รู้จักกับ ประตูบานเลื่อน พร้อมวิธีติดตั้ง เลือกใช้งานอย่างไรให้เหมาะสม

ประตูบ้าน อย่างประตูบานเลื่อน ประตูที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ช่วยประจัดประหยัดพื้น ทำให้บ้านดูโปร่ง โล่ง สบาย มีหลากหลายแบบให้เลือกใช้ บทความนี้ KACHA จะพาไปรู้จักกับ ประตูบานเลื่อน ให้มากขึ้นกัน พร้อมวิธีติดตั้ง และเลือกอย่างไรให้เหมาะสม ไปดูพร้อม ๆ กันเลย

ลักษณะของประตูบานเลื่อน

  • เป็นประตูที่มีทิศทางการเปิด ด้วยการเลื่อนบานประตู แขวนบานประตูกับล้อรางเลื่อนใส่ในรางยูอะลูมิเนียม
  • รางยูอะลูมิเนียม หรือรางเหล็กยึดติดกับผนังปูนด้วยเหล็กฉาก ผนังปูน ต้องมีความแข็งแรง และจำนวนเหล็กฉากยึดรางแขวน ต้องมีจำนวนเพียงพอต่อการรับน้ำหนักประตูบานเลื่อนด้วย
  • ล้อรางเลื่อนยึดกับสันบานด้านบนของประตูบานเลื่อน โครงสร้างสันบานประตูบานเลื่อน ต้องมีความแข็งแรงเพียงพอในการยึด เพราะประตูจะยึดแบบลอยกับรางแขวน
  • อุปกรณ์กุญแจล็อคประตูบานเลื่อน เป็นกุญแจล็อคแบบคอม้า ใช้เดือยกุญแจล็อคสับเกี่ยวเข้ากับวงกบ

รูปแบบของประตูบานเลื่อน ส่วนใหญ่นิยมออกแบบรูปแบบประตู เป็นแบบบานเรียบ หรือบานเรียบเซาะร่อง เพื่อให้กลมกลืนกับผนังนั่นเอง

230105-Content-รู้จักกับ-ประตูบานเลื่อน02

รางประตูบานเลื่อนมีกี่แบบ

  • ประตูบานเลื่อนชนิดรางล่าง เป็นรางติดตั้งอยู่ที่พื้น เพื่อให้ลูกล้อ เป็นตัวรับน้ำหนัก และทำหน้าที่เป็นตัวสไลด์บาน ให้ประตูสามารถเลื่อนเปิด-ปิดได้ นิยมใช้เป็นประตูภายในบ้าน กั้นห้อง หรือพื้นที่ต่าง ๆ ติดตั้งได้อย่างสะดวก รวดเร็ว

ข้อดี: ราคาไม่แพง ค่าวัสดุติดตั้งถูกกว่า ไม่มีปัญหารางตก เนื่องจากมีลูกล้อที่สามารถรับน้ำหนักได้ดี อีกทั้งยังซ่อมแซมได้ง่ายกว่า

ข้อเสีย: หากไม่เลือกแบบที่เรียบไปกับพื้น ก็มีโอกาสสะดุดหกล้มได้ และทำให้พื้นห้องดูไม่ต่อเนื่องกัน นอกจากนี้เมื่อใช้งานไปได้ระยะหนึ่งอาจมีปัญหาประตูบานเลื่อนฝืด

  • ประตูบานเลื่อนแบบแขวน เป็นรางเลื่อนที่ติดตั้งไว้ด้านบนเหนือประตู ใช้สำหรับแขวนบานประตู ทำให้สามารถเลื่อนเปิด-ปิดได้ มีจุดเด่น คือ ความสวยงาม ไม่ต้องติดรางเลื่อนที่พื้น ทำให้ทำความสะอาดง่าย แต่มีราคาสูง และมีโอกาสที่ประตูจะตกรางได้

ข้อดี: รางลื่นไม่ส่งเสียงรบกวน ทำความสะอาดพื้นห้องได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องกังวลเรื่องคราบสกปรกเกาะติดในราง

ข้อเสีย: ราคาแพง เมื่อใช้เป็นเวลานาน อาจเกิดปัญหาประตูตกราง เนื่องจากรางต้องรับน้ำหนักจำนวนมากเป็นเวลานาน

sponsored (โฆษณา)

ประเภทของประตูบานเลื่อน

1. ประตูกระจก

เป็นประเภทประตูที่ได้รับความนิยม ช่วยให้บ้านดูโล่ง โปร่ง ไม่คับแคบ ควรเลือกประตูที่ผลิตจาก กระจกนิรภัย เพื่อความปลอดภัย ทนทานต่อสภาพอากาศต่าง ๆ โดยประตูกระจกบานเลื่อนส่วนใหญ่ นิยมใช้วัสดุอะลูมิเนียม เพราะแข็งแรง ทนต่อความชื้น แต่มีน้ำหนักเบา และราคาถูกมักใช้กับวงกบ ที่มีความหนาประมาณ 100-150 มิลลิเมตร

230105-Content-รู้จักกับ-ประตูบานเลื่อน03

2. ประตูไม้

เป็นประตูที่ผลิตจากไม้จริง หรือไม้อัด ที่ปิดผิวด้วยเมลามีน เหมาะสำหรับติดตั้ง เพื่อกั้นพื้นที่ความเป็นส่วนตัว หรือแบ่งสัดส่วนภายในบ้าน เนื่องจากเป็นประตูที่มีน้ำหนักมาก ทำให้ต้องเลือกรางประตู ที่รับน้ำหนักได้ดี หน้าตัด ควรมีขนาด 36×56 มิลลิเมตร ขึ้นไป เพื่อป้องกันประตูตกราง หรือเกิดความเสียหายในภายหลัง

3. ประตูไวนิล

เป็นบานประตูที่ผลิตจาก uPVC เป็นพลาสติกสังเคราะห์ ที่มีความแข็งแรง ทนทาน ทนต่อความชื้นได้ดี นิยมใช้เป็นประตูห้องน้ำ โดยโครงสร้าง ควรมีหน้าตัด ไม่ต่ำกว่า 35×35 มิลลิเมตร เพื่อให้แขวนบานประตูได้อย่างแข็งแรง มั่นคง ไม่ต้องกังวลเรื่องประตูโก่ง หรือบิดตัวในภายหลัง

วิธีติดตั้งประตูบานเลื่อนแบบกระจก

  1. เตรียมช่องปูน และอุปกรณ์การติดตั้ง ให้พร้อม เช่น  ตลับเมตร, ดินสอ, ไขควงแฉก, ระดับน้ำ, สิ่ว, ค้อนยาง, ตัวยิงรีเวท พร้อมดอก, ประแจ, กาวอะคริลิค สำหรับภายใน และซิลิโคน สำหรับภายนอก, สว่านกระแทก พร้อมดอกเจาะปูน ขนาด 8 มิลลิเมตร
  2. ยกวงกบ ไปวางใส่ช่องผนังได้เลย โดยสิ่งที่ต้องระวัง คือ การทำให้ขอบวงกบทั้ง 4 ด้าน ห่างจากขอบผนังปูน ไม่เกิน 5 มิลลิมเตร แล้วใช้ลิ่มรองวงกบให้ได้ระดับที่พอดี และตรวจสอบอีกครั้ง ด้วยระดับน้ำ
  3. เลื่อนบานประตูเลื่อนกระจก และมุ้ง มาไว้ตรงกลาง กำหนดจุด สำหรับเจาะเฟรมทั้ง 2 ข้าง ตามที่กำหนด แล้วจึงยกบาน พร้อมกับตัววงกบลง
  4. เจาะปูนตามจุดที่กำหนดไว้ โดยใช้สว่านเจาะปูน เจาะเข้าไปตามจุดที่กำหนดไว้ แล้วจึงค่อยใส่พุกพลาสติกเข้าไปในช่องที่เจาะไว้ จากนั้น ตอกเบา ๆ ด้วยค้อน เพื่อให้พุกลงไปจนสุด
  5. จากนั้น ยกวงกบ พร้อมกับบานประตู ใส่เข้าไปในช่องผนังที่เตรียมไว้ตอนแรก และตอกลิ่มให้ได้ระดับ ก่อนเอาวงกบลง และยึดสกรูตามจุดที่เจาะไว้ได้ทันที
  6. ใช้ลิ่วสำหรับการตัดส่วนเกินของประตูเลื่อนกระจกแบบอะลูมิเนียมออกไป ตรวจสอบล็อคตรงกลางบาน ว่าเข้าล็อคพอพอดีหรือไม่ ทดสอบการล็อคบานประตูทั้ง 2 ข้าง และทดสอบความลื่นของบาน โดยคุณสามารถลองเลื่อนบานได้ตามต้องการ และหากคุณพบว่า บานเลื่อนมีความฝืด หรือตกราง แก้ไขได้โดย การปรับตั้งล้อใหม่อีกรอบ โดยให้ใช้ไขควงแฉกหมุนรูสำหรับการติดตั้งล้อที่ด้านล่างบานได้เลย
  7. หลังจากที่คุณเช็ครายละเอียดต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว จากนั้น ใช้อะคริลิค หรือใช้ซิลิโคนยิง เพื่อประสานรอยต่อ ตามแนวผนังวงกบ โดยต้องทำให้รอบด้าน ทั้งด้านนอก และด้านในบ้าน และความเรียบร้อย ตรวจสอบรอยต่อระหว่างบานด้วย
  8. เมื่อติดตั้งเรียบร้อยแล้ว ทำความสะอาดทุกส่วนของบานประตูให้เรียบร้อย เช่น กรอบวงกบ กรอบบาน โดยเฉพาะ กระจก เพื่อกำจัดเศษฝุ่นผง เศษต่าง ๆ ออกไปให้หมด และทำการปิดฝารูรอบตัวบานได้เลย
230104-Content-รู้จักกับ-ประตูบานเลื่อน04

การดูแลรักษาประตูบานเลื่อน

  1. เปิด-ปิดเบา ๆ ด้วยความระมัดระวัง ไม่กระแทกประตูแรงเกินไป เพราะอาจทำให้รางประตูชำรุดเร็วขึ้น หรือถ้าเป็นกระจก อาจทำให้กระจกแตกร้าวเสียหาย เป็นอันตรายต่อคนในบ้านได้
  2. หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาที่มีฤทธิ์เป็นกรด เช่น น้ำยาล้างห้องน้ำ ทำความสะอาดประตูบานเลื่อน โดยเฉพาะประตูอะลูมิเนียม เพราะจะทำให้พื้นผิวเสียหาย สีลอกล่อน หรือเกิดรอยด่าง รวมถึงอาจทำให้ประตูบานเลื่อนฝืดได้
  3. ใช้ผ้าทำความสะอาด คราบสกปรกฝังแน่นที่รางประตู หลีกเลี่ยงการใช้ของแข็ง เช่น คัตเตอร์ มีด สก็อตไบร์ท ขูดที่รางประตู เพราะจะทำให้เกิดรอยขีดข่วนได้ ควรใช้ผ้านุ่มชุบน้ำ หรือน้ำยาทำความสะอาด ที่มีฤทธิ์ไม่รุนแรงเช็ดคราบออก และใช้ผ้าแห้งเช็ดอีกรอบ

จบไปแล้วกับ ประตูบานเลื่อน ที่เรานำมาฝากกัน คงทำให้หลาย ๆ คนรู้จักกับประตูชนิดนี้มากขึ้นแล้วใช่ไหม ก่อนจะเลือกไปใช้งาน อย่าลืมศึกษาหาข้อมูล และวิธีติดตั้งให้ดีก่อนทุกครั้ง เพื่อนการใช้งานที่เต็มประสิทธิภาพ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาภายหลังด้วย

บทความดี ๆ ที่น่าสนใจ:

● ● ● ● ● ● ● ● ● ● ● ● ● ● ●

KACHA ผู้จัดจำหน่าย เครื่องมือช่างราคาถูก และอุปกรณ์เสริม สำหรับช่างมืออาชีพ ราคาที่คุณจับต้องได้ รับรองสินค้าคุณภาพ บริการหลังการขายที่ประทับใจอย่างแน่นอน!!

เลือกดูสินค้าจาก KACHA คลิกเลย ????????

อ้างอิงข้อมูลจาก: jorakay.co.th, windowasia.com

Sponsered (โฆษณา)