หน้าแรก > หมวดหมู่สินค้า > สกรูเกลียวปล่อย น็อตเกลียวปล่อย

สกรูเกลียวปล่อย (Self Tapping Screws)

สกรูเกลียวปล่อย (Self Tapping Screws) คือ สกรูที่ออกแบบมาให้สามารถเจาะและยึดตัวเองเข้ากับวัสดุได้โดยไม่ต้องใช้น็อตตัวเมีย ทำให้สะดวกและรวดเร็วในการใช้งาน ผลิตจากสแตนเลสเกรด 304 ซึ่งมีความทนทานต่อการกัดกร่อนสูง จึงเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรงและทนทานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย นิยมใช้ในงานไม้ งานพลาสติก งานโลหะแผ่นบาง งานก่อสร้าง งานเฟอร์นิเจอร์ และงาน DIY ต่างๆ โดยเฉพาะงานที่ต้องการความทนทานต่อสนิม เช่น งานภายนอกอาคาร งานในที่เปียกชื้น หรือ งานที่สัมผัสกับสารเคมี Kacha จำหน่ายสกรูเกลียวปล่อย สแตนเลส 304 ราคาส่ง พร้อมให้คำปรึกษาและบริการจัดส่งทั่วประเทศ

ประเภทของสกรูเกลียวปล่อย

สกรูเกลียวปล่อยไม่ได้มีแค่แบบเดียว แต่ยังแบ่งย่อยออกไปตามลักษณะการใช้งานและวัสดุที่ต้องการยึด สามารถแบ่งตามลักษณะหัว / ลักษณะเกลียว / ลักษณะปลายสกรู และวัสดุการใช้งานได้ดังนี้

  1. แบ่งตามลักษณะหัวสกรูเกลียวปล่อย
  • สกรูหัวแบน (Flat Head) หัวเรียบแบน มีลักษณะเรียบเสมอวัสดุเมื่อขันลงไป ใช้กับงานไม้/งานตกแต่งภายใน
  • สกรูหัวกลม (Pan Head) หัวโค้งนูน เห็นหัวน๊อตชัดเจน ใช้งานทั่วไป เช่น งานเฟอร์นิเจอร์
  • สกรูหัวเตเปอร์ (Bugle Head) หัวบานออกคล้ายรูปแตร ใช้กับแผ่นยิปซัม ไม่ทำให้วัสดุฉีก
  • สกรูหัวหกเหลี่ยม (Hex Head) หัวหกเหลี่ยม ใช้กับบ๊อกซ์หรือประแจขัน เหมาะกับงานโครงเหล็ก
  1. แบ่งตามลักษณะปลายสกรู
  • สกรูปลายแหลม (Sharp Point) เจาะวัสดุได้เองโดยไม่ต้องเจาะรูนำ ใช้กับไม้, พลาสติก, ยิปซัม
  • สกรูปลายสว่าน (Self Drilling) มีปลายเป็นดอกสว่านในตัว ใช้กับเหล็กบาง, โลหะ
  1. แบ่งตามลักษณะเกลียว
  • เกลียวหยาบ เว้นช่วงเกลียวห่าง ยึดวัสดุนิ่มได้ดี เหมาะกับงานไม้, ยิปซัม
  • เกลียวละเอียด เกลียวชิดแน่น เหมาะกับใช้กับวัสดุแข็งหรือโลหะ
  1. แบ่งตามวัสดุและการเคลือบ
  • เหล็กชุบซิงค์ (Zinc Coated) ป้องกันสนิมในระดับทั่วไป ใช้กับงานภายใน
  • สแตนเลส (Stainless Steel) ทนสนิมสูง ใช้กับงานภายนอก / กลางแจ้ง
  • เหล็กเคลือบสีดำ (Black Oxide) ป้องกันสนิมระดับปานกลาง สีสวย ใช้กับงานตกแต่ง

 

วิธีเลือกซื้อสกรูเกลียวปล่อย

การเลือกซื้อสกรูเกลียวปล่อยที่เหมาะสมกับงานนั้น ไม่ใช่แค่การเลือกแบบที่ดูสวยงามเท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่น ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าการยึดติดจะแข็งแรงและปลอดภัย

  1. พิจารณาวัสดุของชิ้นงาน

สิ่งแรกที่ต้องรู้คือ เราจะใช้สกรูเกลียวปล่อยกับวัสดุประเภทใด เช่น ไม้เนื้ออ่อน, ไม้เนื้อแข็ง, แผ่นโลหะบาง, พลาสติก หรือยิปซัม ซึ่งแต่ละวัสดุต้องการสกรูที่มีลักษณะเกลียวและความแข็งแรงที่แตกต่างกัน

  1. เลือกขนาด (เส้นผ่านศูนย์กลาง) และความยาว
  • เส้นผ่านศูนย์กลาง (Diameter) ควรเลือกขนาดที่เหมาะสมกับขนาดของชิ้นงาน ถ้าชิ้นงานมีขนาดใหญ่ก็ควรใช้สกรูที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางใหญ่ขึ้นตามไปด้วย
  • ความยาว (Length) ความยาวของสกรูควรยาวกว่าความหนาของชิ้นงานที่จะถูกยึดติด ประมาณ 1.5 – 2 เท่า เพื่อให้มีส่วนของเกลียวที่เข้าไปในเนื้อวัสดุด้านล่างอย่างเพียงพอที่จะสร้างความแข็งแรงในการยึดติดได้
  1. เลือกประเภทของหัวสกรู

หัวสกรูมีหลายแบบ แต่ละแบบก็มีจุดประสงค์การใช้งานที่ต่างกันไป

  • สกรูหัวกลม (Round Head) เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความปลอดภัย เพราะหัวจะไม่มีมุมแหลมคม
  • สกรูหัวแบน/สกรูหัวเตเปอร์ (Flat Head/Countersunk Head) หัวสกรูจะจมลงไปเสมอกับพื้นผิวของชิ้นงาน เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความสวยงามและความเรียบร้อยสูง
  • สกรูหัวหกเหลี่ยม (Hex Head) เหมาะสำหรับงานที่ต้องการแรงบิดสูงและใช้ประแจหกเหลี่ยมในการขันยึด
  1. เลือกวัสดุของสกรู

วัสดุของสกรูมีผลต่อความทนทานและการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน

  • เหล็กชุบซิงค์ (Zinc Coated) เป็นวัสดุที่นิยมใช้มากที่สุด มีความแข็งแรงดีและราคาถูก เหมาะสำหรับงานภายในอาคารที่ไม่ต้องเจอกับความชื้น
  • สเตนเลส (Stainless Steel) ทนทานต่อการกัดกร่อนและสนิมได้ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับงานภายนอก หรืองานที่ต้องเจอกับน้ำและความชื้นเป็นประจำ
  • เคลือบสีดำ (Black Oxide) ใช้งานทั่วไป สีสวย ไม่เด่น
  1. ตรวจสอบเครื่องมือที่ใช้ขัน
  • หากใช้สว่านไฟฟ้า ควรเลือกหัวสกรูที่เข้ากับดอกไขควง เช่น หัวแฉก, หัวหกเหลี่ยม
  • หากใช้มือขัน ควรเลือกขนาดที่ใช้งานง่าย ไม่ยาวเกินหรือเล็กเกิน

 

สกรูเกลียวปล่อยมีกี่ขนาด?

สกรูเกลียวปล่อยมีหลายขนาด เพื่อให้เหมาะกับงานและวัสดุที่แตกต่างกัน โดยสามารถแบ่งขนาดได้เป็น 2 ส่วนหลัก ๆ คือ

  1. ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง (Diameter)

หน่วยเป็น มิลลิเมตร (mm) หรือ เบอร์ (No.)

  • เส้นผ่านศูนย์กลาง 2.0 mm ขนาดเบอร์ #2 ใช้กับพลาสติกบาง, แผ่นบาง
  • เส้นผ่านศูนย์กลาง 2.5 mm ขนาดเบอร์ #3 ใช้กับงานเบา, กล่องไฟ
  • เส้นผ่านศูนย์กลาง 3.0 mm ขนาดเบอร์ #4 ใช้กับไม้เนื้ออ่อน
  • เส้นผ่านศูนย์กลาง 3.5 mm ขนาดเบอร์ #6 ใช้กับงานทั่วไปในบ้าน
  • เส้นผ่านศูนย์กลาง 4.0 mm ขนาดเบอร์ #8 ใช้กับยึดโครงไม้
  • เส้นผ่านศูนย์กลาง 4.5 mm ขนาดเบอร์ #9 ใช้กับงานก่อสร้างเบา
  • เส้นผ่านศูนย์กลาง 5.0 mm ขนาดเบอร์ #10 ใช้กับโครงเหล็กบาง
  • เส้นผ่านศูนย์กลาง 6.0 mm ขนาดเบอร์ #12 ใช้กับงานโครงสร้างหนัก
  • เส้นผ่านศูนย์กลาง  8.0 mm ขึ้นไป ขนาดเบอร์ #14+ ใช้กับงานอุตสาหกรรม
  1. ความยาวของสกรู (Length)

หน่วยเป็น มิลลิเมตร (mm) หรือ นิ้ว (inch)

  • เริ่มตั้งแต่ 6 mm / 1/4 นิ้ว จนถึง 100 mm / 4 นิ้ว หรือมากกว่านั้น
ความยาว (mm) เหมาะสำหรับ
10-20 mm แผ่นบาง, งานติดตั้งง่าย
25-40 mm งานไม้, พลาสติก
50-75 mm งานโครงสร้าง, ไม้หนา
100 mm ขึ้นไป งานก่อสร้างหนัก

ดังนั้น จึงไม่มีคำตอบที่ตายตัวว่าสกรูเกลียวปล่อยมีกี่ขนาด แต่จะขึ้นอยู่กับมาตรฐานการผลิตและจุดประสงค์การใช้งานของผู้ผลิตแต่ละราย ซึ่งมีขนาดให้เลือกใช้ที่หลากหลายมาก ๆ เพื่อให้ครอบคล้องกับความต้องการของทุกงาน

 

หากยังมีข้อสงสัยหรือยังสับสนเกี่ยวกับเรื่อง สกรูกับน็อตต่างกันยังไง ทีมงาน KACHA พร้อมให้คำแนะนำ!