
“Universal Plug” แต่ละแบบแต่ละประเทศ เป็นแบบไหนบ้าง? รู้ไว้ก่อนเลือกไปใช้งาน
หลาย ๆ คนคงจะเกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับ ปลั๊กไฟ Universal กันอยู่บ้างใช่ไหม? ว่ามันคืออะไร แต่ละแบบ แต่ละประเทศใช้เหมือนกันไหม? ใช้ค่าไฟฟ้าเท่าไหร่? บทความนี้ KACHA จะพาไปทำความรู้จักกับ “Universal Plug” ให้มากขึ้นกัน เพื่อที่จะได้เลือกไปใช้อย่างถูกต้อง และปลอดภัย จะมีแบบไหนบ้าง ไปดูกัน
ประเภทของ Universal Plug มีแบบไหนบ้าง?
อย่างที่รู้กันว่า ปลั๊กไฟและเต้ารับ ของแต่ละประเทศนั้น มีความแตกต่างกัน ดังนี้
แบบ Type A
เป็นรูปลั๊กแบบมาตรฐาน ปลั๊ก Type A เป็นปลั๊กหัวแบน สองขา ไม่มีกราวด์ (สายดิน) นิยมใช้กันมากในประเทศทวีปอเมริกาเหนือ อเมริกากลาง ญี่ปุ่น พิลิปปินส์ ใต้หวัน ประเทศไทย เป็นต้น

โดยปลั๊ก Type A ในอเมริกา จะมีขา 2 ข้างไม่เท่ากัน เล็กข้าง ใหญ่ข้าง ทำให้เวลาเสียบจะไม่สามารถสลับด้านได้ และบริเวณขาของปลั๊ก Type A หลายตัว มักจะมีรูเล็กอยู่ด้วย ที่ใช้งานร่วมกับสลักภายในปลั๊ก ช่วยให้ปลั๊กเสียบได้แน่นขึ้น ไม่หลุดออกจากรูง่าย ๆ นั่นเอง
แบบ Type B

ปลั๊ก Type B เป็นปลั๊กหัวแบน สองขา และมีกราวด์ (สายดิน) กลม ๆ อีกขาหนึ่งเพิ่มเข้ามา นิยมใช้กันในประเทศอเมริกา แคนนาดา แม็กซิโก ลักษณะจะคล้าย ๆ กับปลั๊ก Type A ที่มีขากราวด์นั่นเอง
** ปลั๊ก Type B มีขนาด 15 แอมป์ และปลั๊กในประเทศไทย สามารถใช้ได้
แบบ Type C

ปลั๊กไฟฟ้า Type C หรือ Europlug เป็นปลั๊กแบบขากลม 2 ขา หัวปลั๊กจะแบน ใช้ได้กับซ็อกเก็ตที่รับหน้าสัมผัสกลม 4.0 – 4.8 มม. บนศูนย์กลาง 19 มม. นิยมใช้กันในประเทศแถบยุโรป เช่น รัสเซีย อินโดนีเซีย เป็นต้น ยกเว้นสหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ ไซปรัส และมอลตา
** ปลั๊ก Type C จะจำกัดไว้สำหรับใช้ในเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่ต้องการไฟไม่เกิน 2.5 แอมป์ และปลั๊กในประเทศไทยสามารถใช้ได้
แบบ Type D

ปลั๊กไฟ Type D เป็นปลั๊กขากลม 3 ขา เรียงตัวเป็นสามเหลี่ยม ขากลางจะเป็นขากลมขนาดใหญ่กว่าอีก 2 ขา ใช้ได้กับปลั๊ก Type M นิยมใช้กันในประเทศอินเดีย ศรีลังกา เนปาล เป็นต้น สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ สามารถใช้งานได้กับปลั๊ก Type D และ Type M
** ปลั๊ก Type D มีขนาด 5 แอมป์ และปลั๊กในประเทศไทยใช้ไม่ได้ ต้องมีตัวแปลงปลั๊ก
แบบ Type E

ปลั๊กไฟ Type E มีขากลม 2 ขา มีรูปร่างโค้งมน และมีรูสำหรับขาสายดินที่ยื่นออกมาจากเต้ารับ นิยมใช้กันในประเทศฝรั่งเศส เบลเยียม สโลวาเกีย เป็นต้น เป็นอีกหนึ่งปลั๊กที่จะแตกต่างจากแบบอื่น ๆ
** ปลั๊ก Type E มีขนาด 16 แอมป์ และปลั๊กในประเทศไทยใช้ไม่ได้ ต้องมีตัวแปลงปลั๊ก
แบบ Type F

ปลั๊กไฟ Type F มีขากลม 2 ขา คล้ายปลั๊กแบบ Type E แตกต่างกัน คือ มีคลิปกราวด์อยู่ทั้ง 2 ด้าน รูของเต้ารับ จะมีเพียง 2 รู นิยมใช้กันในประเทศเยอรมนี ออสเตรีย เนเธอร์แลนด์ และสเปน และยังสามารถใช้ร่วมกับปลั๊ก Type E ได้เช่นกัน
** ปลั๊ก Type F มีขนาด 16 แอมป์ และปลั๊กในประเทศไทย สามารถใช้ได้
แบบ Type G

ปลั๊กไฟ Type G เป็นปลั๊ก 3 ขา สี่เหลี่ยมแบน ๆ เรียงตัวกันในแนวสามเหลี่ยม และมีฟิวส์ในตัว นิยมใช้กันในประเทศอังกฤษ ไอร์แลนด์ มาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง เป็นต้น เต้ารับของปลั๊กประเภทนี้ถูกออกแบบมาให้รับกับตัวปลั๊กโดยตรง จึงใช้ร่วมกับปลั๊ก และเต้ารับอื่น ๆ ได้ยากมาก ๆ
** ปลั๊ก Type G โดยปกติ ฟิวส์ 3 แอมป์สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก เช่น คอมพิวเตอร์ และ 13 แอมป์ สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าหนัก เช่น เครื่องทำความร้อน เป็นต้น และปลั๊กในประเทศไทยใช้ไม่ได้ ต้องมีตัวแปลงปลั๊ก
แบบ Type H

ปลั๊กไฟ Type H เป็นปลั๊ก มีลักษณะเฉพาะสำหรับประเทศอิสราเอลเท่านั้น มีขาแบน 3 ขา เรียงเป็นรูปสามเหลี่ยม เป็นรูปตัว V หัวปลั๊กเป็นทรงกลม ปัจจุบันได้รับความนิยมน้อยลง และกำลังเปลี่ยนมาใช้เป็น Type C แทนนั่นเอง
** ปลั๊กในประเทศไทยใช้ไม่ได้ ต้องมีตัวแปลงปลั๊ก
แบบ Type I

ปลั๊กไฟ Type I เป็นปลั๊กขาแบน 3 ขา รูปสามเหลี่ยม ขาบนวางตัวแนวตั้ง ส่วน 2 ขาด้านล่างวางตัวเอียง 45 องศา คล้ายรูปตัว V นิยมใช้กันในประเทศออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อาร์เจนตินา เป็นต้น เต้ารับของปลั๊กประเภทนี้ สามารถใช้ได้ในประเทศจีนด้วย
** ปลั๊กในประเทศไทยใช้ไม่ได้ ต้องมีตัวแปลงปลั๊ก
แบบ Type J

ปลั๊กไฟ Type J เป็นปลั๊กไฟขั้วกลม 3 ขา โดยเป็นขากราวด์ (สายดิน) 1 ขา นิยมใช้ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และลิกเตนสไตน์ ปลั๊กประเภทนี้ สามารถใช้ต่อกับปลั๊ก Type C ได้ และเครื่องใช้ไฟฟ้าจากประเทศไทยที่ใช้ปลั๊ก Type C สามารถเสียบเข้ากับเต้ารับ Type J ได้เลย โดยไม่ต้องใช้อะแดปเตอร์แปลง
** ปลั๊ก Type J มีขนาด 10 แอมป์ และปลั๊กในประเทศไทยที่ไม่ใช่ Type C อาจจะต้องมีตัวแปลงปลั๊ก
แบบ Type K

ปลั๊กไฟ Type K เป็นปลั๊กขั้ว 3 ขา แบ่งเป็นขั้วกลมทั่วไป 2 ขา และขาสายดินทรงครึ่งวงกลม 1 ขา สามารถใช้เสียบกับปลั๊กขากลมคู่ Type C ได้ โดยไม่ต้องใช้หัวแปลง นิยมใช้ในประเทศเดนมาร์กและกรีนแลนด์ สำหรับปลั๊กประเภท Type E และ Type F สามารถเสียบได้เช่นกัน
** ปลั๊กในประเทศไทยที่ไม่ใช่ Type C อาจจะต้องมีตัวแปลงปลั๊ก
แบบ Type L

ปลั๊กไฟ Type L มีลักษณะเป็นขากลม 3 ขา เรียงกันเป็นแนวตรง ขากราวด์ (สายดิน) จะอยู่ตรงกลาง ปลั๊ก Type L มี 2 รุ่น คือ รุ่น 10 แอมป์ และ 16 แอมป์ นิยมใช้ในประเทศอิตาลี
- รุ่น 10 แอมป์ ขากลมทั้ง 2 ด้าน จะมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 4 มิลลิเมตร และห่างกัน 5.5 มิลลิเมตร
- รุ่น 16 แอมป์ ขาทั้ง 2 ด้าน จะมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 มิลลิเมตร ห่างกัน 8 มิลลิเมตร
โดยเต้ารับของ Type L สามารถนำปลั๊กแบบ Type C, Type E และ Type F มาเสียบได้
** ปลั๊กในประเทศไทยใช้ไม่ได้ ต้องมีตัวแปลงปลั๊ก
ทิ้งท้ายสักนิด! Universal Adapter เลือกแบบไหนดี
สำหรับ Universal Adapter นั้น มีหลากหลายแบบให้เลือกซื้อ ขึ้นอยู่กับการใช้งาน แต่รู้ไหมว่า Universal Adapter ไม่ได้นำมาใช้เพื่อปรับกระแสไฟฟ้าให้เข้ากับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เราใช้ เมื่อต้องการนำเครื่องใช้ไฟฟ้าไปใช้ในต่างประเทศ ควรคำนึงถึง การตรวจค่ากระแสไฟฟ้า ที่เหมาะสมบนอุปกรณ์ของเราด้วย ซึ่งปัจจุบันเครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนใหญ่ เช่น โทรศัพท์ โน๊ตบุ๊ค และแท็ปเล็ต จะมีที่ปรับกระแสไฟฟ้าในตัวเครื่องอยู่แล้ว จึงหมดกังวลเรื่องนี้ไปได้

วิธีการเลือกซื้อ Universal Adapter ทำได้ดังนี้
- ค่ากระแสไฟฟ้าของ Universal Adapter ควรอยู่ระหว่าง 100- 250 โวลต์ ซึ่งเป็นช่วงกระแสไฟฟ้าที่ครอบคลุมค่ากระแสไฟฟ้าในทุกประเทศทั่วโลก
- ควรมีปลั๊กครบทั้งปลั๊กตัวผู้ และปลั๊กตัวเมีย (เต้ารับ) ที่เป็นสากล สามารถเข้ากับปลั๊กตัวผู้ในทุกประเทศ
- ควรมีปลั๊กตัวผู้ครบทุกภูมิภาค หรืออย่างต่ำ 5 รูปแบบ คือ ยุโรป อังกฤษ อเมริกา ออสเตรเลีย และเอเชีย
- เลือกซื้อ Universal Adapter ที่เป็นชิ้นเดียวกัน ไม่แยกจากกัน เพื่อป้องกันชิ้นส่วนหายระหว่างการเดินทาง
- เลือกซื้อขนาดพอดี น้ำหนักเบา ไม่ใหญ่เกินไป เพื่อการพกพาและจัดเก็บสะดวก
- ควรเลือก Universal Adapter ที่มี surge protection และ safety shutters เพื่อป้องกันกระแสไฟฟ้าช็อต
- เลือกซื้อ Universal Adapter ที่มีมาตรฐาน และราคาไม่แพงเกินความจำเป็น
จบไปแล้วกับ UniversalPlug ที่เรานำมาฝากกัน เรียกได้ว่ามีหลากหลายมาก ๆ เลยทีเดียว สำหรับใครที่เดินทางไปต่างประเทศบ่อย ๆ ควรรู้ไว้ เพื่อจะได้เตรียมตัว และเลือกใช้งานปลั๊กได้อย่างถูกต้อง หวังว่าบทความนี้ จะให้ความรู้แก่ผู้อ่าน ไม่มากก็น้อยนะจ๊ะ
บทความดี ๆ น่าอ่าน:
- รู้หรือไม่ “เต้ารับไฟฟ้า” ทำไมต้องมีหลายสี แต่ละสีคืออะไร?
- ทำความรู้จัก “สีสายไฟ” แต่ละสี มีความหมายอย่างไรบ้าง?
- รู้จักกับ “สวิตซ์ไฟ” คืออะไร? มีกี่ประเภท? เลือกใช้ให้เหมาะสม
KACHA ผู้จัดจำหน่าย รอกโซ่ รอกโซ่มือสาว เครนยกของ และอุปกรณ์เสริมสำหรับงานช่าง ต่าง ๆ ราคาจับต้องได้ สินค้าคุณภาพ บริการหลังการขายที่ประทับใจ นอกจากนี้ บริษัทของเรา ยังมีบริการรับ สร้างโกดัง สร้างโรงงาน สร้างคลังสินค้าต่าง ๆ จากช่างมืออาชีพที่มีประสบการณ์ การันตีผ่านมาตรฐานก่อสร้าง และความปลอดภัยต่าง ๆ เข้าชมเว็บไซต์ www.kacha.co.th
เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสารสำคัญ และโปรโมชั่นพิเศษมากมาย สามารถติดตามเราผ่านช่องทางต่างๆได้หลากหลายช่องทางตามด้านล่างนี้เลย
บทความที่เกี่ยวข้อง
พลาสติก PE คืออะไร? รู้จักประเภท คุณสมบัติ และการใช้งานที่ควรรู้
25 กรกฎาคม 2025
พลาสติก PP คืออะไร? รวมคุณสมบัติและการใช้งาน
14 กรกฎาคม 2025
มือใหม่ต้องรู้! หัวไขควงแบบต่างๆ มีอะไรบ้าง ใช้ต่างกันยังไง
30 มิถุนายน 2025
ไขข้อสงสัย! น็อตคืออะไร น็อตมีกี่ประเภท
30 มิถุนายน 2025
10 อุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วม ที่ควรมีไว้ติดบ้านก่อนน้ำจะมา
9 มิถุนายน 2025
แม่แรงไฮดรอลิค คืออะไร มีแบบไหนบ้าง?
9 มิถุนายน 2025
บทความที่น่าสนใจ
พลาสติก PE คืออะไร? รู้จักประเภท คุณสมบัติ และการใช้งานที่ควรรู้
25 กรกฎาคม 2025
พลาสติก PP คืออะไร? รวมคุณสมบัติและการใช้งาน
14 กรกฎาคม 2025
มือใหม่ต้องรู้! หัวไขควงแบบต่างๆ มีอะไรบ้าง ใช้ต่างกันยังไง
30 มิถุนายน 2025
ไขข้อสงสัย! น็อตคืออะไร น็อตมีกี่ประเภท
30 มิถุนายน 2025
10 อุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วม ที่ควรมีไว้ติดบ้านก่อนน้ำจะมา
9 มิถุนายน 2025
แม่แรงไฮดรอลิค คืออะไร มีแบบไหนบ้าง?
9 มิถุนายน 2025