แม่แรงไฮดรอลิค คืออะไร มีแบบไหนบ้าง?

อัพเดตเมื่อ 14 พฤษภาคม 2025

แม่แรงไฮดรอลิค คืออะไร? มีกี่แบบ?

แม่แรงไฮดรอลิค คืออะไร มีแบบไหนบ้าง?

ถ้าพูดถึงการยกรถ ยกของหนัก หรือซ่อมบำรุงเครื่องจักร “แม่แรง” เป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ขาดไม่ได้เลย และหนึ่งในประเภทแม่แรงที่ใช้งานง่าย แรงดี และได้รับความนิยมสูงก็คือ “แม่แรงไฮดรอลิค” แต่หลายคนอาจยังสงสัยว่า แม่แรงไฮดรอลิคคืออะไร ใช้งานยังไง และมีกี่แบบให้เลือก? บทความนี้จะพาไปรู้จักกับแม่แรงไฮดรอลิคแบบเจาะลึก

แม่แรงไฮดรอลิค คืออะไร?

แม่แรงไฮดรอลิค (Hydraulic Jack) คือ อุปกรณ์ที่ใช้หลักการทำงานของระบบไฮดรอลิค (Hydraulic System) ในการยกหรือยกน้ำหนักวัตถุหนัก ๆ เช่น รถยนต์ เครื่องจักร หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ โดยอาศัยแรงดันของของเหลว (มักเป็นน้ำมันไฮดรอลิค) ช่วยเพิ่มแรงยกให้สูงกว่าการใช้แรงคนหลายเท่า นับเป็นหนึ่งในเครื่องทุ่นแรงที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน

แม่แรงไฮโดรลิค คือ

หลักการทำงานของแม่แรงไฮดรอลิค

ระบบไฮดรอลิคทำงานตาม “กฎของปาสคาล (Pascal’s Law)” ซึ่งกล่าวว่าแรงดันในของเหลวจะถูกส่งต่ออย่างเท่าเทียมกันทุกทิศทางในภาชนะปิด เมื่อเราโยกหรือกดด้ามแม่แรง จะทำให้น้ำมันไฮดรอลิคถูกอัดเข้าไปในกระบอกสูบ จากนั้นแรงดันจะดันลูกสูบให้ยกขึ้น และส่งผลให้วัตถุที่อยู่บนแม่แรงถูกยกขึ้นตามไปด้วย

ข้อดีของแม่แรงไฮดรอลิค

  • ใช้แรงคนเพียงเล็กน้อย แต่สามารถยกของหนักได้มาก
  • ควบคุมทิศทางและระดับการยกได้แม่นยำ
  • เหมาะกับทั้งงานยกรถ งานช่าง และงานอุตสาหกรรม

แม่แรงไฮดรอลิคมีกี่แบบ?

แม่แรงไฮดรอลิคมีหลายแบบให้เลือกใช้งานตามความเหมาะสม โดยแบ่งหลัก ๆ ได้ 4 แบบ

แม่แรง แม่แรงยกรถ แม่แรงกระปุก (Bottle Jack)

1. แม่แรงกระปุก (Bottle Jack)

แม่แรงกระปุกใช้ ของเหลวไฮดรอลิค (น้ำมัน) ภายในกระบอกสูบ เมื่อผู้ใช้โยกคันโยก จะดันน้ำมันไฮดรอลิคเข้าไปในกระบอก ทำให้ลูกสูบด้านในถูกดันขึ้น และสามารถยกของหนักได้อย่างง่ายดาย โดยใช้แรงน้อยกว่าการยกด้วยมือหลายเท่า หน้าตาคล้ายขวดน้ำมัน ทรงตั้ง เหมาะกับการยกรถยนต์ รถบรรทุก หรือของหนักที่ไม่ต้องการการเคลื่อนย้ายบ่อย

  • ข้อดี ยกได้สูง รับน้ำหนักได้เยอะ (ตั้งแต่ 2–50 ตัน)
  • ข้อจำกัด ความสูงเริ่มต้นค่อนข้างสูง อาจไม่เหมาะกับรถโหลดเตี้ย

เช็กราคาแม่แรงกระปุก ขนาด 2 – 30 ตัน จาก KACHA

แม่แรงตะเข้ (Floor Jack)

2. แม่แรงตะเข้ (Floor Jack)

แม่แรงตะเข้ใช้หลักการเดียวกับแม่แรงกระปุก คือ ใช้แรงดันจากของเหลว (น้ำมันไฮดรอลิค) เพื่อยกสิ่งของหนัก แต่จะต่างกันที่ รูปทรงและกลไกการยก ซึ่งเน้นความสะดวก รวดเร็ว และแม่นยำ แม่แรงตะเข้จะมีล้อ เคลื่อนย้ายง่าย ตัวแม่แรงจะเตี้ยและยาว เหมาะกับอู่ซ่อมรถ หรืองานที่ต้องการเคลื่อนที่เข้า-ออกใต้รถ

  • ข้อดี ยกได้เร็ว เคลื่อนตัวได้สะดวก ใช้กับรถโหลดต่ำได้
  • ข้อจำกัด  ราคาสูงกว่าแม่แรงกระปุก

เช็กราคาแม่แรงตะเข้ ขนาด 2 – 5 ตัน จาก KACHA

แม่แรงลมกึ่งไฮโดรลิก (Air-Hydraulic Jack)

3. แม่แรงลมกึ่งไฮดรอลิค (Air-Hydraulic Jack)

แม่แรงลมกึ่งไฮดรอลิค (Air-Hydraulic Jack) คือ แม่แรงลูกผสม ที่รวมข้อดีของ ระบบลม (pneumatic) และ ระบบไฮดรอลิค (hydraulic) ไว้ด้วยกันในเครื่องเดียว

  • ข้อดี ระบบภายในยังเป็นไฮดรอลิค จึงยกของหนักได้หลายตัน นอกจากนี้ยังไม่ต้องโยกมือ เพราะใช้แรงดันลมจากปั๊มลมแทน
  • ข้อจำกัด ใช้งานไม่ได้ถ้าไม่มีแหล่งจ่ายลมอัด และราคามักสูงกว่าแม่แรงไฮดรอลิคหรือแม่แรงลมธรรมดา

เช็กราคาแม่แรงลมกึ่งไฮดรอลิค ขนาด 80 – 100 ตัน จาก KACHA

 แม่แรงยกข้างไฮโดรลิค (Hydraulic Side Lifting Jack)

4. แม่แรงยกข้างไฮดรอลิค (Hydraulic Side Lifting Jack)

แม่แรงยกข้าง ระบบปั๊มลมไฮดรอลิค คือหนึ่งในแม่แรงที่ ใช้งานสะดวก + ทรงพลัง ที่สุดในกลุ่มแม่แรงยกข้าง โดยใช้ แรงดันลม เพื่อขับเคลื่อนระบบ ไฮดรอลิคด้านใน จึงให้แรงยกสูง โดยไม่ต้องออกแรงโยกเอง

  • ข้อดี แค่เปิดวาล์วลมหรือกดปุ่ม ระบบจะยกของขึ้นให้อัตโนมัติ เหมาะกับรถบรรทุก, เครื่องจักร, รถแทรกเตอร์ ลดแรงกระแทกเวลายก ลดความเสี่ยงของการยกไม่สมดุล
  • ข้อจำกัด ต้องมีปั๊มลมในการใช้งาน ราคาสูงกว่าระบบธรรมดา เพราะเป็นระบบลูกผสม

เช็กราคาแม่แรงยกข้างไฮดรอลิค ขนาด 5-30 ตัน จาก KACHA

วิธีเลือกแม่แรงไฮดรอลิคให้เหมาะกับงาน

  1. น้ำหนักของวัตถุที่ต้องการยก เลือกแม่แรงที่รองรับน้ำหนักได้มากกว่าสิ่งของอย่างน้อย 25%
  2. ความสูงเริ่มต้นของแม่แรง สำคัญมากสำหรับรถโหลดเตี้ย
  3. พื้นที่ในการใช้งาน  ถ้าเป็นพื้นที่แคบ อาจต้องใช้แม่แรงเตี้ยอย่างแม่แรงตะเข้
  4. ความถี่ในการใช้งาน  ถ้าใช้บ่อย ควรลงทุนในรุ่นที่แข็งแรงหรือระบบไฟฟ้า
  5. ความปลอดภัย  มีวาล์วนิรภัยหรือไม่? มั่นคงพอหรือเปล่า?

จะเห็นว่า แม่แรงไฮดรอลิค คือเครื่องมือสำคัญในการยกวัตถุหนัก โดยเฉพาะรถยนต์หรือเครื่องจักร ด้วยกลไกที่อาศัยแรงดันน้ำมันในการสร้างแรงยกที่มั่นคงและทรงพลัง ปัจจุบันแม่แรงไฮโดรลิคมีให้เลือกหลายแบบ ดังนั้น การเลือกแม่แรงที่เหมาะสม ควรพิจารณาจาก ลักษณะงาน พื้นที่ใช้งาน น้ำหนักวัตถุที่ต้องการยก และความสะดวกในการใช้งาน เพื่อความคุ้มค่า และความปลอดภัยในการใช้งาน

แชร์บทความที่คุณสนใจ

แสดงความคิดเห็นของท่าน