
ไฟดับ สถานการณ์ที่พบได้บ่อย เมื่อมีพายุฝนฟ้าคะนอง ทำให้ต้องเตรียมเทียนไข และไฟฉายทุกครั้งที่ฝนตั้งเค้า หากไฟดับในช่วงกลางวัน ก็อาจจะไม่ลำบากเท่าช่วงกลางคืน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าแทบทุกกิจกรรมของการใช้ชีวิตยุคนี้ จำเป็นต้องพึ่งพาไฟฟ้ากันทั้งนั้น บทความนี้ KACHA จึงอยากจะมาบอกถึงที่สาเหตุ ไฟฟ้าดับ พร้อมวิธีรับมือ เพื่อให้ทุกบ้านได้เตรียมความพร้อมเมื่อเกิดไฟดับ จะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน
ไฟดับ คืออะไร?
ไฟฟ้าดับ (power outage) เป็นปัญหาที่สามารถพบเจอได้บ่อย ๆ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ฝนตกหนัก ๆ จะมีโอกาศที่ไฟดับได้สูงกว่าปกติ เป็นความเสียหายกำลังของเครือข่ายพลังไฟฟ้า ที่ไม่สามารถแจกจ่ายไปให้ผู้ใช้ได้ สาเหตุของไฟฟ้าดับในเครือข่าย เช่น อาจเกิดจากความผิดพลาดที่สถานีไฟฟ้า, ความเสียหายของสายส่งไฟฟ้าสถานีย่อย หรือบางส่วนของระบบแจกจ่าย, ไฟฟ้าลัดวงจร, ฟิวส์ขาด และสะพานไฟชำรุด ฯลฯ

ไฟฟ้าดับนั้น ถือว่าอันตรายอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย ที่อาจตกอยู่ในอันตรายได้ เช่น โรงพยาบาล โรงบำบัดน้ำเสีย และเหมือง ที่จะมีการสำรองไฟฟ้า เช่น เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรอง ที่จะทำงานโดยทันทีหลังไฟฟ้าดับ ระบบที่เสี่ยง เช่น ระบบโทรคมนาคม ที่ต้องการไฟฟ้าฉุกเฉิน ห้องแบตเตอรีของชุมสายโทรศัพท์ จะมีแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรดไว้ใช้สำรอง และมีซ็อกเก็ตสำหรับเชื่อมต่อเครื่องกำเนิดไฟฟ้าในระหว่างไฟฟ้าดับ
สาเหตุไฟฟ้าดับ มีอะไรบ้าง?
สาเหตุของไฟดับแบ่งออกได้เป็น 6 สาเหตุหลัก ๆ ดังนี้
เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรภายในบ้าน
สาเหตุแรก อาจจะเกิดจากมีระบบไฟฟ้าลัดวงจรภายในบ้าน ซึ่งจะต้องหาสาเหตุและต้นตอของไฟฟ้าลัดวงจรให้ได้ เพื่อรีบทำการแก้ไข เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับคนภายในบ้าน
อ่านบทความ : ไฟฟ้าลัดวงจร เกิดจากอะไร? มีวิธีป้องกันอย่างไร?
เกิดจากภัยธรรมชาติ
เป็นสาเหตุหลัก ๆ ที่จะทำให้เกิดไฟดับขึ้นได้ โดยตัวอย่างภัยธรรมชาติ ที่อาจจะทำให้เกิดไฟฟ้าดับได้ จะมีฝนตก มีลมพายุ ฟ้าผ่า ซึ่งสาเหตุเหล่านี้ จะมีผลทำให้ฟิวส์ หรืออุปกรณ์ป้องกันเกิดการทำงานทำให้ไฟตกในระยะเวลาหนึ่ง หรือไฟดับไปเลย

อ่านบทความ :
เกิดจากสัตว์ต่าง ๆ
สัตว์บางชนิด ที่สามารถปีน หรือบินขึ้นไปบนเสาไฟฟ้าได้ เช่น นก แมว จิ้งจก หรืองู ซึ่งสัตว์เหล่านี้ ถ้าได้ไปเกาะสายไฟฟ้า หรือลูกถ้วย จะมีโอกาส ทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจร หรือไฟช็อต ไหลผ่านตัวสัตว์ลงสู่ดิน ทำให้อุปกรณ์ป้องกันทำงาน และทำให้ไฟดับลง
เกิดจากสภาพแวดล้อม
ปัญหาไฟดับ ที่เกิดจากสภาพแวมล้อม สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การเกิดการขัดข้องในส่วนของการผลิตไฟฟ้า อุปกรณ์ส่งไฟฟ้าทำงานผิดปกติ เกิดการลัดวงจร ที่มีสาเหตุจากต้นไม้ที่ปลูกขึ้นตามแนวสายไฟฟ้า โดยเฉพาะต้นไม้ ทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรบ่อยมาก และยิ่งเมื่อฝนตกมีลมแรงทำให้ลมพัดกิ่งไม้ไปแตะกับสายไฟ ทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรชั่วคราว และส่งผลให้ไฟตก หรือไฟดับชั่วคราว
เกิดจากอุบัติเหตุ
ไฟดับที่เกิดจากอุบัติเหตุ ก็ยังเป็นอีกสาเหตุที่สามารถพบได้บ่อย ซึ่งอาจจะเกิดจากได้จากความประมาท ไม่รู้ ของคน เช่น ขับรถชนเสาไฟฟ้าจนล้มสายไฟฟ้าขาด การใช้เครื่องจักรทำงานในระหว่างที่ใกล้สายไฟฟ้า การตัดต้นไม้ที่อยู่ตามแนวเสาไฟฟ้า เป็นต้น
เกิดจากการไฟฟ้าตัดกระแสไฟฟ้า
ในส่วนนี้ เกิดขึ้นจากทางการไฟฟ้าได้ทำการตัดไฟฟ้าด้วยตัวเอง ซึ่งอาจจะเกิดจาก การที่ระบบไฟฟ้ามีความชำรุดกระทันหัน เช่น เกิดจากอุบัติเหตุ จึงจำเป็นต้องตัดกระแสไฟฟ้า เพื่อเข้าไปแก้ไข หรือเกิดจากการที่การไฟฟ้า จะเข้าไปบำรุงรักษาอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ตามพื้นที่ ซึ่งในข้อนี้ ทางการไฟฟ้าจะประกาศล่วงหน้าทางหน้าเว็บไซต์ของการไฟฟ้า อย่างน้อย 3 วันทำการ

ผลกระทบจากไฟดับ
การใช้ชีวิตในปัจจุบันผูกติดกับการไฟฟ้าแทบทุกกิจกรรม เครื่องอำนวยความสะดวก อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ไปจนถึงเครื่องมือในการทำงาน ต่างก็ต้องอาศัยไฟฟ้าเป็นตัวขับเคลื่อน หากไฟดับบ่อยครั้ง ครั้งละนาน ๆ ไม่เพียงจะรู้สึกไม่สบายตัว ร้อนอบอ้าว เพราะไม่มีพัดลม เครื่องปรับอากาศ และต้องอยู่ในความมืดทำอะไรไม่สะดวกในช่วงค่ำเท่านั้น บางสถานการณ์ อาจอันตรายถึงชีวิตได้ เช่น ในบ้านมีผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่องฟอกอากาศ เครื่องช่วยหายใจ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังกระทบกับธุรกิจที่ต้องใช้ไฟฟ้าเป็นหลัก เช่น ธุรกิจเลี้ยงปลา งานที่ใช้คอมพิวเตอร์ งานเดินเครื่องจักรและอื่น ๆ เมื่อไฟดับย่อมทำให้สินค้าในกระบวนการผลิตเสียหายไม่มากก็น้อย
เมื่อไฟฟ้าดับ ควรทำอย่างไร?
1. ค้นหาต้นเหตุของไฟดับ
เราควรจะรู้ก่อนว่าไฟดับที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นเฉพาะภายในบ้านของเราเพียงหลังเดียว หรือเกิดขึ้นหลายหลังในเวลาพร้อม ๆ กัน เพื่อให้เรารู้ว่าปัญหาไฟดับนั้น เกิดจากภายในบ้านของเรา หรือเกิดจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เพื่อจะได้รู้วิธีรับมือและแก้ไขต่อไป
2. ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่เปิดอยู่ทั้งหมด
หลังจากไฟดับเราควรรีบปิดสวิชต์ และปลั๊กไฟของเครื่องใช้ไฟฟ้า เพราะเมื่อไฟฟ้ากลับมา อาจจะทำให้เกิดอาการ ไฟกระชาก และจะมีผลทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าเสียหายได้ โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องการไฟฟ้าที่เสถียรอย่างมาก เช่น คอมพิวเตอร์ เครื่องปรับอากาศ เป็นต้น และนอกจากนี้เป็นการป้องกันการลืมปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า และลดการใช้งานไฟฟ้าโดยที่ไม่จำเป็นอีกด้วย
3. ลดการเปิดตู้เย็น
ของสดในตู้เย็นสามารถเน่าเสียได้ง่าย ซึ่งในช่วงที่ไฟดับ ตู้เย็นหยุดทำงาน แต่ความเย็นภายในตู้เย็นยังเพียงพอที่จะรักษาอุณหภูมิได้อีกหลายชั่วโมง ดังนั้น ควรเปิดตู้เย็นให้น้อยที่สุด หรือไม่ควรเปิดเลย
4. เปิดหน้าต่างบ้าง
ในสภาวะที่ไม่สามารถใช้งานได้ทั้งพัดลมและแอร์ ถ้าปิดหน้าต่างทั้งหมด อากาศภายในบ้านก็จะไม่ถ่ายเถ ควรแง้ม ๆ หน้าต่างไว้บ้าง เพื่อให้อากาศถ่ายเท และไม่อึดอัด
5. เตรียมอุปกรณ์จำเป็นในระหว่างไฟดับไว้ให้พร้อมและใกล้มือ
เช่น ไฟฉาย เทียนไข ไฟแช็ค ไม้ขีดไฟ หลอดไฟ LED แบบมีแบตเตอรี่ในตัว เพาเวอร์แบงค์ ชุดปฐมพยาบาล ซึ่งในระหว่างไฟดับถ้าจำเป็นจะต้องเคลื่อนไหวในความมืด ควรจะมีอุปกรณ์ส่องสว่างดังกล่าว เพื่อลดอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น และข้อสำคัญ ควรจะวางเทียนที่จุดแล้วเอาไว้ในจุดที่ปลอดภัย และห่างไกลจากเชื้อไฟด้วย เพื่อลดโอกาสที่จะมีแสงสว่างมากเกินไปที่เกิดจากอัคคีภัย

6. โทรแจ้งเจ้าหน้าที่
ถ้าหากบ้านใกล้เรือนเคียงไฟฟ้าก็ดับเช่นเดียวกัน สิ่งที่ควรทำที่สุด คือ ติดต่อแจ้งการไฟฟ้า และรอเจ้าหน้าที่เข้ามาแก้ไขอย่างใจเย็น โดยช่องทางการติดต่อ มีดังนี้
- การไฟฟ้านครหลวง โทร 1130
- การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โทร 1129
อย่าลืม : แจ้งชื่อ-นามสกุล หรือชื่อผู้ขอใช้ไฟฟ้าหมายเลขเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้ และหมายเลยผู้ใช้ไฟฟ้า 12 หลัก หาได้จากบิลไฟฟ้า เพราะในตัวเลขจะมีข้อมูลใกล้เคียงสถานที่เกิดเหตุ พิกัดที่อยู่อาศัย ทำให้การเดินทางช่วยเหลือ และแก้ไขง่ายขึ้น
ชั้นวางของเหล็ก ขายดี
จัดระเบียบบ้านด้วย ชั้นวางของเหล็ก พรีเมียม ชั้นเหล็กวางของ ชั้นวางสินค้า ชั้นวางเหล็กคาร์บอน ชั้นวางสแตนเลส แข็งแรง คุ้มค่า ประกอบง่าย ทนทาน ที่ KACHA เรามีให้เลือกหลากหลาย ช่วยให้จัดระเบียบสินค้าภายในคลังได้ดี สินค้ามีให้เลือกแบบหลากหลาย
เป็นอย่างไรกันบ้าง เมื่อเราได้รู้สาเหตุของไฟฟ้าดับกันแล้ว อย่างไรก็ตามอย่าลืมตรวจสอบในบ้านว่ามีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในเวลาที่ไฟดับไว้ในบ้านหรือยัง เพื่อเตรียมรับมือ เวลาเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้น จะได้รับมือได้ทันนั่นเอง
>>สามารถติดตามบทความต่าง ๆ ของ KACHA ได้ตามนี้เลย<<
อ่านบทความ :
เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสารสำคัญ และโปรโมชั่นพิเศษมากมาย สามารถติดตามเราผ่านช่องทางต่างๆได้หลากหลายช่องทางตามด้านล่างนี้เลย
บทความที่เกี่ยวข้อง
พลาสติก PE คืออะไร? รู้จักประเภท คุณสมบัติ และการใช้งานที่ควรรู้
30 กรกฎาคม 2025
พลาสติก PP คืออะไร? รวมคุณสมบัติและการใช้งาน
30 กรกฎาคม 2025
มือใหม่ต้องรู้! หัวไขควงแบบต่างๆ มีอะไรบ้าง ใช้ต่างกันยังไง
30 มิถุนายน 2025
ไขข้อสงสัย! น็อตคืออะไร น็อตมีกี่ประเภท
30 มิถุนายน 2025
10 อุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วม ที่ควรมีไว้ติดบ้านก่อนน้ำจะมา
9 มิถุนายน 2025
แม่แรงไฮดรอลิค คืออะไร มีแบบไหนบ้าง?
9 มิถุนายน 2025
บทความที่น่าสนใจ
พลาสติก PE คืออะไร? รู้จักประเภท คุณสมบัติ และการใช้งานที่ควรรู้
30 กรกฎาคม 2025
พลาสติก PP คืออะไร? รวมคุณสมบัติและการใช้งาน
30 กรกฎาคม 2025
มือใหม่ต้องรู้! หัวไขควงแบบต่างๆ มีอะไรบ้าง ใช้ต่างกันยังไง
30 มิถุนายน 2025
ไขข้อสงสัย! น็อตคืออะไร น็อตมีกี่ประเภท
30 มิถุนายน 2025
10 อุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วม ที่ควรมีไว้ติดบ้านก่อนน้ำจะมา
9 มิถุนายน 2025
แม่แรงไฮดรอลิค คืออะไร มีแบบไหนบ้าง?
9 มิถุนายน 2025