
หลายคนคงรู้จัก โฮมออฟฟิศ (HOME OFFICE) กันเป็นอย่างดี เป็นที่นิยมมากสำหรับผู้ประกอบการที่เป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กอย่างสตาร์ทอัพและ SME เพราะเป็นได้ทั้งที่อยู่อาศัยและออฟฟิศในเวลาเดียวกัน และการทำงานในโฮมออฟฟิศยังให้บรรยากาศที่สบาย เป็นกันเอง แถมตกแต่งให้สวยงามตามใจชอบได้อีกด้วย KACHA มีข้อดี-ข้อเสีย ของโฮมออฟฟิศ มาแนะนำ เพื่อประกอบการตัดสินใจ จะเป็นอย่างไรบ้าง ไปติดตามกันเลย
โฮมออฟฟิศ (HOME OFFICE) คืออะไร?
โฮมออฟฟิศ คือ สำนักงานกึ่งที่พัก มีลักษณะคล้ายทาวน์โฮม อาคารมี 3-4 ชั้น โดยบริเวณชั้น 1-2 มักทำเป็นออฟฟิศ มีการแบ่งสัดส่วนสำหรับการทำงานอย่างชัดเจน โดยไม่ต้องมาปรับเปลี่ยนทีหลังเหมือนทาวน์โฮม และมีที่จอดรถกว้างขวางจอดได้หลายคัน เหมาะกับธุรกิจขนาดเล็ก และขนาดกลางที่มีพนักงานไม่กี่คน บรรยากาศเป็นกันเองสบาย ๆ คล้ายบ้าน ราคาอยู่ที่ประมาณ 1-6 ล้านบาท

▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾
ข้อดี-ข้อเสีย ของโฮมออฟฟิศ(HOME OFFICE)
ข้อดี
- ใช้เป็นที่อยู่ และที่ทำงานไปในตัว
โฮมออฟฟิศให้ผลดีกับผู้ประกอบการ ทำให้ไม่ต้องเสียเงินสองต่อในการเช่า หรือซื้อทั้งที่อยู่อาศัย และออฟฟิศ และไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปกลับออฟฟิศ
- จอดรถสะดวก
โฮมออฟฟิศมีพื้นที่ด้านหน้าที่กว้างขวาง จอดรถได้ประมาณ 4-6 คัน และยังจอดได้ง่ายกว่าออฟฟิศที่อยู่บนตึกสูง ทำให้ต้องวนหาที่จอดรถ หรือต้องแย่งที่จอดรถกับพนักงานคนอื่น ๆ ที่สำคัญ เมื่อลูกค้ามาติดต่องานที่ออฟฟิศ ก็ทำให้ประทับใจกับการจอดรถที่ง่ายดายกว่าด้วย
- ลดต้นทุนเรื่องค่าส่วนกลางอาคารสำนักงาน
การเช่าออฟฟิศตามอาคารสำนักงาน มักมีค่าส่วนกลาง เช่น ลิฟต์ ห้องน้ำส่วนกลาง ค่าจ้างแม่บ้านทำความสะอาด เป็นต้น ถ้าเป็นโฮมออฟฟิศ ก็จะลดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไปได้
- พนักงานใช้ส่วนกลางของโฮมออฟฟิศได้
โครงการโฮมออฟฟิศ มักมีฟิตเนส สระว่ายน้ำ พนักงานสามารถไปใช้งานได้ ถือเป็นสวัสดิการเพิ่มเติม ที่เราไม่ต้องออกเงินเพิ่ม
- ลดต้นทุนที่ต้องจ่ายทั้งที่บ้านและออฟฟิศ
เช่น ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ อย่างค่าน้ำค่าไฟ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องใช้อยู่แล้ว ถ้าสามารถรวบมาเป็นค่าใช้จ่ายในบิลเดียวกันได้ ก็จะทำให้ลดต้นทุนไปได้มาก
- บรรยากาศผ่อนคลาย
โฮมออฟฟิศจะให้บรรยากาศสบาย ๆ เป็นกันเอง พนักงานจะรู้สึกเหมือนได้ทำงานอยู่บ้าน
- การแต่งตัวยืดหยุ่น
ไม่จำเป็นต้องแต่งตัวเป็นทางการมาทำงานก็ได้ เพราะพนักงานมีไม่กี่คน และไม่ได้พบปะผู้คนมากมาย แค่แต่งตัวให้เรียบร้อยก็ใช้ได้ ยกเว้นถ้าต้องพบลูกค้าก็ควรแต่งตัวให้ดูดีขึ้นมาหน่อย
▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾

ข้อเสีย
- ความน่าเชื่อถือ
ภาพลักษณ์ของโฮมออฟฟิศ มักเป็นทางการน้อยกว่าออฟฟิศที่เป็นอาคารสำนักงาน
- ทำเลมักอยู่ชานเมือง
โฮมออฟฟิศมักอยู่ไกลจากรถไฟฟ้า หรืออยู่ลึกเข้าไปในซอยต่าง ๆ เนื่องจากที่ดินมีราคาที่ถูกกว่า ทำให้เดินทางลำบากกว่า ขณะที่ที่ดินใกล้รถไฟฟ้า ใจกลางเมือง มักถูกสร้างเป็นอาคารสำนักงาน เพื่อให้คุ้มกับค่าที่ดิน
- ต้องลงทุนก้อนใหญ่เกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์สำนักงาน
ถ้าเป็นออฟฟิศให้เช่าตามอาคารสำนักงาน อย่างน้อยมักมีโต๊ะทำงาน ชั้นวางของ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จำเป็น แต่ถ้าเป็นโฮมออฟฟิศ มักต้องลงทุนเองทั้งหมด
โฮมออฟฟิศ ต่างจาก ทาวน์โฮม อย่างไร?
หลายคนจะรู้จักกับคำว่าโฮมออฟฟิศ แต่จะคุ้นเคยกับคำว่าทาวน์โฮม กันมาก่อน ซึ่งบางคนอาจสามารถแยกความแตกต่าง และหยิบคำสองคำนี้ขึ้นมาใช้งานได้ แต่กับบางคนยังคงสับสนปนงง ๆ ในความต่างของ 2 คำนี้ แล้วอะไรคือความต่างของโฮมออฟฟิศ และทาวน์โฮม ดังนี้
-
วัตถุประสงค์ในการก่อสร้างต่างกัน
ทาวน์โฮมนั้น พัฒนามาจากทาวน์เฮ้าส์ ดังนั้น จุดประสงค์หลักของการใช้งาน คือ สร้างขึ้นเพื่อเป็นเพียงที่พักอาศัยมาตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งถ้าอยู่ ๆ ไปจะปรับพื้นที่บางจุดให้เป็นสำนักงาน หรือหน้าร้านก็ไม่ว่ากัน ซึ่งต่างจากโฮมออฟฟิศ ที่มีวัตถุประสงค์ในการก่อสร้างให้เป็นอาคารที่ทำหน้าที่ทั้งสำนักงาน และที่อยู่อาศัยพร้อม ๆ กันมาตั้งแต่แรก
-
จำนวนชั้น และการออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายใน
จุดประสงค์ในการสร้างของโฮมออฟฟิศ และทาวน์โฮม นั้นต่างกัน จึงมีผลต่อการออกแบบ และก่อสร้างโดยรวม หากแยกความต่างด้วยจำนวนชั้น ทาวน์โฮมจะมีความสูงอยู่ที่ 2-3 ชั้น โดยสร้างตามกฎของบ้านแถว คือหน้ากว้างไม่น้อยกว่า 4 เมตร สร้างติดกันไม่เกิน 10 คูหา แต่หากสร้างสูงเกินสามชั้น กลายเป็น 4 ชั้นจัดเป็นอาคารพาณิชย์ ซึ่งก็คือ โฮมออฟฟิศนั่นเอง
-
พื้นที่จอดรถ
เพราะด้วยจุดประสงค์ของโฮมออฟฟิศ คือการเป็นอาคารที่เป็นทั้งบ้าน และสำนักงาน ดังนั้น ภายในโครงการโฮมออฟฟิศ ส่วนใหญ่จะมีที่จอดรถส่วนกลางค่อนข้างมาก เพื่อความสะดวกสบายในการรองรับลูกค้าที่มาติดต่องาน ขณะที่บริเวณที่จอดรถของทาวน์โฮม อาจถูกจำกัดจำนวนต่อบ้านอย่างชัดเจน
-
ถนนหน้าอาคาร
ทาวน์โฮมที่มีจำนวนชั้นไม่เกิน 3 ชั้น จะนับว่าเป็นบ้านแถว ซึ่งตามกฎหมายควบคุมอาคารฉบับที่ 55 พ.ศ. 2543 ได้กำหนดขนาด และเนื้อที่ของที่ดินว่า ตัวอาคารด้านหน้า และด้านหลังต้องห่างจากเขตที่ดินไม่ต่ำกว่า 2.00 เมตร ขณะที่โฮมออฟฟิศ อยู่ในข่ายอาคารพาณิชย์ มีกำหนดว่าตัวอาคารต้องห่างจากเขตที่ดินด้านหลังไม่ต่ำกว่า 2.00 เมตร แต่ถนนหน้าอาคารมีความกว้างได้ถึง 20 เมตร เพื่อใช้ประโยชน์ในการพาณิชยกรรมได้
▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾
การซื้อ หรือเช่าโฮมออฟฟิศ มีข้อได้เปรียบกว่าการเช่าพื้นที่ออฟฟิศในอาคารสำนักงาน ตรงด้านบรรยากาศที่สบาย ๆ ยืดหยุ่น ซึ่งบางที่อาจเลี้ยงสุนัข หรือแมวให้พนักงานได้เล่นด้วย เพื่อผ่อนคลายในยามพักด้วย จึงเป็นที่นิยมในหมู่คนรุ่นใหม่มาก เพราะต้องการบรรยากาศการทำงานที่ไม่ตึงเครียด ซึ่งมีส่วนช่วยให้เวลาทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยนั่นเอง
เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสารสำคัญ และโปรโมชั่นพิเศษมากมาย สามารถติดตามเราผ่านช่องทางต่างๆได้หลากหลายช่องทางตามด้านล่างนี้เลย
บทความที่เกี่ยวข้อง
พลาสติก PE คืออะไร? รู้จักประเภท คุณสมบัติ และการใช้งานที่ควรรู้
30 กรกฎาคม 2025
พลาสติก PP คืออะไร? รวมคุณสมบัติและการใช้งาน
30 กรกฎาคม 2025
มือใหม่ต้องรู้! หัวไขควงแบบต่างๆ มีอะไรบ้าง ใช้ต่างกันยังไง
30 มิถุนายน 2025
ไขข้อสงสัย! น็อตคืออะไร น็อตมีกี่ประเภท
30 มิถุนายน 2025
10 อุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วม ที่ควรมีไว้ติดบ้านก่อนน้ำจะมา
9 มิถุนายน 2025
แม่แรงไฮดรอลิค คืออะไร มีแบบไหนบ้าง?
9 มิถุนายน 2025
บทความที่น่าสนใจ
พลาสติก PE คืออะไร? รู้จักประเภท คุณสมบัติ และการใช้งานที่ควรรู้
30 กรกฎาคม 2025
พลาสติก PP คืออะไร? รวมคุณสมบัติและการใช้งาน
30 กรกฎาคม 2025
มือใหม่ต้องรู้! หัวไขควงแบบต่างๆ มีอะไรบ้าง ใช้ต่างกันยังไง
30 มิถุนายน 2025
ไขข้อสงสัย! น็อตคืออะไร น็อตมีกี่ประเภท
30 มิถุนายน 2025
10 อุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วม ที่ควรมีไว้ติดบ้านก่อนน้ำจะมา
9 มิถุนายน 2025
แม่แรงไฮดรอลิค คืออะไร มีแบบไหนบ้าง?
9 มิถุนายน 2025