ไขข้อสงสัย! น็อตคืออะไร? น็อตมีกี่ประเภท?
หลายคนอาจสงสัยว่า น็อตคืออะไร? และน็อตมีกี่ประเภท? บทความนี้จะพาไปรู้จักกับน็อตแต่ละประเภท พร้อมแนะนำวิธีเลือกใช้งานให้เหมาะกับงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานไม้ งานเหล็ก หรือ DIY ที่บ้าน การรู้จักประเภทน็อตจะช่วยให้เลือกใช้งานได้ถูกต้อง แข็งแรง และปลอดภัยมากขึ้นแน่นอน
น็อต (Nut) คืออะไร?
หน้าที่หลักของมันคือ เชื่อมต่อและยึดชิ้นส่วนต่าง ๆ เข้าด้วยกันให้แน่นหนาและมั่นคง โดยทั่วไปแล้ว น็อตจะประกอบด้วยส่วนสำคัญสองส่วนที่ทำงานร่วมกัน คือ น็อตตัวผู้ (Bolt) ซึ่งเป็นแท่งมีเกลียว และ น็อตตัวเมีย (Nut) ที่มีเกลียวภายในสำหรับหมุนประกบกัน น็อตมักทำจากโลหะ เช่น เหล็ก สแตนเลส หรือทองเหลือง และบางทีก็มีเคลือบผิวกันสนิมด้วย ช่วยให้อายุการใช้งานนานขึ้น ไม่เป็นสนิมง่าย
น็อตมีกี่ประเภท?
น็อตมี 8 ประเภท แต่ละประเภทออกแบบมาให้เหมาะกับงานที่แตกต่างกัน การเข้าใจน็อตแต่ละแบบช่วยให้เลือกใช้งานได้ถูกต้องและปลอดภัยมากขึ้น
1. น็อตหกเหลี่ยม (Hex Nut)

1. น็อตหกเหลี่ยม (Hex Nut)
น็อตหกเหลี่ยม เป็นน็อตที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ด้วยรูปทรงหกเหลี่ยมด้านนอก ทำให้สามารถจับยึดด้วยประแจได้สะดวก ส่วนภายในมีเกลียวสำหรับหมุนเข้าไปกับสลักเกลียว เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไป เช่น โครงสร้างเหล็ก งานไม้ งานเครื่องกล หรือเฟอร์นิเจอร์ เนื่องจากมีความแข็งแรงและรองรับแรงดึงได้ดี
2. น็อตปีก (Wing Nut)

2. น็อตปีก (Wing Nut)
น็อตชนิดนี้ มีลักษณะเด่นตรงที่มีปีกสองข้างยื่นออกมา จึงสามารถหมุนด้วยมือเปล่าได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ เหมาะกับงานที่ต้องการถอดเข้าออกบ่อย ๆ เช่น อุปกรณ์ตั้งแสดง หรือโครงสร้างชั่วคราว ตัวปีกช่วยให้หมุนแน่นได้ง่าย แม้ใช้แรงไม่มาก
3. น็อตล็อก (Lock Nut)

3. น็อตล็อก (Lock Nut)
น็อตล็อก ถูกออกแบบมาเพื่อล็อกให้แน่นเป็นพิเศษ ป้องกันการคลายตัวจากแรงสั่นสะเทือน มักมีแหวนหรือเกลียวเสริมที่ช่วยยึดแน่น เหมาะสำหรับงานที่มีการเคลื่อนไหว เช่น เครื่องยนต์ เครื่องจักร หรือชิ้นส่วนยานยนต์ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยงจากการหลุดหลวม
4. น็อตฝาครอบ (Cap Nut)

4. น็อตฝาครอบ (Cap Nut)
น็อตฝาครอบ เป็นน็อตที่มีลักษณะพิเศษตรงส่วนปลายปิดทึบ ทำให้ปิดเกลียวที่โผล่ออกมาจากสลักเกลียวได้พอดี นอกจากช่วยป้องกันสนิมและการบาดเจ็บจากเกลียวแล้วยังให้ความเรียบร้อยสวยงาม เหมาะกับงานตกแต่ง เช่น เฟอร์นิเจอร์ ราวบันได หรืออุปกรณ์ภายในบ้าน
5. น็อตสี่เหลี่ยม (Square Nut)

5. น็อตสี่เหลี่ยม (Square Nut)
น็อตสี่เหลี่ยม มีรูปทรงเป็นจัตุรัส ซึ่งให้พื้นที่สัมผัสกับชิ้นงานมากกว่าน็อตทั่วไป จึงช่วยยึดได้แน่นและไม่หมุนตามง่าย นิยมใช้ในงานไม้หรืองานเชิงโครงสร้างแบบโบราณ โดยเฉพาะในส่วนที่ต้องการแรงกดสูงหรือประกอบถาวร
6. น็อตเชื่อม (Weld Nut)

6. น็อตเชื่อม (Weld Nut)
น็อตเชื่อม ออกแบบมาให้สามารถเชื่อมติดกับแผ่นโลหะได้โดยตรง มักมีฐานหรือขาเพื่อช่วยในการเชื่อมและจัดตำแหน่ง เหมาะสำหรับงานโครงสร้างเหล็ก รถยนต์ หรือเครื่องจักร ที่ต้องการน็อตแบบติดถาวร ไม่เคลื่อนหลุดจากตำแหน่งเดิม
7. น็อตไนลอนล็อก (Nylon Insert Lock Nut)

7. น็อตไนลอนล็อก (Nylon Insert Lock Nut)
น็อตชนิดนี้ มีแหวนไนลอนติดอยู่ด้านใน ทำหน้าที่ล็อกเกลียวให้แน่นไม่ให้คลายออก แม้ในสภาวะที่มีแรงสั่นหรือการสั่นสะเทือน เหมาะสำหรับใช้งานกับเครื่องยนต์ เครื่องจักร หรือชิ้นส่วนที่มีการเคลื่อนไหวต่อเนื่อง เพิ่มความมั่นคงในการยึดชิ้นส่วน
8. น็อตหัวจาน (Flange Nut)

8. น็อตหัวจาน (Flange Nut)
น็อตหัวจาน เป็นน็อตหกเหลี่ยมที่มีแหวนขยายติดอยู่กับฐาน ซึ่งช่วยกระจายแรงกดของน็อตได้ดี โดยไม่จำเป็นต้องใช้แหวนรอง เหมาะสำหรับงานโครงสร้างทั่วไป เฟอร์นิเจอร์ หรือเครื่องจักรที่ไม่มีแรงสั่นสะเทือนมาก ทำให้งานติดตั้งรวดเร็วและดูเรียบร้อยขึ้น
ตอนนี้ก็รู้แล้วนะคะว่า น็อต คือ อุปกรณ์ยึดจับชิ้นส่วนที่สำคัญ ซึ่งมีหน้าที่และการใช้งานต่างกันออกไปค่ะ ดังนั้นควรเลือกให้เหมาะสม งานก็ออกมาดี แข็งแรง และปลอดภัยสุด แต่ถ้าใครกำลังมองหาน็อตและสกรูคุณภาพดี พร้อมใช้งาน หรืออุปกรณ์ช่างอื่น ๆ เข้าไปเลือกซื้อกันได้เลยที่ KACHA ค่ะ