
งานช่างไม้ คืออะไร มีประเภทไหนบ้าง?
งานช่างไม้ (Woodworking) คือ งานที่เกี่ยวข้องกับการแปรรูปไม้หรือวัสดุทดแทนไม้ ตั้งแต่การสร้าง ซ่อมแซม หรือตกแต่งสิ่งของ เครื่องใช้ เฟอร์นิเจอร์ หรือโครงสร้างต่าง ๆ โดยใช้ทักษะฝีมือและเครื่องมือเฉพาะด้าน ซึ่งอาจรวมถึงการออกแบบ ตัด เจาะ ขัด ประกอบ และตกแต่งผิวไม้
งานช่างไม้ นับเป็นมากกว่าแค่งานฝีมือ แต่ยังเป็นศาสตร์และศิลป์ที่ต้องใช้ความเข้าใจในธรรมชาติของไม้แต่ละชนิด รวมถึงการใช้เครื่องมืออย่างถูกวิธี เพื่อให้ได้ผลงานที่มีความแข็งแรง สวยงาม และใช้งานได้จริงอีกด้วยค่ะ
งานช่างไม้มีอะไรบ้าง?
งานช่างไม้สามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภท ขึ้นอยู่กับลักษณะของงานและผลลัพธ์ที่ต้องการ ซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีเทคนิคและเครื่องมือที่แตกต่างกันไป ดังนี้
งานโครงสร้าง งานก่อสร้าง
เป็นงานช่างไม้ที่เน้นความแข็งแรงและความมั่นคง ใช้ในการสร้างโครงสร้างหลักของอาคาร เช่น โครงสร้างบ้าน, เสา, คาน, หลังคา, พื้นไม้, ประตู, หน้าต่าง เป็นต้น

งานเฟอร์นิเจอร์
เป็นงานช่างไม้ที่ใกล้ตัวเราที่สุด มีตั้งแต่การสร้างโต๊ะ เก้าอี้ ตู้ เตียง ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน (Built-in) ที่ต้องออกแบบให้เข้ากับพื้นที่เฉพาะ

งานแกะสลักไม้
เป็นงานช่างไม้ที่เน้นศิลปะและความละเอียดอ่อน ใช้เครื่องมือเฉพาะทางในการแกะสลักลวดลายหรือรูปทรงต่าง ๆ ลงบนไม้ เป็นงานฝีมือที่ต้องใช้ความประณีตสูง เช่น เช่น ลายประตู ลายหัวเตียง งานศิลป์

งานกลึงไม้
เป็นงานช่างไม้ที่ใช้เครื่องกลึงไม้ในการขึ้นรูปไม้ให้เป็นทรงกลม เช่น ขาโต๊ะ แจกัน ชาม หรือของตกแต่งที่มีรูปทรงโค้งมน

งานซ่อมแซม
เป็นงานช่างไม้ที่ต้องใช้ความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับไม้เก่า เพื่อซ่อมแซมเฟอร์นิเจอร์หรือโครงสร้างไม้ที่มีอายุมาก หรือแก้ไข เปลี่ยนชิ้นส่วนไม้ที่เสียหาย เช่น ขาโต๊ะหัก บานประตูผุ ให้กลับมาอยู่ในสภาพดีเหมือนเดิม

เครื่องมือที่เกี่ยวข้องกับงานช่างไม้
การมีเครื่องมือที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับงานช่างไม้ทุกประเภท และนี่คือ เครื่องมือช่างไม้ ที่ควรรู้จัก มีดังนี้ค่ะ
เครื่องมือสำหรับตัดไม้

เครื่องมือสำหรับตัดไม้มีหลากหลายประเภทมากค่ะ ตั้งแต่แบบใช้มือไปจนถึงแบบไฟฟ้า ซึ่งแต่ละแบบก็เหมาะกับลักษณะงานที่แตกต่างกันไป ดังนี้
- เครื่องมือตัดไม้แบบใช้มือ (Hand Tools) เป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ช่างไม้ทุกคนต้องรู้จัก ใช้งานง่าย ราคาไม่แพง แต่ต้องใช้แรงและเวลาในการตัด เช่น เลื่อยลันดา เลื่อยลอ เลื่อยฉลุ เลื่อยคันธนู เป็นต้น
- เครื่องมือตัดไม้แบบไฟฟ้า (Power Tools) ช่วยให้ทำงานได้รวดเร็ว แม่นยำ และประหยัดแรงกว่าเลื่อยมือมาก เหมาะสำหรับงานที่ต้องตัดจำนวนมาก หรือตัดชิ้นงานที่มีขนาดใหญ่ เช่น เลื่อยวงเดือน เลื่อยจิ๊กซอว์ แท่นตัดองศา โต๊ะเลื่อยวงเดือน เลื่อยสายพาน
เครื่องมือสำหรับเจาะไม้

สว่าน (Drill) เป็นเครื่องมือหลักในการเจาะรูในไม้ มีหลายประเภท ซึ่งแตกต่างกันไป ดังนี้
- สว่านมือ ใช้แรงหมุนจากมือ เหมาะสำหรับงานเจาะรูเล็ก ๆ หรืองานที่ไม่ต้องการความรวดเร็ว
- สว่านไฟฟ้า มีกำลังสูงกว่ามาก ทำให้เจาะไม้ได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น เหมาะสำหรับงานทั่วไป
- สว่านไร้สาย สะดวกต่อการใช้งานและพกพาไปในที่ต่าง ๆ เพราะไม่ต้องใช้สายไฟ
- สว่านแท่น ใช้สำหรับเจาะรูที่ต้องการความแม่นยำสูงและตั้งฉากกับชิ้นงานอย่างสมบูรณ์แบบ
- ดอกสว่านเจาะไม้ (Wood Drill Bits) มีหลายชนิดให้เลือกใช้ตามความต้องการ ดังนี้
- ดอกสว่านปลายแหลม มีปลายแหลมตรงกลางช่วยกำหนดจุดเจาะได้อย่างแม่นยำ ป้องกันการลื่นไถล
- ดอกสว่านใบพาย ใช้สำหรับเจาะรูขนาดใหญ่และตื้น
- ดอกสว่านเจาะคว้าน ใช้สำหรับเจาะรูที่ก้นรูเรียบแบน เหมาะกับการเจาะรูสำหรับฝังบานพับหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ
เครื่องมือสำหรับยึดและประกอบไม้

- ค้อน เครื่องมือพื้นฐานสำหรับตอกตะปู แบ่งเป็น ค้อนหงอน มีด้านหนึ่งใช้ตอกตะปู และอีกด้านหนึ่งใช้สำหรับถอนตะปู ค้อนไม้ ใช้สำหรับตอกหรือตีชิ้นงานไม้โดยไม่ทำให้เกิดรอยบุบ
- ไขควง ใช้สำหรับขันสกรู มีหัวหลายประเภทให้เลือกใช้ เช่น ปากแบน, ปากแฉก, หัวดาว
- ปืนลมยิงตะปู ใช้สำหรับยิงตะปูหรือลวดยิงเข้ากับไม้ ช่วยให้ทำงานได้รวดเร็วและสะดวกกว่าการตอกด้วยค้อน
- แคลมป์ (Clamp) อุปกรณ์สำหรับจับยึดชิ้นงานให้แน่นหนาในระหว่างการตัด, เจาะ, หรือทากาว มีหลายแบบ เช่น แคลมป์ F (F-Clamp) แคลมป์ C (C-Clamp) ปากกาจับไม้ (Wood Vise)
- สกรูสำหรับงานไม้ ไม้มีหลากหลายประเภท แต่ละชนิดถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่แตกต่างกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แข็งแรงและสวยงาม ได้แก่
- สกรูสำหรับงานไม้ทั่วไป (Wood Screw) สกรูที่ใช้กันแพร่หลายที่สุดในงานไม้ มีลักษณะเฉพาะที่ต่างจากสกรูทั่วไปคือ เกลียวหยาบและลึก ปลายแหลมคม แกนเรียวเล็กกว่าเกลียว เช่น
- สกรูเกลียวปล่อย (Tapping Screw) เป็นสกรูอเนกประสงค์ที่สามารถใช้ได้กับหลายวัสดุ รวมถึงงานไม้ด้วย มีลักษณะเกลียวที่คล้ายกับสกรูสำหรับงานไม้ แต่บางรุ่นอาจมีเกลียวที่ละเอียดกว่าเล็กน้อย สามารถใช้กับงานไม้, พลาสติก หรือโลหะแผ่นบาง ๆ ได้
- สกรูปลายสว่าน (Self-Drilling Screw) มีปลายเหมือนดอกสว่าน สกรูประเภทนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเจาะทะลุวัสดุได้เองโดยไม่ต้องเจาะรูนำก่อน เหมาะสำหรับงานที่ต้องยึดไม้เข้ากับโลหะ เช่น การยึดแผ่นไม้เข้ากับโครงสร้างเหล็ก ช่วยประหยัดเวลาและขั้นตอนการทำงาน
เครื่องมือสำหรับตกแต่งไม้

- กบไสไม้ ใช้สำหรับปรับหน้าไม้ให้เรียบและได้ขนาดที่ต้องการ มีทั้งแบบใช้มือและแบบไฟฟ้า
- เครื่องขัดกระดาษทราย ใช้สำหรับขัดผิวไม้ให้เรียบเนียน มีหลายประเภท เช่น เครื่องขัดกระดาษทรายแบบสั่น, เครื่องขัดกระดาษทรายแบบสายพาน และเครื่องขัดกระดาษทรายแบบจานกลม
- กระดาษทราย ใช้ขัดผิวไม้ด้วยมือ เพื่อเก็บรายละเอียดในส่วนที่เข้าถึงยาก
- เราเตอร์ (Router) และทริมเมอร์ (Trimmer) เป็นเครื่องมือสำหรับเซาะร่องไม้, ทำลวดลาย, ตีบัว, และลบมุมต่าง ๆ
วัสดุไม้ที่นิยมใช้ใน งานช่างไม้
วัสดุไม้ที่นิยมใช้ใน งานไม้ มีหลายชนิด แต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป ทั้งในเรื่องความแข็งแรง ความสวยงาม และราคา ซึ่งเราสามารถแบ่งไม้หลัก ๆ ที่นิยมใช้ได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ ไม้เนื้อแข็ง (Hardwood) และ ไม้เนื้ออ่อน (Softwood) ค่ะ
ไม้เนื้อแข็ง (Hardwood)

เป็นไม้จากต้นไม้ผลัดใบ มีความหนาแน่นสูงกว่า ทนทาน และมีลวดลายที่สวยงาม มักใช้ทำเฟอร์นิเจอร์คุณภาพสูงหรืองานที่ต้องการความแข็งแรงเป็นพิเศษ เช่น
- ไม้สัก ได้รับความนิยมสูงสุดในไทย เป็นไม้เนื้อแข็งที่มีลวดลายสวยงาม ทนทานต่อสภาพอากาศ ปลวก และแมลงได้ดีเยี่ยม
- ไม้มะค่า มีสีน้ำตาลอมแดง ลวดลายสวยงาม แข็งแรงมาก นิยมนำมาทำพื้นไม้ วงกบประตู และเฟอร์นิเจอร์หรู
- ไม้ประดู่ มีสีแดงอมส้มถึงแดงเข้ม เนื้อไม้ละเอียดและแข็งแรงมาก นิยมใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ หรือเครื่องดนตรี
- ไม้วอลนัท (Walnut) ไม้เนื้อแข็งจากต่างประเทศ มีสีเข้มและลวดลายสวยงามเป็นเอกลักษณ์ นิยมใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ระดับพรีเมียม
- ไม้โอ๊ค (Oak) มีลวดลายที่โดดเด่นและแข็งแรงทนทาน นิยมใช้ทำพื้นไม้ ตู้ หรือเฟอร์นิเจอร์สไตล์วินเทจ
ไม้เนื้ออ่อน (Softwood)

เป็นไม้จากต้นสน ไม่ผลัดใบ มีความหนาแน่นน้อยกว่า ทำให้แปรรูปได้ง่าย น้ำหนักเบา และมีราคาไม่แพง เหมาะสำหรับงานโครงสร้าง งานตกแต่ง หรือเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่ได้ต้องการความทนทานสูงมาก เช่น
- ไม้สน มีสีอ่อน ลวดลายสวยงาม น้ำหนักเบา ราคาไม่แพง และหาซื้อง่าย นิยมใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว ของตกแต่งบ้าน หรือลังไม้
- ไม้ยางพารา เนื้อไม้มีสีอ่อน ผิวเรียบเนียน และแปรรูปง่าย นิยมใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ โครงไม้ และแผ่นไม้แปรรูปต่าง ๆ
- ไม้อัด ไม่ใช่ไม้ธรรมชาติแต่เป็นไม้แปรรูปที่ทำจากแผ่นไม้บาง ๆ อัดซ้อนกัน มีความแข็งแรงและทนทานในระดับหนึ่ง นิยมใช้ทำตู้ เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน หรือแผ่นรองพื้น
- ไม้อัด MDF (Medium-Density Fiberboard) เป็นไม้แปรรูปอีกชนิดที่ผลิตจากขี้เลื่อยไม้ผสมกาวแล้วอัดเป็นแผ่น มีผิวเรียบเนียน เหมาะสำหรับงานพ่นสี
ตารางเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง ไม้เนื้อแข็ง (Hardwood) กับ ไม้เนื้ออ่อน (Softwood)
ประเภทไม้ | ชนิดไม้ | คุณสมบัติเด่น | การใช้งาน |
ไม้เนื้อแข็ง (Hardwood) | ไม้สัก | ลวดลายสวย ทนแดดฝน ปลวกและแมลงไม่กิน | เฟอร์นิเจอร์หรู, งานตกแต่ง, พื้นไม้, ประตู |
ไม้มะค่า | สีออกน้ำตาลอมแดง แข็งแรงมาก | พื้นไม้, วงกบประตู, เฟอร์นิเจอร์หรู | |
ไม้ประดู่ | สีแดงอมส้ม-แดงเข้ม แข็งแรงและเนื้อละเอียด | เฟอร์นิเจอร์, เครื่องดนตรี | |
ไม้วอลนัท | สีเข้ม ลายไม้เด่นจากต่างประเทศ | เฟอร์นิเจอร์ | |
ไม้โอ๊ค | แข็งแรง ลายชัด สไตล์วินเทจ | พื้นไม้, ตู้, เฟอร์นิเจอร์วินเทจ | |
ไม้เนื้ออ่อน (Softwood) | ไม้สน | น้ำหนักเบา สีอ่อน ลายสวย ราคาไม่แพง | เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว, ของตกแต่ง, ลังไม้ |
ไม้ยางพารา | สีอ่อน ผิวเรียบ แปรรูปง่าย | เฟอร์นิเจอร์, โครงไม้, ไม้แปรรูป | |
ไม้อัด | แผ่นไม้บางอัดซ้อน แข็งแรงพอสมควร | ตู้, บิวท์อิน, แผ่นรองพื้น | |
ไม้ MDF | ผิวเรียบเนียน เหมาะพ่นสี | งานพ่นสี, เฟอร์นิเจอร์ภายใน |
การเลือกใช้ไม้แต่ละชนิดขึ้นอยู่กับประเภทของงาน งบประมาณ และความสวยงามที่เราต้องการค่ะ
ความสำคัญของงานช่างไม้
งานไม้ ถือว่าสำคัญไม่ต่างกับงานช่างอื่น ๆ เลยค่ะ เพราะมันไม่ได้เป็นแค่ “งานทำเฟอร์นิเจอร์” แต่เป็นพื้นฐานของการสร้างสิ่งของใช้และโครงสร้างที่อยู่รอบตัวเราแทบทั้งหมดเลยก็ว่าได้
- สร้างสรรค์สิ่งของที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
- โต๊ะ, เก้าอี้, ตู้, เตียง, ชั้นวาง
- ของตกแต่งบ้านและร้านค้า
- งาน DIY ที่ปรับตามความต้องการเฉพาะ
- เป็นโครงสร้างพื้นฐานของงานก่อสร้าง
- งานไม้ใช้ทำโครงหลังคา, วงกบประตู-หน้าต่าง, พื้นไม้
- งานไม้แบบชั่วคราว เช่น นั่งร้าน, ไม้แบบก่อสร้าง อย่างเช่น แบบหล่อคอนกรีต
- เพิ่มคุณค่าและความสวยงาม
- ลวดลายและสีของไม้ให้ความอบอุ่น ดูหรูหรา และมีเอกลักษณ์
- ไม้จริงมักให้ความรู้สึกพรีเมียมกว่าวัสดุสังเคราะห์
- ซ่อมแซมและยืดอายุการใช้งานสิ่งของ
- ช่างไม้ช่วยซ่อมเฟอร์นิเจอร์ที่ชำรุดให้กลับมาใช้งานได้
- ลดการทิ้งขยะและช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย
- เป็นทักษะพื้นฐานที่ต่อยอดได้
- นำไปใช้ร่วมกับงานช่างประเภทอื่น เช่น ช่างก่อสร้าง, ช่างเหล็ก, ช่างตกแต่งภายใน
- ต่อยอดสู่ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์, งานตกแต่งร้าน, งานบิวท์อิน
- เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น
- งานแกะสลักไม้, เรือนไม้ไทย, เครื่องเรือนแบบดั้งเดิม
- เป็นส่วนหนึ่งของมรดกภูมิปัญญาที่สืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคน
การเริ่มต้นงานช่างไม้ไม่จำเป็นต้องมีเครื่องมือราคาแพงหรือทักษะระดับมืออาชีพ ขอแค่มีความตั้งใจ ความอดทน และความรักในงานไม้ ก็สามารถสร้างสรรค์ผลงานที่สวยงามออกมาได้แล้ว
เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสารสำคัญ และโปรโมชั่นพิเศษมากมาย สามารถติดตามเราผ่านช่องทางต่างๆได้หลากหลายช่องทางตามด้านล่างนี้เลย
บทความที่เกี่ยวข้อง
สว่านไขควงไฟฟ้า คืออะไร มีวิธีใช้อย่างไร?
27 สิงหาคม 2025
สกรูปลายสว่าน คืออะไร มีข้อดี-ข้อเสีย ใช้กับงานประเภทไหน?
26 สิงหาคม 2025
วิธีเก็บรักษาน็อต และสกรู ให้เป็นระเบียบ ไม่ขึ้นสนิม ใช้ได้นาน
20 สิงหาคม 2025
สกรูปลายสว่าน 1 นิ้ว มีแบบไหนบ้าง ราคาเท่าไหร่?
20 สิงหาคม 2025
วิธีใช้สกรู เลือกให้ถูก ขันให้เป็น งานแน่นไม่เสียหาย!
15 สิงหาคม 2025
สกรูสำหรับงานไม้ ต่างกับสกรูทั่วไปอย่างไร เลือกใช้ยังไงให้เหมาะสม?
13 สิงหาคม 2025
บทความที่น่าสนใจ
สว่านไขควงไฟฟ้า คืออะไร มีวิธีใช้อย่างไร?
27 สิงหาคม 2025
สกรูปลายสว่าน คืออะไร มีข้อดี-ข้อเสีย ใช้กับงานประเภทไหน?
26 สิงหาคม 2025
วิธีเก็บรักษาน็อต และสกรู ให้เป็นระเบียบ ไม่ขึ้นสนิม ใช้ได้นาน
20 สิงหาคม 2025
สกรูปลายสว่าน 1 นิ้ว มีแบบไหนบ้าง ราคาเท่าไหร่?
20 สิงหาคม 2025
วิธีใช้สกรู เลือกให้ถูก ขันให้เป็น งานแน่นไม่เสียหาย!
15 สิงหาคม 2025
สกรูสำหรับงานไม้ ต่างกับสกรูทั่วไปอย่างไร เลือกใช้ยังไงให้เหมาะสม?
13 สิงหาคม 2025