วิธีเก็บรักษาน็อต และสกรู ให้เป็นระเบียบ ไม่ขึ้นสนิม ใช้ได้นาน

อัปเดตเมื่อ วันที่ 3 กันยายน 2025

วิธีเก็บรักษาน็อต และสกรู ให้เป็นระเบียบ ไม่ขึ้นสนิม ใช้ได้นาน

ไม่ว่าคุณจะเป็นช่างมืออาชีพที่คลุกคลีกับงานช่างทุกวัน หรือเป็นคนที่เคยซ่อมแซมบ้านแค่เล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ปัญหาโลกแตกที่หลายคนต้องเจอคือการจัดเก็บอุปกรณ์ชิ้นเล็ก ๆ บางครั้งต้องเสียเวลาเป็นชั่วโมงเพื่อหาสกรูตัวที่ต้องการ หรือต้องทิ้งน็อตดี ๆ ไปเพราะถูกสนิมกัดกินจนใช้งานไม่ได้ บทความนี้เลยจะพาทุกคนไปดู วิธีเก็บรักษาน็อต สกรู และอุปกรณ์ยึดอื่น ๆ อย่างถูกวิธีกันค่ะ จะมีอะไรบ้างนั้น ตามเราไปดูเลย!😁

วิธีเก็บรักษาน็อต และสกรู 🔩

การเก็บรักษาน็อตและสกรูให้ถูกวิธีมีความสำคัญ เพราะจะช่วยยืดอายุการใช้งาน ป้องกันสนิม และทำให้ง่ายต่อการหยิบใช้เมื่อจำเป็น

1. รวบรวมและทำความสะอาด

รวบรวมน็อตและสกรูทุกประเภท

ก่อนจะเริ่มต้นการจัดเก็บอย่างจริงจัง เราต้องเริ่มต้นจากการเตรียมความพร้อมเสียก่อน ขั้นตอนนี้สำคัญมากค่ะ เพราะจะช่วยให้การจัดเก็บในขั้นตอนต่อไปง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เริ่มต้นจาก

  • รวบรวมอุปกรณ์ทั้งหมด เริ่มจากการรวบรวมน็อต สกรู แหวนรอง และอุปกรณ์ยึดอื่น ๆ ทั้งหมดที่มีมาไว้ที่เดียวกัน
  • ทำความสะอาด หากอุปกรณ์เปื้อนคราบน้ำมัน จาระบี หรือเศษสิ่งสกปรก ควรทำความสะอาดด้วยผ้าหรือแปรงขัด แล้วเช็ดให้แห้งสนิท เพราะความชื้นและคราบสกปรกเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสนิม
  • คัดทิ้งอุปกรณ์ที่ชำรุด สังเกตอุปกรณ์ที่ชำรุด เช่น น็อตที่เกลียวเสีย สกรูที่หัวบิ่น หรืออุปกรณ์ที่ขึ้นสนิมอย่างรุนแรงจนไม่สามารถใช้งานได้ ควรคัดทิ้งไปทันที อย่าเสียดาย เพราะหากนำไปใช้ในงานซ่อมอาจทำให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติมได้ค่ะ

2. คัดแยกตามประเภทและขนาด

คัดแยก น็อตและสกรู ตามประเภทและขนาด

นี่คือขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการจัดระเบียบเลยค่ะการแยกของคือการจัดหมวดหมู่ให้ชัดเจน ทำให้เรามองหาของได้ง่ายและเร็วขึ้น 

  • แยกตามชนิดวัสดุ วัสดุที่ต่างกันควรเก็บแยกกันค่ะ
    • น็อต/สกรูเหล็ก เป็นสนิมง่ายที่สุด ควรเก็บในกล่องที่มิดชิดและอาจจะเคลือบน้ำมันกันสนิมไว้หน่อย
    • น็อต/สกรูสแตนเลส ทนสนิมได้ดีกว่า แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่ขึ้นสนิมเลยนะคะ ถ้าอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ชื้นมาก ๆ ก็ยังเป็นสนิมได้อยู่ดี ควรเก็บแยกจากน็อตเหล็กเพื่อป้องกันการปนเปื้อน
    • น็อต/สกรูชุบซิงค์ เป็นน็อตเหล็กที่เคลือบผิวมาแล้วเพื่อกันสนิม ควรเก็บในที่แห้งเพื่อรักษาผิวเคลือบ
  • แยกตามขนาดเกลียวและความยาว อันนี้สำคัญไม่แพ้กันค่ะ เพราะบางทีน็อต 2 ตัวอาจจะดูคล้ายกัน แต่ขนาดเกลียวไม่เท่ากัน พอเอาไปใช้ก็อาจทำให้เกลียวหวานหรือเสียได้ เช่นเก็บ สกรูปลายสว่าน 1 นิ้ว ที่ต้องหยิบใช้บ่อยแยกออกจากสกรูปลายสว่านขนาดอื่น ๆ เพื่อให้หยิบใช้ได้สะดวก

3. เลือกบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม และจัดเก็บอย่างเป็นระบบ

เลือกบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม จัดเก็บน็อตและสกรูใส่ไว้อย่างเป็นระบบ

เมื่ออุปกรณ์สะอาดและถูกคัดแยกอย่างดีแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกภาชนะบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายประเภทขึ้นอยู่กับความต้องการและปริมาณของอุปกรณ์ ดังนี้ค่ะ

  • ใส่ในกล่องแบ่งช่อง กล่องเก็บอุปกรณ์ช่างที่มีช่องแบ่งเล็ก ๆ หลาย ๆ ช่องคือตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะจะช่วยให้น็อตแต่ละประเภทและแต่ละขนาดมีที่อยู่ของตัวเอง ทำให้ไม่ปะปนกัน และสามารถมองเห็นได้ง่ายด้วยค่ะ
  • ใส่ในลิ้นชักเก็บของขนาดเล็ก สำหรับใครที่มีอุปกรณ์เยอะมาก ๆ ลิ้นชักเก็บของขนาดเล็กที่วางซ้อนกันได้ก็เป็นอีกตัวเลือกค่ะ เพราะสามารถจัดเก็บอุปกรณ์ได้หลายประเภทในตู้เดียว และติดป้ายกำกับที่หน้าลิ้นชักแต่ละอันเพื่อความสะดวกในการค้นหา
  • ใส่ในถุงซิปล็อกขนาดเล็ก เป็นทางเลือกที่ง่ายและประหยัด สำหรับน็อตสกรูจำนวนไม่มาก เราสามารถแยกอุปกรณ์แต่ละประเภทใส่ถุงซิปล็อก แล้วนำไปรวมไว้ในกล่องใหญ่หรือลิ้นชักอีกที ถุงซิปล็อกช่วยป้องกันความชื้นและลดโอกาสที่อุปกรณ์จะเสียดสีกัน
  • ใส่ในขวดโหลหรือกระป๋องใส เราสามารถมองเห็นอุปกรณ์ข้างในได้ง่าย และภาชนะเหล่านี้ยังมีความทนทานสูงอีกด้วยค่ะ แต่ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าฝาปิดสนิทเพื่อป้องกันความชื้นด้วยนะคะ
  • ติดป้ายหรือสติกเกอร์บอกขนาดให้ชัดเจน แทนที่จะต้องมานั่งวัดขนาดทุกครั้งที่ต้องการใช้งาน การมีป้ายกำกับที่บอกข้อมูลสำคัญ เช่น ขนาด (M6x20mm) หรือประเภท (สแตนเลส) จะช่วยให้หยิบใช้ได้อย่างมั่นใจและรวดเร็ว
  • ตัวอย่างการจัดเก็บน็อตและสกรูประเภทต่าง ๆ
น็อตตัวผู้และน็อตตัวเมีย

น็อตตัวผู้และน็อตตัวเมีย ควรเก็บแยกประเภทกัน โดยน็อตตัวผู้และตัวเมียที่มีขนาดเกลียวเท่ากันควรเก็บไว้ใกล้ ๆ กันเพื่อความสะดวกในการหยิบใช้ แนะนำให้เก็บในกล่องแบ่งช่อง หรือถังพลาสติกขนาดเล็ก

สกรูปลายสว่าน (Self-Drilling Screw)

สกรูปลายสว่าน สกรูชนิดนี้มีหัวแฉกและปลายที่เป็นเหมือนดอกสว่านในตัว ใช้สำหรับเจาะยึดแผ่นโลหะเข้าด้วยกัน ควรเก็บแยกตามขนาด เช่น สกรูปลายสว่านขนาด #8×1/2 นิ้ว ก็ควรมีช่องเก็บของตัวเอง จะได้ไม่ปนกับขนาด #10×3/4 นิ้ว

สกรูเกลียวปล่อย (Self-Tapping Screw)

สกรูเกลียวปล่อย สกรูชนิดนี้มีปลายแหลม ใช้สำหรับยึดไม้หรือพลาสติก ควรเก็บแยกตามขนาดและชนิดหัว เช่น สกรูเกลียวปล่อยหัวจม ก็ควรเก็บแยกจากสกรูเกลียวปล่อยหัวแฉก

สกรูหัวหกเหลี่ยม

สกรูหัวหกเหลี่ยม สกรูชนิดนี้ใช้ประแจหกเหลี่ยมขัน ควรเก็บแยกตามขนาดเกลียว (เช่น M6, M8) และความยาว (เช่น 20 มม., 30 มม.) เพื่อให้หยิบใช้ได้ง่ายและเร็วค่ะ

4. เก็บรักษาให้ปลอดภัยจากสนิม

ใช้สารดูดความชื้น (Silica Gel) วางไว้ในกล่องเก็บน็อตและสกรู เพื่อป้องกันสนิม

การจัดเก็บอย่างเป็นระบบจะช่วยให้เราหาของได้ง่ายขึ้น แต่การป้องกันสนิมคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการยืดอายุการใช้งานของน็อตและสกรูเลยล่ะค่ะ การเก็บรักษาง่าย ๆ มีดังนี้

  • เก็บในที่แห้งและเย็น สนิมเกิดจากปฏิกิริยาระหว่างโลหะกับออกซิเจนในอากาศ โดยมีน้ำหรือความชื้นเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา ดังนั้นควรเก็บน็อตสกรูไว้ในที่แห้ง มีอากาศถ่ายเทสะดวก และหลีกเลี่ยงการเก็บในโรงรถ ห้องใต้ดิน หรือพื้นที่ที่อาจมีความชื้นสูง
  • ใช้น้ำมันป้องกันสนิม (Rust-Preventing Oil) หากต้องการการป้องกันขั้นสูงสุด ลองทาน้ำมันป้องกันสนิมบาง ๆ บนตัวน็อตสกรูแต่ละตัวก่อนเก็บ น้ำมันจะสร้างชั้นฟิล์มบาง ๆ ที่ช่วยป้องกันไม่ให้อากาศและความชื้นสัมผัสกับเนื้อโลหะได้โดยตรง
  • ใช้สารดูดความชื้น (Silica Gel) หากพื้นที่จัดเก็บของเรามีความชื้นสูง ลองวางซองซิลิกาเจลหรือสารดูดความชื้นไว้ในกล่องเก็บอุปกรณ์ ซิลิกาเจลจะช่วยดูดซับความชื้นส่วนเกินในอากาศ ทำให้สภาพแวดล้อมภายในกล่องแห้งอยู่เสมอ
  • ใช้ถุงกันความชื้น ถุงพลาสติกกันความชื้นแบบพิเศษที่สามารถดูดซับความชื้นในอากาศได้ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการเก็บรักษาน็อตสกรูที่มีมูลค่าหรือจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้เป็นเวลานานค่ะ

เทคนิคการจัดเก็บเพิ่มเติม💡

นอกเหนือจาก 3 ขั้นตอนหลักข้างต้นแล้ว ยังมีเทคนิคเพิ่มเติมที่ควรรู้ไว้ ดังนี้

  • ใช้กระดานแม่เหล็ก สำหรับสกรูหรืออุปกรณ์ชิ้นเล็ก ๆ ที่ชอบหล่นหายบ่อย ๆ ลองติดตั้งกระดานแม่เหล็กบนผนังดูค่ะ น็อตและสกรูจะถูกดูดติดอยู่กับกระดาน ทำให้มองเห็นได้ง่ายและหยิบใช้สะดวกอีกด้วย
  • จัดเก็บตามการใช้งาน หากใช้งานน็อตสกรูประเภทไหนบ่อยที่สุด ควรจัดเก็บไว้ในที่ที่หยิบง่ายที่สุด ส่วนน็อตสกรูที่ใช้งานไม่บ่อยนักก็สามารถเก็บไว้ในชั้นที่สูงขึ้นหรือลึกเข้าไปด้านในได้
  • ตรวจสอบเป็นระยะ ถ้าต้องเก็บนานหลายเดือน ให้ตรวจเช็กทุก 1–2 เดือนว่ามีความชื้นหรือสนิมเกิดขึ้นหรือไม่

การเก็บรักษาน็อตและสกรูอย่างถูกวิธีไม่เพียงช่วยยืดอายุการใช้งาน แต่ยังทำให้การทำงานช่าง สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น เพียงจัดเก็บในภาชนะหรือกล่องแบ่งช่อง ปิดฝามิดชิด ป้องกันความชื้น และแยกตามขนาดหรือประเภท ก็ช่วยป้องกันสนิม ลดการสูญหาย และหยิบใช้ได้ทันทีเมื่อจำเป็น

และนี่คือ วิธีเก็บรักษาน็อต และสกรู ที่เรานำมาฝาก การจัดเก็บและดูแลรักษา น็อต สกรู และอุปกรณ์ยึดต่าง ๆ ให้เป็นระเบียบอาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่มันจะช่วยประหยัดเวลาในการค้นหาอุปกรณ์ไปได้เยอะมาก แถมยังช่วยให้เราเก็บรักษาไว้ใช้ได้อีกนานเลยล่ะค่ะ อย่าลืมนำวิธีเก็บและเทคนิคนี้ไปใช้กันดูนะคะ🥰

เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสารสำคัญ และโปรโมชั่นพิเศษมากมาย สามารถติดตามเราผ่านช่องทางต่างๆได้หลากหลายช่องทางตามด้านล่างนี้เลย