจะหมายถึง สีย้อมไม้วูดสเตน (Wood Stain) ที่มีฟิล์มสีโปร่งใส (ใสและมีสี : Transparent) ใช้สำหรับทาไม้ เพื่อรักษาสภาพเนื้อไม้ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น หรือ ทาเพื่อซ่อมแซมให้งานไม้ที่ดูเก่า และทรุดโทรม กลับมามีสีสันสดใสเหมือนใหม่อีกครั้ง โดยเมื่อทาทับลงไปบนเนื้อไม้แล้ว ยังคงเห็นเนื้อไม้และลวดลายเดิมอยู่
คุณสมบัติเด่นของสีย้อมไม้
- ไม่ต้องทาซ้ำบ่อย ๆ ทนทานต่อสภาพอากาศ
- ใช้ปกป้องพื้นผิวของไม้ให้มีความสวยงาม ยืดอายุของไม้ให้ยาวนานขึ้น
- กันน้ำซึมเข้าสู่เนื้อไม้ แต่ปล่อยให้น้ำระเหยออกจากเนื้อไม้ด้วย (สีทาไม้กันน้ำทั้งเข้าและออก แต่น้ำจะเข้าทางปลายไม้ ทำให้ไม้ผุอยู่ข้างในโดยสังเกตได้ยาก)
- สีย้อมไม้มีความยืดหยุ่น เหมาะกับเนื้อไม้ที่ไม่ว่าจะยืด หรือหดตัว สีย้อมไม้ก็สามารถแทรกซึมเข้าไปได้
ประเภทของสีย้อมไม้ มีอะไรบ้าง?
-
สีย้อมไม้สูตรน้ำ
เป็นสีย้อมไม้ที่ไม่ต้องผสมอะไรเพิ่มก็สามารถนำไปใช้งานได้เลย หรืออาจผสมน้ำเพิ่มเติมบ้างเล็กน้อย เมื่อทาลงไปบนงานไม้แล้ว เนื้อฟิล์มจะมีความคงทน ยึดเกาะกับไม้ได้ดี แห้งเร็ว และไม่มีกลิ่นฉุน เป็นสีที่มีความปลอดภัยสูง

-
สีย้อมไม้สูตรน้ำมัน
โดยทั่วไปเป็นสีที่ต้องนำมาผสมกับทินเนอร์ก่อนใช้งาน ส่วนใหญ่จะผสมด้วยอัตราทินเนอร์ประมาณ 10% ต่อปริมาณสีที่ใช้ จึงเหมาะกับทั้งงานภายใน และภายนอก เนื่องจากมีความทนทานต่อแสงแดด ลม และฝนได้ดีกว่า ซึ่งสีที่ได้หลังทาทับลงบนเนื้อไม้ จะค่อนข้างตรงกับสีที่เลือกไว้ ทับเพียง 2 ครั้ง จะได้สีไม้ที่สวยตามต้องการ
วิธีเลือกสีย้อมไม้
การเลือกสีย้อมไม้ นอกจากเราจะเลือกความแตกต่างระหว่างสูตรน้ำ กับสูตรน้ำมันแล้ว ควรเลือกความเงาด้านของสีที่จะใช้ด้วย เพื่อเวลาทาจะได้เห็นลายไม้สวย ๆ ตามต้องการ โดยสีย้อมไม้จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
-
สีย้อมไม้แบบใส (สีย้อมไม้แบบโปร่งแสง)
เป็นสีย้อมไม้แบบโปร่งแสง นิยมใช้ในงานไม้ที่ต้องการโชว์ความสวยงาม หรือความคลาสสิคของไม้ดั้งเดิม ผลิตจากผงสีและเรซิ่น จึงเหมาะกับการใช้ทางานไม้ที่อยู่กลางแจ้งได้ดี
-
สีย้อมไม้แบบเงา (สีย้อมไม้แบบกึ่งโปร่งแสง)
เป็นสีย้อมไม้แบบกึ่งโปร่งแสง คือ ทาลงไปแล้วจะมีสีอยู่บ้าง แต่ก็ยังสามารถโชว์ความสวยงามตามธรรมชาติของลายไม้ได้อยู่ นิยมใช้ทาทั้งภายใน และภายนอก โดยเฉพาะการทาเฟอร์นิเจอไม้ จะนิยมใช้สีย้อมไม้แบบเงานี้มาก ป้องกันการซีดจาง กันน้ำ กันแดด กันความชื้นได้ดี
-
สีย้อมไม้แบบกึ่งเงา (สีย้อมไม้แบบกึ่งเงา กึ่งด้าน)
สีย้อมไม้แบบนี้ เป็นแบบกึ่งเงา กึ่งด้าน โดยนิยมใช้ทาพวกวงกบ ผนัง ประตู-หน้าต่าง สามารถใช้ได้ทั้งภายใน และภายนอก ป้องกันแสงแดดได้ดี และมีส่วนผสมของสารกันเชื้อราผสมเข้าไปด้วย

ข้อควรรู้เกี่ยวกับสีย้อมไม้
- การทาสีประเภทนี้ ต้องใช้ช่างที่มีประสบการณ์ เพราะต้องทาอย่างต่อเนื่อง ไม่อย่างนั้นจะเห็นรอยทาบต่อ Overlap โดยต้องทารีดสีไปตามลายไม้ และหมั่นกวนสีในกระป๋องอยู่เสมอ ควรทาทั้ง 6 ด้านของชิ้นงานด้วย
- ทาโดยไม่ต้องรองพื้นใด ๆ และห้ามใช้สีประเภทอื่นทับหน้าด้วย
- เฉดสีที่ได้ อาจจะไม่ตรงกับใน Catalog เพราะขึ้นอยู่กับสีของเนื้อไม้ และจำนวนครั้งที่ทา หากทาซ้ำบ่อย ๆ สีก็จะเข้มขึ้นทีละน้อย
- สีประเภทนี้หากอยู่กลางแจ้ง จะมีอายุการใช้งานประมาณ 2-4 ปี สีเข้มจะมีอายุนานกว่าสีอ่อน โดยเมื่อเริ่มเห็นฟิล์มสีชั้นบนเริ่มเสื่อมสภาพ ควรทำการปรับปรุงทาซ่อมแซม โดยใช้กระดาษทรายละเอียดขัดลูบแล้วทาทับหน้าใหม่ สามารถทำเช่นนี้ได้ 2-3 ครั้ง
สีทาไม้ คืออะไร?
เป็นสีสำหรับเคลือบเงาทาไม้ และโลหะ เป็นสีประเภทอัลขีด เรซิ่น (Alkyd Resin Enamel) มีฟิล์มสีแบบทึบแสง (Opque) ที่จะปกปิดเนื้อไม้ และลายไม้ มีฟิล์มสีเงามัน บางยี่ห้อมีชนิดกึ่งเงาให้เลือก สีประเภทนี้โดยทั่วไปจะมีกลิ่นฉุนทั้งขณะที่ทา และทิ้งกลิ่นตกค้างอีกหลายวัน ฟิล์มสีจะแห้งช้า ประมาณ 6-8 ชม.
คุณสมบัติเด่นของสีทาไม้
- เหมาะสำหรับผิวไม้ และโลหะต่าง ๆ
- ปกปิดพื้นผิวเดิม ใช้ได้ทั้งภายใน และภายนอก ทนทานต่อสภาพลมฟ้าอากาศได้ดีเยี่ยม
- รักษาความเงางาม และคงความสวยสดของสีได้ยาวนาน ช่วยป้องกันการเกิดเชื้อรา และตะไคร่น้ำ

สีทาไม้มีสูตรอะไรบ้าง?
โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นสูตรน้ำมัน แม้ว่าจะมีสูตรน้ำอยู่บ้าง ก็จะเป็น Acrylic Resin กลิ่นอ่อน แห้งเร็ว ฟิล์มสีไม่เหลืองตัวเหมือนสีทาไม้สูตรน้ำมัน
ข้อควรรู้เกี่ยวกับสีทาไม้
- สีทาไม้สูตรน้ำมัน จะมีอาการฟิล์มสีเหลืองตัว สังเกตได้ง่ายหากเป็นสีขาว หรือสีโทนอ่อน ๆ
- การใช้กับงานไม้ภายนอก เมื่อถูกแดด และฝน จะมีอายุการใช้งานไม่ยาวนัก ด้วยไม้มีการยืดหดตัว และฟิล์มสีแบบทึบ ไม่สามารถยืดหดตัวตามได้
- ก่อนทาสีทาไม้ ควรจะต้องทาสีรองพื้นไม้กันเชื้อราเสียก่อน
ความแตกต่างระหว่าง สีย้อมไม้และสีทาไม้
สีย้อมไม้ | สีทาไม้ |
---|---|
|
|
|
|
|
|
คุณสมบัติของสีทั้ง 2 ชนิดข้างต้น ขึ้นอยู่กับว่า ความต้องการให้ไม้ที่ทาเป็นอย่างไร หากต้องการให้เห็นลายไม้ชัดเจนแบบฟิล์มสีใส โชว์ลายไม้ ก็เหมาะสมกับสีย้อมไม้ แต่หากต้องการให้ไม้มีสีสันตามต้องการ หรือต้องการปกปิดลายไม้ ให้เลือกใช้สีทาไม้ โดยสีทั้งสองชนิดนี้สามารถปกป้องเนื้อไม้ได้ทั้งคู่ แต่จะมีคุณสมบัติเด่น-ด้อย แตกต่างกันไปตามที่ได้กล่าวมาแล้วทั้งหมดนั่นเอง
เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสารสำคัญ และโปรโมชั่นพิเศษมากมาย สามารถติดตามเราผ่านช่องทางต่างๆได้หลากหลายช่องทางตามด้านล่างนี้เลย
บทความที่เกี่ยวข้อง
พลาสติก PE คืออะไร? รู้จักประเภท คุณสมบัติ และการใช้งานที่ควรรู้
30 กรกฎาคม 2025
พลาสติก PP คืออะไร? รวมคุณสมบัติและการใช้งาน
30 กรกฎาคม 2025
มือใหม่ต้องรู้! หัวไขควงแบบต่างๆ มีอะไรบ้าง ใช้ต่างกันยังไง
30 มิถุนายน 2025
ไขข้อสงสัย! น็อตคืออะไร น็อตมีกี่ประเภท
30 มิถุนายน 2025
10 อุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วม ที่ควรมีไว้ติดบ้านก่อนน้ำจะมา
9 มิถุนายน 2025
แม่แรงไฮดรอลิค คืออะไร มีแบบไหนบ้าง?
9 มิถุนายน 2025
บทความที่น่าสนใจ
พลาสติก PE คืออะไร? รู้จักประเภท คุณสมบัติ และการใช้งานที่ควรรู้
30 กรกฎาคม 2025
พลาสติก PP คืออะไร? รวมคุณสมบัติและการใช้งาน
30 กรกฎาคม 2025
มือใหม่ต้องรู้! หัวไขควงแบบต่างๆ มีอะไรบ้าง ใช้ต่างกันยังไง
30 มิถุนายน 2025
ไขข้อสงสัย! น็อตคืออะไร น็อตมีกี่ประเภท
30 มิถุนายน 2025
10 อุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วม ที่ควรมีไว้ติดบ้านก่อนน้ำจะมา
9 มิถุนายน 2025
แม่แรงไฮดรอลิค คืออะไร มีแบบไหนบ้าง?
9 มิถุนายน 2025