“Walk in Closet” ก่อนออกแบบ ควรรู้อะไรบ้าง?

การทำ Walk in Closet ในปัจจุบัน มักจะใช้วิธีบิ้วอินตู้เสื้อผ้า และเฟอร์นิเจอร์สำหรับจัดเก็บหลาย ๆ แบบ ให้มีฟังก์ชั่นการใช้งานครบครัน ทั้งการแขวน หรือการพับเก็บ ซึ่งสำหรับคนที่มีความสามารถด้านงานช่างบ้าง อาจสามารถ DIY ตู้เสื้อผ้า หรือทำตู้เสื้อผ้าเอง เพราะการออกแบบและทำ WalkinCloset ด้วยตัวเอง จะสามารถตอบโจทย์การใช้งาน และพฤติกรรมการใช้งานของเจ้าของบ้านได้ดีที่สุด และยังสามารถใช้เป็นห้อง หรือเฟอร์นิเจอร์แต่งห้องนอน ที่เข้ากับสไตล์ของเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดี

ในบทความนี้ KACHA อยากจะพาทุกคนไปรู้ถึง ข้อควรรู้ก่อนจะออกแบบ และสร้าง “Walk in Closet” ว่าจะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน…

211126-Content-เรื่องควรรู้-ก่อนออกแบบ-WalkinCloset02

WalkinCloset คือ พื้นที่สำหรับจัดเก็บข้าวของเครื่องใช้การแต่งกาย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า หรือเครื่องประดับต่าง ๆ ตลอดจนของใช้ในบ้านที่นาน ๆ ที จะได้หยิบออกมาใช้งาน อย่างเช่น ชุดเครื่องนอน หมอน หรือแม้กระทั่งกระเป๋าเดินทางใบโต โดยทั้งหมดที่กล่าวมานี้ จะถูกออกแบบไว้ในพื้นที่เดียวกัน เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน และเพื่อเน้นการใช้พื้นที่จำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งการทำ “Walk in Closet” ด้วยตัวเอง ก็เป็นสิ่งที่กำลังได้รับความนิยม

ข้อดี-ข้อเสีย ของ WalkinCloset

ข้อดี

คือ การจัดเก็บข้าวของจำนวนมากได้อย่างเป็นระเบียบ และสามารถแยกประเภทของใช้ไปด้วยในตัว สะดวกกับการใช้งานในชีวิตประจำวันมาก โดยเฉพาะสำหรับคนรักการแต่งตัว การบิ้วอินตู้เสื้อผ้าให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง จะสามารถรวบรวมของทุกชิ้นที่ชอบมาไว้ในที่เดียวกัน ทำให้ง่ายต่อการแต่งตัว สร้างไอเดียละแรงบันดาลใจใหม่ ๆ นอกจากนี้ ยังสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นต่าง ๆ ได้ตามความเหมาะสม โดยยังคงช่วยเรื่องการประหยัดพื้นที่ไปด้วยในตัว

211126-Content-เรื่องควรรู้-ก่อนออกแบบ-WalkinCloset03

ข้อเสีย

WalkinCloset ก็เหมือนกับห้องขนาดเล็ก ๆ ในบ้านที่ต้องการการดูแลอย่างสม่ำเสมอ เพราะสำหรับบางคน การจัดเก็บเสื้อผ้าที่มีมากมายให้เป็นระเบียบเรียบร้อยตลอดเวลา ก็ยากพอ ๆ กับการทำตู้เสื้อผ้าเอง โดยเฉพาะกับ WalkinCloset แบบไม่มีหน้าบานปิด แม้จะสามารถมองเห็นของใช้ได้ง่าย และหยิบออกมาใช้งานได้สะดวก แต่หากหยิบแล้วไม่วางที่เดิม หรือข้าวของกระจัดกระจายไม่เข้าที่เข้าทาง เสื้อผ้าแขวนปนกันสะเปะสะปะ WalkinCloset ที่สวยงาม อาจกลายสภาพเป็นห้องเล็ก ๆ รก ๆ ห้องหนึ่งเอาได้ง่าย ๆ ยังไม่นับรวมเรื่องฝุ่นที่ต้องคอยทำความสะอาดเสมอ และงบประมาณในการทำที่ค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับตู้เสื้อผ้าทั่วไป

sponsored (โฆษณา)

ข้อควรรู้ก่อนออกแบบ WalkinCloset

การออกแบบ WalkinCloset ไม่ใช่เพียงแค่การจ้างบริษัทบิ้วอินตู้เสื้อผ้า แบบตายตัวที่ต้องใช้งบประมาณสูงเท่านั้น แต่บางคนอาจทำตู้เสื้อผ้าเอง ด้วยโครงเหล็กรางกระดูกงู ใช้ร่วมกับชั้นเหล็ก และตะกร้าจัดเก็บต่าง ๆ ที่ทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง หรืออาจใช้วิธี DIY ตู้เสื้อผ้าเก่า เพื่อจับมา Mix & Match กับเฟอร์นิเจอร์จัดเก็บชิ้นอื่น ๆ หรือเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ที่มีอยู่แล้ว มาไว้ในโซนเดียวกัน เพื่อให้ได้ WalkinCloset ในแบบของตัวเอง เพราะไอเดียของ WalkinCloset จริง ๆ แล้ว คือ การแบ่งพื้นที่ สำหรับห้องแต่งตัวให้เป็นสัดส่วนนั่นเอง

กำหนดความลึกของตู้เสื้อผ้า

เสื้อผ้าส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นชุดเดรส เสื้อเชิ้ต เสื้อคลุม หรือเสื้อกันหนาวตัวหนา มักจะจัดเก็บได้พอดีกับตู้ที่มีความลึก ประมาณ 24 นิ้ว หากความลึกน้อยกว่านั้น อาจทำให้เวลาแขวนเสื้อผ้า แล้วเสื้อผ้าจะยื่นออกมา จนทำให้ไม่สามารถปิดบานตู้ หรือขวางทางเดินได้ ทำให้ดูไม่เรียบร้อยเอามาก ๆ และสำหรับเสื้อผ้าที่ต้องพับเก็บ จะต้องมีพื้นที่กว้างอย่างน้อย 9-15 นิ้ว สำหรับการจัดเก็บ ส่วนเสื้อผ้าประเภทชุดเดรสยาว ชุดราตรี หรือเสื้อโค้ทตัวยาว ก็อาจต้องมีพื้นที่สำหรับการแขวนที่สูงสัก 68 นิ้วเป็นอย่างน้อย และความสูงที่ 50 นิ้ว สำหรับการแขวนกางเกง และกระโปรงแบบพับครึ่ง

211126-Content-เรื่องควรรู้-ก่อนออกแบบ-WalkinCloset04

แบ่งจำนวนพื้นที่แขวนเสื้อผ้าอย่างเหมาะสม

ลองสำรวจดูว่า เสื้อผ้าที่ต้องจัดเก็บโดยการแขวน ส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้าประเภทใด หากเสื้อผ้าส่วนใหญ่เป็นเสื้อเชิ้ต กระโปรง กางเกง หรือเดรสตัวสั้น การบิ้วอินตู้เสื้อผ้า ให้มีราวแขวนแบบสองชั้น จะทำให้ประหยัดพื้นที่จัดเก็บได้มาก แต่หากเสื้อผ้าส่วนใหญ่เป็นเดรสยาว ชุดราตรี หรือเสื้อโค้ทตัวยาว การใช้ราวแขวนแบบราวเดี่ยว ก็จะตอบโจทย์การใช้งานได้มากกว่า

พื้นที่ตรงมุมห้องก็สร้างประโยชน์ใช้สอยได้

การออกแบบ WalkinCloset แบบเข้ามุมนั้น สามารถทำได้จริง เพียงใช้เทคนิคการซ้อนตู้ หรือการติดตั้ง ราวแบบโค้ง เพื่อให้มีพื้นที่สำหรับจัดเก็บได้มากขึ้น ถึงแม้ว่าจะเป็นพื้นที่ส่วนที่ไม่ได้เข้าถึงได้สะดวกนัก แต่ก็สามารถใช้จัดเก็บของใช้ที่นาน ๆ จะหยิบออกมาใช้ที อย่างเช่น กระเป๋าเดินทาง หรือเสื้อกันหนาวตัวใหญ่ ๆ ได้

เว้นพื้นที่สำหรับจัดวาง Island

Island หรือเกาะกลางที่ถูกจัดวางไว้ตรงกลาง WalkinCloset จะช่วยให้การจัดเก็บเครื่องประดับชิ้นเล็กชิ้นน้อยเป็นระเบียบ และหาง่ายขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถปรับให้เป็นพื้นที่วางของ ที่กำลังเลือก หรือปรับเป็นพื้นที่สำหรับการแต่งหน้าของสาว ๆ ได้แบบ 3 in 1 หากบ้านไหนมีพื้นที่มากพอ จึงอยากแนะนำให้เพิ่มพื้นที่ส่วนนี้เข้าไปใน WalkinCloset ด้วย โดยขนาดเกาะกลางที่เหมาะสม คือ เว้นพื้นที่ทางเดินรอบด้านประมาณ 24-36 นิ้ว สำหรับคนที่ทำตู้เสื้อผ้าเอง ส่วนของเกาะกลางนี้ อาจแค่เพียงนำตู้ลิ้นชักขนาดไม่ใหญ่นัก มาวางเรียงต่อกันทั้ง 2 ด้าน แล้วปิดด้านบนตู้ด้วยแผ่นไม้ หรือวัสดุอื่น ๆ เพื่อหลอกตาให้เหมือนเฟอร์นิเจอร์บิ้วอินที่เข้ากับตู้เสื้อผ้าชิ้นอื่น เพียงเท่านี้ก็ได้ Island สวย ๆ ที่ใช้งานได้จริง และใช้ตกแต่งห้องนอนไปด้วยในตัว

211126-Content-เรื่องควรรู้-ก่อนออกแบบ-WalkinCloset05

เว้นพื้นที่สำหรับรองเท้าคู่โปรด

หากต้องการให้ WalkinCloset สามารถจัดเก็บรองเท้าคู่โปรด โดยมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาเรื่องกลิ่นรบกวน หรือเรื่องความสกปรกได้ การจัดวางพื้นที่สำหรับเก็บ หรือโชว์รองเท้า ก็สามารถทำได้ โดยกำหนดช่องว่างสำหรับการจัดเก็บรองเท้า ความกว้างประมาณ 7-2 นิ้ว ช่องว่างสำหรับการจัดเก็บรองเท้าบู้ท หุ้มข้อ ความสูงประมาณ 3-5 นิ้ว และช่องว่างสำหรับการจัดเก็บรองเท้าบู้ทคู่ยาว ความสูงประมาณ 9-17 นิ้ว ตามลำดับ

วางเก้าอี้นุ่มสบายไว้สักตัว

หากมีพื้นที่ว่างมากพอ การวางเก้าอี้ตัวโปรดไว้ใน WalkinCloset สักตัว จะช่วยให้มีพื้นที่สำหรับนั่งใส่รองเท้า ติดกระดุมเสื้อ แต่งหน้า และรองรับกิจกรรมอื่น ๆ ได้อีกมาก โดยสามารถเลือกวางเก้าอี้ไว้ด้านข้างของเกาะกลาง หรือจะวางได้ด้านข้างผนังที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ก็ได้ และหากต้องการฟังก์ชั่นที่มากกว่าการนั่ง ก็อาจเลือกใช้เก้าอี้ที่สามารถจัดเก็บของเล็ก ๆ น้อย ๆ ไว้ใต้ที่นั่งได้ นอกจากจะใช้งานได้หลากหลายแล้ว เก้าอี้สวย ๆ หนึ่งตัวยังเป็นเฟอร์นิเจอร์แต่งห้องนอนที่ช่วยเติมเต็มให้ห้องดูสมบูรณ์แบบขึ้นด้วย

อย่าลืมพื้นที่เก็บเครื่องประดับ

นอกจากเสื้อผ้า และรองเท้าแล้ว หมวก กระเป๋า เข็มขัด เนคไท นาฬิกา และเครื่องประดับต่าง ๆ ก็ต้องการพื้นที่จัดเก็บที่เป็นสัดส่วนเช่นกัน โดยเข็มขัด เนคไท สร้อยคอ หรือกระเป๋าบางประเภทที่เหมาะกับการแขวน ก็สามารถแขวนกับผนังด้านที่เหลือพื้นที่น้อย หรือไม่ค่อยได้ใช้งานได้ ส่วนเครื่องประดับชิ้นเล็ก ๆ อย่าสร้อยข้อมือ แหวน นาฬิกา หรือเข็มกลัดต่าง ๆ อาจใช้ลิ้นชักในการจัดเก็บ หรือจัดเก็บใส่กล่องแยกประเภท และจัดวางไว้ในพื้นที่ที่มองเห็นได้ง่าย และหยิบใช้ได้สะดวก

211126-Content-เรื่องควรรู้-ก่อนออกแบบ-WalkinCloset06

ออกแบบให้แสงธรรมชาติเข้าถึง

ไม่ว่าจะเป็น WalkinCloset แบบบิ้วอินตู้เสื้อผ้า หรือการ DIY ตู้เสื้อผ้า ตู้ลิ้นชักต่าง ๆ แล้วนำมาจัดวางใหม่ หากในพื้นที่พอจะมีช่องแสงธรรมชาติอยู่ ก็ควรจะเว้นให้แสงธรรมชาติเข้าถึงได้ เพราะสาว ๆ ที่ต้องแต่งหน้าเป็นประจำ จะทราบดีว่า การแต่งหน้าท่ามกลางแสงธรรมชาติ คือ สิ่งที่ดีที่สุด และยังทำให้การมองเห็นข้าวของต่าง ๆ ชัดเจนตรงกับสีจริง ไม่หลอกตา ทำให้การ Mix & Match การแต่งตัวในลุคต่าง ๆ ออกมาไม่พลาดแน่ ๆ

เลือกการจัดวางให้โปร่ง ป้องกันความชื้น

เนื่องจากพื้นที่บิ้วอินตู้เสื้อผ้า หรือ WalkinCloset ส่วนใหญ่ มักถูกจัดวางให้เชื่อมต่อระหว่างห้องน้ำ กับห้องนอน การออกแบบ WalkinCloset จึงต้องให้ความสำคัญเรื่องการระบายอากาศ และความชื้นมากเป็นพิเศษ โดยออกแบบให้มีระยะห่างระหว่างพื้นที่แห้งและเปียก อย่างน้อย 1.20 เมตร ขึ้นไป รวมไปถึงให้มีหน้าต่าง หรือช่องลม เพื่อช่วยระบายความอับชื้น สาเหตุของการเกิดเชื้อรา และโรคทางเดินหายใจ รวมทั้งช่วยลดการสะสมความร้อนภายใน WalkinCloset ซึ่งเป็นการช่วยยืดอายุการใช้งานข้าวของเครื่องใช้ไปด้วยในตัว

กระจกเงาเช็คความเรียบร้อยตั้งแต่หัวจรดเท้า

WalkinCloset กับกระจกเงา ถือเป็นของคู่กัน โดยเฉพาะกระจกเงาแบบเต็มตัว ที่ทำให้เพลิดเพลินกับการแต่งตัว และเช็คความเรียบร้อยได้ตั้งแต่หัวจรดเท้า ซึ่งปัจจุบัน กระจกเงามีดีไซน์หลากหลายแบบให้เลือกใช้ ไม่เพียงแค่แบบตั้งพื้น หรือยึดติดกับผนัง แต่ยังมีแบบที่สามารถซ่อนไว้ด้านใน และหมุนหรือเปิดออกมาได้เมื่อต้องการใช้งาน นอกจากจะมีประโยชน์แล้ว กระจกเงายังสามารถใช้เป็นของตกแต่งห้องนอนที่ช่วยทำให้ห้องดูโปร่ง สว่าง และกว้างขึ้นด้วย

เป็นอย่างไรกันบ้าง กับเรื่องที่ควรรู้ ก่อนออกแบบ และสร้าง WalkinCloset ถึงแม้ WalkinCloset จะเป็นเพียงพื้นที่เล็ก ๆ ภายในบ้าน แต่กลับมีประโยชน์ใช้สอยมากมาย และสามารถเติมเต็มความเป็นบ้านในฝันของใครหลายคนได้อย่างสมบูรณ์ สิ่งสำคัญในการออกแบบ WalkinCloset ด้วยตัวเอง คือ การใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่แสดงถึงความเป็นตัวตนของผู้ใช้งานเองนั่นเอง

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง :

Sponsered (โฆษณา)