
อัปเดตเมื่อ วันที่ 2 กันยายน 2025
เครื่องมือช่างไม้ สำหรับงานไม้ ที่ควรรู้มีอะไรบ้าง?
สำหรับงานไม้ งานเฟอร์นิเจอร์ ถ้าต้องการให้งานออกมาสวย เสร็จเร็ว ไม่เปลืองแรง ก็ควรมีเครื่องมือช่างมาช่วยทุ่นแรง แล้วเครื่องมือช่างที่ว่านี้อะไรบ้างที่ควรจะหาซื้อมาใช้กันนะ! บทความนี้ KACHA จะพาทุกคนไปรู้จักกับ “เครื่องมือช่างไม้” ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือไฟฟ้า และเครื่องมือลมสำหรับงานไม้ ที่จะทำให้งานไม้ของคุณกลายเป็นเรื่องง่าย ๆ จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันค่ะ!
เครื่องมือช่างไม้ มีอะไรบ้าง?
เครื่องมือช่างไม้มีหลากหลายประเภท การเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับประเภทของงานจะช่วยให้งานไม้ออกมาดีและมีคุณภาพค่ะ และนี่คือการแบ่งประเภทเครื่องมือช่างไม้ตามการใช้งานหลัก ๆ ดังนี้
1. เครื่องมือสำหรับวัดและทำเครื่องหมาย

เป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญที่สุดในการทำงานไม้ เพื่อให้ได้ชิ้นงานที่มีขนาดและมุมที่ถูกต้อง ได้แก่
- ตลับเมตร สำหรับวัดความยาว
- ฉาก ใช้สำหรับวัดและทำเครื่องหมายมุมฉาก (90 องศา) เช่น ฉากตาย, ฉากเป็น
- ดินสอช่างไม้ มีไส้ที่แข็งและใหญ่กว่าดินสอทั่วไป ไม่หักง่าย ใช้สำหรับขีดทำเครื่องหมายบนไม้
- เวอร์เนียร์คาลิปเปอร์ หรือ ไม้บรรทัด สำหรับวัดขนาดชิ้นงานอย่างละเอียด
2. เครื่องมือสำหรับตัด

เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการตัดไม้ให้ได้ขนาดหรือรูปร่างที่ต้องการ
- โต๊ะเลื่อย หนึ่งในเครื่องมือของช่างไม้ ที่จะขาดไม่ได้เลยทีเดียว โดยตัวโต๊ะเลื่อยเอง มีหน้าที่ในการตัด อาจจะตัดไม้ท่อน หรือเป็นไม้แผ่นในแนวขวางหรือแนวยาวได้ ซึ่งนับได้ว่าโต๊ะเลื่อย เป็นอุปกรณ์ชิ้นแรก ที่ช่างไม้มือใหม่ขาดไม่ได้เลย
- แท่นตัดองศา เครื่องตัดไฟฟ้าสำหรับตัดไม้หรือวัสดุอื่น ๆ โดยเฉพาะเมื่อต้องการตัดให้ได้ “มุมที่แม่นยำ” เช่น 45°, 90°, หรือมุมเฉียงอื่น ๆ ที่ใช้บ่อยในงานไม้, งานตกแต่งภายใน, งานติดตั้งวงกบ, คิ้วบัว, หรือโครงไม้ต่าง ๆ
- เลื่อยวงเดือน จะมีประโยชน์มาก ๆ ในการตัดวัสดุไม้ที่เป็นแผ่น แนวยาว หรือแนวขวาง เลื่อยวงเดือนบางรุ่น มีไกด์ในการนำตัด หรือรางในการสไลด์ ทำให้แนวตัดตรงไม่เบี้ยว ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์เสริมของเลื่อยวงเดือนชนิดนั้น ๆ
- เลื่อยสายพาน เป็นเครื่องมือที่ใช้ตัดไม้เช่นกัน แต่จะตัดไม้ในลักษณะของแผ่นบาง ๆได้ดีเยี่ยม เนื่องจากตัวใบเลื่อยมีลักษณะบางมาก ๆ และหมุนเป็นสายพานทำให้รอยตัดตัดได้คมกริบ เหมาะกับการซอยไม้บาง ๆ โดยตัวเลื่อยสายพานมีหลากหลายขนาด ต่างชนิดกัน ตัวเลื่อยสายพานค่อนข้างมีน้ำหนักมาก ไม่เหมาะกับการขนย้ายไปหน้างาน จึงแนะนำให้ใช้ที่ workshop ในบ้าน หรืออาคารแทน
3. เครื่องมือสำหรับเจาะ ยึด และประกอบ

เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการยึดชิ้นไม้เข้าด้วยกัน
- สว่าน ใช้สำหรับเจาะรูในเนื้อไม้ มีทั้งสว่านมือ สว่านไฟฟ้า และสว่านไร้สาย (สว่านแบตเตอรี่) และยังมี สว่านไขควงไฟฟ้า ที่รวมเอาคุณสมบัติของ “สว่าน” และ “ไขควง” มาไว้ในเครื่องเดียวด้วย
- ค้อนหงอน ใช้สำหรับตอกตะปูและถอนตะปู
- ไขควง ใช้สำหรับขันสกรู มีหลายประเภท เช่น ไขควงปากแบนและไขควงปากแฉก
- น็อตและสกรู เป็นอุปกรณ์สำคัญในการยึดชิ้นไม้เข้าด้วยกัน
- สกรูสำหรับงานไม้ (Wood Screws) มีเกลียวที่หยาบและลึกกว่าสกรูทั่วไป ช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะกับเนื้อไม้ได้ดีกว่า ปลายแหลมคมทำให้เจาะไม้ได้ง่าย เช่น สกรูเกลียวปล่อย , สกรูปลายสว่าน เป็นต้น
- น็อต (Nuts) คือ อุปกรณ์ที่ใช้คู่กับสลักเกลียว (Bolt) เพื่อยึดชิ้นงานเข้าด้วยกัน มักใช้ในงานที่ต้องการความแข็งแรงสูง หรือมีการถอดประกอบบ่อยครั้ง
4. เครื่องมือสำหรับขัดและตกแต่งผิวไม้

เป็นขั้นตอนสุดท้ายในการเตรียมผิวไม้ก่อนการทำสี
- เครื่องรีดไม้ เครื่องที่ใช้สำหรับปรับหน้าไม้ ให้เรียบเสมอกัน โดยเครื่องรีดไม้ จะมีคุณสมบัติพิเศษ คือ สามารถดูดแผ่นไม้เข้าไปได้แบบอัตโนมัติ เพราะโผล่มาอีกที แผ่นไม้ที่เอาเข้าไปก่อนหน้านั้นจะเรียบ และได้ขนาดตามที่เรากำหนดไว้ ซึ่งจะเป็นผลดีมาก ๆ กับงานไม้ ทำให้การทำท็อปโต๊ะ หรือแผ่นไม้ได้ขนาดตามที่เราต้องการ เครื่องมือชนิดนี้ แนะนำสำหรับมือใหม่มาก ๆ เพราะใช้งานได้ง่าย และสะดวก ขนาดที่นิยมใช้สำหรับมือใหม่นั้น แนะนำที่ 12-13 นิ้ว
- กบไสไม้ ใช้สำหรับไสผิวไม้ให้เรียบและได้ขนาดตามต้องการ มีทั้งกบไสไม้แบบใช้มือ และกบไสไม้ไฟฟ้า
- เร้าเตอร์ อาวุธชั้นเลิศของงานไม้ ตัวเครื่องเร้าเตอร์ นั้นสามารถทำได้หลายอย่างด้วยกัน ทั้งทำร่อง ทำลวดลาย หรือแม้แต่บากไม้ ก็สามารถทำได้
- ทริมเมอร์ เหมาะสมกับการใช้เก็บรายละเอียดการเข้าร่อง การเซาะร่อง เครื่องมือนี้เป็นที่นิยมในการใช้งาน Built-in หรือบางคนยังสามารถเอาไปใช้กับเครื่อง CNC ที่ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ได้อีกด้วย
- เครื่องขัดกระดาษทราย เครื่องมือไฟฟ้าที่ช่วยให้ขัดผิวไม้ได้ง่ายและรวดเร็วกว่าการใช้มือ
- ชุดปั๊มลมสำหรับพ่นสี หลังจากที่เราขัดเตรียมพื้นผิวแล้ว ขั้นตอนต่อไป สำหรับช่างไม้มือใหม่ ก็ต้องพ่นสีย้อมไม้ หรือสีเคลือบไม้ เป็นการพ่น เพื่อเคลือบผิวให้กันน้ำ กันฝน กันแดดเป็นหลักเราแนะนำให้ใช้ชุดเครื่องปั๊มลมสำหรับพ่นสี ที่มีคุณภาพ เพราะจะทำให้การพ่นสีไม่สะดุด ไม่เสียเวลารอปั๊มลมปั๊มใหม่
“หัวใจสำคัญของการทำงานไม้ให้ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่แค่การมีเครื่องมือที่ครบครัน แต่คือการเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับลักษณะงาน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกชนิดของสกรูที่ถูกประเภท การใช้เลื่อยที่เหมาะกับชิ้นงาน หรือแม้แต่การวัดที่แม่นยำ ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้งานไม้ออกมาสวยงาม แข็งแรง และปลอดภัย” – ทีม KACHA
สำหรับผู้ที่เริ่มต้นทำงานไม้ อาจไม่จำเป็นต้องมีเครื่องมือครบทุกชนิดในทันที เราแนะนำให้เริ่มต้นจากชุดเครื่องมือพื้นฐานที่จำเป็นก่อน แล้วค่อย ๆ สะสมเพิ่มตามความถนัดและประเภทของงานที่ทำ เพราะการลงทุนในเครื่องมือที่ดีเปรียบเสมือนการลงทุนในคุณภาพของผลงาน หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถสอบถามทีมงาน KACHA ได้เลยนะคะ🥰
เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสารสำคัญ และโปรโมชั่นพิเศษมากมาย สามารถติดตามเราผ่านช่องทางต่างๆได้หลากหลายช่องทางตามด้านล่างนี้เลย