น็อตกันคลาย ใช้ยังไง ให้ถูกวิธี?

อัปเดตเมื่อ วันที่ 3 กันยายน 2025

น็อตกันคลาย ใช้ยังไง ให้ถูกวิธี?

น็อตกันคลาย หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ล็อกนัท (Lock Nut) คือ น็อตชนิดพิเศษที่ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้คลายตัวออกจากสลักเกลียวหรือสกรูได้ง่ายเมื่อต้องเผชิญกับแรงสั่นสะเทือนหรือแรงบิด ซึ่งต่างจากน็อตทั่วไปที่อาจจะคลายตัวออกได้เมื่อใช้งานไปนาน ๆ

โดยหลักการทำงานของน็อตกันคลายคือการสร้างแรงเสียดทานเพิ่มเติมเพื่อยึดเกลียวให้แน่นหนาขึ้น ทำให้ชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่ประกอบเข้าด้วยกันไม่หลวมคลาย และช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับงานหรือเครื่องจักรที่ต้องทำงานภายใต้แรงสั่นสะเทือนสูงนั่นเองค่ะ

วิธีใช้น็อตกันคลาย

การใช้น็อตกันคลาย (Lock Nut) อย่างถูกต้องจะช่วยให้งานประกอบแข็งแรงและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ตามเราไปดูกันเลยดีกว่าค่ะว่า น็อตกันคลาย ใช้ยังไง

1. เลือกประเภทน็อตกันคลายให้เหมาะกับงาน

น็อตกันคลายแบบไนลอน (Nylon Lock Nut)

น็อตกันคลายแบบไนลอน (Nylon Lock Nut)

  • มีลักษณะพิเศษคือ มีวงแหวนพลาสติกหรือไนลอนอยู่ด้านใน เมื่อขันน็อตเข้าไป วงแหวนจะถูกบีบอัดกับเกลียวของสกรู ทำให้เกิดแรงเสียดทานที่ช่วยยึดน็อตให้แน่นหนา
  • เหมาะกับ งานประกอบทั่วไปที่ไม่ต้องรับความร้อนสูง งานที่ต้องเจอกับแรงสั่นสะเทือนปานกลาง และงานที่ต้องการความปลอดภัยจากการคลายตัว เช่น เครื่องจักรขนาดเล็ก เฟอร์นิเจอร์ หรือยานยนต์ 
น็อตกันคลายแบบโลหะ (All-Metal Lock Nut)

น็อตกันคลายแบบโลหะ (All-Metal Lock Nut)

  • ทำจากโลหะทั้งหมด และออกแบบให้มีรูปร่างพิเศษเพื่อสร้างแรงเสียดทาน เช่น การบีบอัดส่วนปลายของเกลียว หรือ การทำให้เกลียวมีลักษณะผิดปกติเล็กน้อย เพื่อเพิ่มแรงต้านทานการคลายตัว
  • เหมาะกับ งานที่ต้องเจอกับแรงสั่นสะเทือนสูงมาก งานที่ต้องทนต่ออุณหภูมิสูง เช่น เครื่องยนต์ หรือบริเวณใกล้เคียง และงานที่อาจต้องถอดประกอบบ่อย ๆ เพราะสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้หลายครั้ง
น็อตกันคลายแบบมีแหวนรองในตัว (Flange Lock Nut)

น็อตกันคลายแบบมีแหวนรองในตัว (Flange Lock Nut)

  • เป็นน็อตตัวเมียที่มี แหวนรองที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษติดอยู่กับตัวน็อต โดยแหวนรองนี้อาจมีลักษณะเป็นรอยหยักหรือฟันปลาเพื่อเพิ่มแรงกดและแรงเสียดทานเมื่อขันให้แน่น
  • เหมาะกับ งานที่ต้องการความแน่นหนาแต่ไม่มีพื้นที่สำหรับใส่แหวนรองแยก งานที่ต้องการกระจายแรงกดบนชิ้นงานให้ดีขึ้น และงานประกอบที่ต้องการลดขั้นตอนการทำงาน เพราะไม่ต้องใส่แหวนรองแยกอีกชั้น
น็อตสองตัว / น็อตล็อกซ้อน (Double Nut / jam nut)

น็อตสองตัว / น็อตล็อกซ้อน (Double Nut / jam nut)

  • น็อตชนิดนี้จะใช้น็อต 2 ตัวขันซ้อนกัน โดยน็อตตัวล่างจะทำหน้าที่ยึดกับชิ้นงาน ส่วนน็อตตัวบนจะทำหน้าที่ล็อกน็อตตัวล่างไว้ด้วยแรงบีบอัดระหว่างน็อตทั้งสอง
  • เหมาะกับ งานที่ต้องการความปลอดภัยสูงและมีพื้นที่ให้ใช้น็อต 2 ตัว และงานที่ต้องการสร้างแรงยึดที่แน่นหนาเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมหนัก

2. ตรวจสอบความสะอาดของเกลียว

สกรูและน็อตที่ไม่สะอาด สกปรกและมีสนิม

ทำความสะอาด ตรวจสอบว่าเกลียวของสกรูและน็อตสะอาด ไม่มีเศษฝุ่น คราบน้ำมัน หรือสนิมเกาะอยู่ เพราะสิ่งสกปรกเหล่านี้อาจลดแรงยึดเกาะและทำให้ขันน็อตไม่สุด
ตรวจสอบว่าเกลียวไม่ชำรุด ถ้ามีรอยเสียหาย อาจทำให้น็อตยึดไม่แน่น

3. ขันน็อตให้ถูกวิธี ตามประเภทของน็อตกันคลาย

การใช้น็อตให้ถูกวิธี

การใช้น็อตกันคลายมีหลักง่าย ๆ คือ ต้องใช้งานให้ถูกประเภท เพื่อให้เกิดแรงยึดที่แน่นหนา ไม่หลุดคลายจากแรงสั่นสะเทือนหรือแรงหมุน และนี่คือวิธีใช้งานน็อตกันคลายประเภทที่ผู้คนนิยมใช้งานมากที่สุดค่ะ

  • น็อตกันคลายแบบไนล่อน (Nylon Insert Lock Nut) มีวิธีใช้ ดังนี้
    • ใส่น็อตเข้าไปกับสกรูเหมือนน็อตทั่วไป
    • เมื่อถึงปลายเกลียว จะรู้สึกต้านแรง นั่นคือไนล่อนเริ่มจับเกลียว
    • ขันต่อจนแน่นด้วยประแจ (ไม่ต้องขันให้ฝังเกินจุดไนล่อน)
    • หากใช้งานแล้วถอดออก ไม่ควรนำกลับมาใช้ซ้ำ
  • น็อตกันคลายแบบโลหะ (All-Metal Lock Nut) มีวิธีใช้ ดังนี้
    • ขันน็อตเข้ากับเกลียวตามปกติ จะรู้สึกว่าแน่นตั้งแต่เริ่ม
    • ใช้ประแจขันให้แน่นตามแรงบิดที่แนะนำ
    • ใช้งานได้ซ้ำหลายรอบ ทนร้อน ทนแรงสั่นได้ดีมาก
  • น็อตกันคลายแบบมีแหวนรองในตัว (Flange Lock Nut) มีวิธีใช้ ดังนี้
    • ขันเข้ากับเกลียวปกติ หน้าแปลนจะช่วยล็อกกับผิวงาน
    • เหมาะกับงานที่ไม่มีแหวนรอง หรือไม่ต้องการให้หัวจม
  • น็อตสองตัว / น็อตล็อกซ้อน (Double Nut / jam nut) มีวิธีใช้ ดังนี้
    • ขันน็อตตัวล่างให้แน่น
    • ขันน็อตตัวที่ 2 ตามจนชนกัน
    • ใช้ประแจ 2 ตัว โดยประแจตัวหนึ่งจับน็อตตัวล่างไว้ และอีกตัวขันน็อตตัวบน สวนทวนเข็มนาฬิกา กับน็อตตัวล่าง เพื่อให้ทั้งสองตัวล็อกกัน

4. ตรวจสอบหลังติดตั้ง

หลังจากการขันน็อตเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ลองตรวจสอบความแน่นหนาของการยึดติด
  • หลังจากการขันน็อตเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ลองตรวจสอบความแน่นหนาของการยึดติดอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างปลอดภัย ลองเขย่าหรือทดสอบด้วยแรงสั่นเล็กน้อยเพื่อเช็คว่ายึดแน่นดี
  • หากใช้ในงานที่สั่นสะเทือนสูง เช่น เครื่องยนต์ ควรตรวจเช็คเป็นระยะ

ข้อแนะนำเพิ่มเติม

  • อย่าใช้น็อตกันคลายแบบไนลอนซ้ำบ่อย ๆ แหวนไนลอนในน็อตจะถูกบีบอัดเมื่อถูกใช้งานครั้งแรก ทำให้แรงยึดเกาะลดลงเมื่อนำกลับมาใช้ซ้ำ หากต้องการความปลอดภัยสูงสุด ควรเปลี่ยนน็อตกันคลายแบบไนลอนด้วยอันใหม่ทุกครั้งที่ถอดชิ้นส่วนออก
  • อย่าใช้แรงขันเกินความจำเป็น การขันน็อตแน่นเกินไปอาจทำให้เกลียวเสียหายหรือทำให้วัสดุที่ยึดเสียหายได้ ควรใช้แรงบิดที่เหมาะสมตามที่กำหนดสำหรับงานนั้น ๆ
  • ระมัดระวังอุณหภูมิที่สูงเกินไป น็อตกันคลายแบบมีแหวนไนลอนไม่เหมาะกับงานที่ต้องเจอความร้อนสูง เพราะแหวนอาจละลายหรือเสียรูปได้ ควรเลือกใช้แบบโลหะทั้งชิ้นแทน

“การเลือกใช้น็อตกันคลายที่ถูกต้องเหมาะสมกับลักษณะงาน จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ” – ทีม KACHA

หากคุณกำลังมองหาอุปกรณ์ยึดติดสำหรับงานที่ต้องเจอกับแรงสั่นสะเทือนบ่อย ๆ หรือต้องทนต่อแรงกระแทก น็อตกันคลายคือตัวช่วยสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเลยค่ะ

หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับน็อตและสกรู หรืออุปกรณ์ยึดติดชนิดอื่น ๆ สามารถสอบถามทีมงาน KACHA ได้เลยนะคะ แอดไลน์ @kachathai เลย!

เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสารสำคัญ และโปรโมชั่นพิเศษมากมาย สามารถติดตามเราผ่านช่องทางต่างๆได้หลากหลายช่องทางตามด้านล่างนี้เลย