แม่แรงไฮดรอลิค คืออะไร? มีกี่แบบ?

แม่แรงไฮดรอลิค คืออะไร มีแบบไหนบ้าง?

ถ้าพูดถึงการยกรถ ยกของหนัก หรือซ่อมบำรุงเครื่องจักร “แม่แรง” เป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ขาดไม่ได้เลย และหนึ่งในประเภทแม่แรงที่ใช้งานง่าย แรงดี และได้รับความนิยมสูงก็คือ “แม่แรงไฮดรอลิค” แต่หลายคนอาจยังสงสัยว่า แม่แรงไฮดรอลิคคืออะไร ใช้งานยังไง และมีกี่แบบให้เลือก? บทความนี้จะพาไปรู้จักกับแม่แรงไฮดรอลิคแบบเจาะลึก

แม่แรงไฮดรอลิค คืออะไร?

แม่แรงไฮดรอลิค (Hydraulic Jack) คือ อุปกรณ์ที่ใช้หลักการทำงานของระบบไฮดรอลิค (Hydraulic System) ในการยกหรือยกน้ำหนักวัตถุหนัก ๆ เช่น รถยนต์ เครื่องจักร หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ โดยอาศัยแรงดันของของเหลว (มักเป็นน้ำมันไฮดรอลิค) ช่วยเพิ่มแรงยกให้สูงกว่าการใช้แรงคนหลายเท่า นับเป็นหนึ่งในเครื่องทุ่นแรงที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน

แม่แรงไฮโดรลิค คือ

หลักการทำงานของแม่แรงไฮดรอลิค

ระบบไฮดรอลิคทำงานตาม “กฎของปาสคาล (Pascal’s Law)” ซึ่งกล่าวว่าแรงดันในของเหลวจะถูกส่งต่ออย่างเท่าเทียมกันทุกทิศทางในภาชนะปิด เมื่อเราโยกหรือกดด้ามแม่แรง จะทำให้น้ำมันไฮดรอลิคถูกอัดเข้าไปในกระบอกสูบ จากนั้นแรงดันจะดันลูกสูบให้ยกขึ้น และส่งผลให้วัตถุที่อยู่บนแม่แรงถูกยกขึ้นตามไปด้วย

ข้อดีของแม่แรงไฮดรอลิค

  • ใช้แรงคนเพียงเล็กน้อย แต่สามารถยกของหนักได้มาก
  • ควบคุมทิศทางและระดับการยกได้แม่นยำ
  • เหมาะกับทั้งงานยกรถ งานช่าง และงานอุตสาหกรรม

แม่แรงไฮดรอลิคมีกี่แบบ?

แม่แรงไฮดรอลิคมีหลายแบบให้เลือกใช้งานตามความเหมาะสม โดยแบ่งหลัก ๆ ได้ 4 แบบ

แม่แรง แม่แรงยกรถ แม่แรงกระปุก (Bottle Jack)

1. แม่แรงกระปุก (Bottle Jack)

แม่แรงกระปุกใช้ ของเหลวไฮดรอลิค (น้ำมัน) ภายในกระบอกสูบ เมื่อผู้ใช้โยกคันโยก จะดันน้ำมันไฮดรอลิคเข้าไปในกระบอก ทำให้ลูกสูบด้านในถูกดันขึ้น และสามารถยกของหนักได้อย่างง่ายดาย โดยใช้แรงน้อยกว่าการยกด้วยมือหลายเท่า หน้าตาคล้ายขวดน้ำมัน ทรงตั้ง เหมาะกับการยกรถยนต์ รถบรรทุก หรือของหนักที่ไม่ต้องการการเคลื่อนย้ายบ่อย

  • ข้อดี ยกได้สูง รับน้ำหนักได้เยอะ (ตั้งแต่ 2–50 ตัน)
  • ข้อจำกัด ความสูงเริ่มต้นค่อนข้างสูง อาจไม่เหมาะกับรถโหลดเตี้ย

เช็กราคาแม่แรงกระปุก ขนาด 2 – 30 ตัน จาก KACHA

แม่แรงตะเข้ (Floor Jack)

2. แม่แรงตะเข้ (Floor Jack)

แม่แรงตะเข้ใช้หลักการเดียวกับแม่แรงกระปุก คือ ใช้แรงดันจากของเหลว (น้ำมันไฮดรอลิค) เพื่อยกสิ่งของหนัก แต่จะต่างกันที่ รูปทรงและกลไกการยก ซึ่งเน้นความสะดวก รวดเร็ว และแม่นยำ แม่แรงตะเข้จะมีล้อ เคลื่อนย้ายง่าย ตัวแม่แรงจะเตี้ยและยาว เหมาะกับอู่ซ่อมรถ หรืองานที่ต้องการเคลื่อนที่เข้า-ออกใต้รถ

  • ข้อดี ยกได้เร็ว เคลื่อนตัวได้สะดวก ใช้กับรถโหลดต่ำได้
  • ข้อจำกัด  ราคาสูงกว่าแม่แรงกระปุก

เช็กราคาแม่แรงตะเข้ ขนาด 2 – 5 ตัน จาก KACHA

แม่แรงลมกึ่งไฮโดรลิก (Air-Hydraulic Jack)

3. แม่แรงลมกึ่งไฮดรอลิค (Air-Hydraulic Jack)

แม่แรงลมกึ่งไฮดรอลิค (Air-Hydraulic Jack) คือ แม่แรงลูกผสม ที่รวมข้อดีของ ระบบลม (pneumatic) และ ระบบไฮดรอลิค (hydraulic) ไว้ด้วยกันในเครื่องเดียว

  • ข้อดี ระบบภายในยังเป็นไฮดรอลิค จึงยกของหนักได้หลายตัน นอกจากนี้ยังไม่ต้องโยกมือ เพราะใช้แรงดันลมจากปั๊มลมแทน
  • ข้อจำกัด ใช้งานไม่ได้ถ้าไม่มีแหล่งจ่ายลมอัด และราคามักสูงกว่าแม่แรงไฮดรอลิคหรือแม่แรงลมธรรมดา

เช็กราคาแม่แรงลมกึ่งไฮดรอลิค ขนาด 80 – 100 ตัน จาก KACHA

 แม่แรงยกข้างไฮโดรลิค (Hydraulic Side Lifting Jack)

4. แม่แรงยกข้างไฮดรอลิค (Hydraulic Side Lifting Jack)

แม่แรงยกข้าง ระบบปั๊มลมไฮดรอลิค คือหนึ่งในแม่แรงที่ ใช้งานสะดวก + ทรงพลัง ที่สุดในกลุ่มแม่แรงยกข้าง โดยใช้ แรงดันลม เพื่อขับเคลื่อนระบบ ไฮดรอลิคด้านใน จึงให้แรงยกสูง โดยไม่ต้องออกแรงโยกเอง

  • ข้อดี แค่เปิดวาล์วลมหรือกดปุ่ม ระบบจะยกของขึ้นให้อัตโนมัติ เหมาะกับรถบรรทุก, เครื่องจักร, รถแทรกเตอร์ ลดแรงกระแทกเวลายก ลดความเสี่ยงของการยกไม่สมดุล
  • ข้อจำกัด ต้องมีปั๊มลมในการใช้งาน ราคาสูงกว่าระบบธรรมดา เพราะเป็นระบบลูกผสม

เช็กราคาแม่แรงยกข้างไฮดรอลิค ขนาด 5-30 ตัน จาก KACHA

วิธีเลือกแม่แรงไฮดรอลิคให้เหมาะกับงาน

  1. น้ำหนักของวัตถุที่ต้องการยก เลือกแม่แรงที่รองรับน้ำหนักได้มากกว่าสิ่งของอย่างน้อย 25%
  2. ความสูงเริ่มต้นของแม่แรง สำคัญมากสำหรับรถโหลดเตี้ย
  3. พื้นที่ในการใช้งาน  ถ้าเป็นพื้นที่แคบ อาจต้องใช้แม่แรงเตี้ยอย่างแม่แรงตะเข้
  4. ความถี่ในการใช้งาน  ถ้าใช้บ่อย ควรลงทุนในรุ่นที่แข็งแรงหรือระบบไฟฟ้า
  5. ความปลอดภัย  มีวาล์วนิรภัยหรือไม่? มั่นคงพอหรือเปล่า?

จะเห็นว่า แม่แรงไฮดรอลิค คือเครื่องมือสำคัญในการยกวัตถุหนัก โดยเฉพาะรถยนต์หรือเครื่องจักร ด้วยกลไกที่อาศัยแรงดันน้ำมันในการสร้างแรงยกที่มั่นคงและทรงพลัง ปัจจุบันแม่แรงไฮโดรลิคมีให้เลือกหลายแบบ ดังนั้น การเลือกแม่แรงที่เหมาะสม ควรพิจารณาจาก ลักษณะงาน พื้นที่ใช้งาน น้ำหนักวัตถุที่ต้องการยก และความสะดวกในการใช้งาน เพื่อความคุ้มค่า และความปลอดภัยในการใช้งาน

เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสารสำคัญ และโปรโมชั่นพิเศษมากมาย สามารถติดตามเราผ่านช่องทางต่างๆได้หลากหลายช่องทางตามด้านล่างนี้เลย

บทความที่เกี่ยวข้อง

  • มือใหม่ต้องรู้! หัวไขควงแบบต่างๆ มีอะไรบ้าง ใช้ต่างกันยังไง

    มือใหม่ต้องรู้! หัวไขควงแบบต่างๆ มีอะไรบ้าง ใช้ต่างกันยังไง

    6 มิถุนายน 2025

  • ไขข้อสงสัย! น็อตคืออะไร? น็อตมีกี่ประเภท?

    ไขข้อสงสัย! น็อตคืออะไร น็อตมีกี่ประเภท

    9 มิถุนายน 2025

  • 10 อุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วม ที่ควรเตรียมไว้ก่อนน้ำจะมา

    10 อุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วม ที่ควรมีไว้ติดบ้านก่อนน้ำจะมา

    9 มิถุนายน 2025

  • วิธีใช้เครื่องรัดกล่อง รุ่นกึ่งอัตโนมัติ KACHA

    วิธีใช้เครื่องรัดกล่อง ระบบกึ่งอัตโนมัติ – KACHA

    9 มิถุนายน 2025

  • รถ X Lift คืออะไร มีจุดเด่นอย่างไร และทำไมถึงกลายเป็นตัวช่วยสำคัญในภาคอุตสาหกรรม

    รถ X Lift คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญในงานระดับอุตสาหกรรม?

    9 มิถุนายน 2025

  • ข้อต่อทองเหลือง คืออะไร

    ข้อต่อทองเหลือง คืออะไร ใช้งานแบบไหนบ้าง?

    9 มิถุนายน 2025

บทความที่น่าสนใจ

  • มือใหม่ต้องรู้! หัวไขควงแบบต่างๆ มีอะไรบ้าง ใช้ต่างกันยังไง

    มือใหม่ต้องรู้! หัวไขควงแบบต่างๆ มีอะไรบ้าง ใช้ต่างกันยังไง

    6 มิถุนายน 2025

  • ไขข้อสงสัย! น็อตคืออะไร? น็อตมีกี่ประเภท?

    ไขข้อสงสัย! น็อตคืออะไร น็อตมีกี่ประเภท

    9 มิถุนายน 2025

  • 10 อุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วม ที่ควรเตรียมไว้ก่อนน้ำจะมา

    10 อุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วม ที่ควรมีไว้ติดบ้านก่อนน้ำจะมา

    9 มิถุนายน 2025

  • วิธีใช้เครื่องรัดกล่อง รุ่นกึ่งอัตโนมัติ KACHA

    วิธีใช้เครื่องรัดกล่อง ระบบกึ่งอัตโนมัติ – KACHA

    9 มิถุนายน 2025

  • รถ X Lift คืออะไร มีจุดเด่นอย่างไร และทำไมถึงกลายเป็นตัวช่วยสำคัญในภาคอุตสาหกรรม

    รถ X Lift คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญในงานระดับอุตสาหกรรม?

    9 มิถุนายน 2025

  • ข้อต่อทองเหลือง คืออะไร

    ข้อต่อทองเหลือง คืออะไร ใช้งานแบบไหนบ้าง?

    9 มิถุนายน 2025