ถุงขยะ เลือกอย่างไร? ให้เหมาะสมกับการใช้งาน

ถุงขยะ ที่อาจจะดูหน้าตาเหมือนกันไปหมด แถมฟังก์ชันการใช้งานก็ยังไม่ต่าง ดูแล้วไม่เห็นจะต้องมีขั้นตอนการเลือกใช้ให้วุ่นวายเลย แต่หากลองสังเกตรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ บางอย่างก็อาจทำให้การ เลือกถุงขยะ ในบ้านลงตัวมากขึ้นได้ ยิ่งถ้าหากใครกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนจากการใช้ถุงพลาสติกใส่ของ เป็นถุงใส่ขยะมาตลอด ลองมาเลือกถุงขยะ ในรูปแบบที่ถูกต้องสำหรับการใช้งานในบ้านไปพร้อม ๆ กับ KACHA ได้เลยจ้า

ถุงขยะ ทํามาจากอะไร?

ถุงขยะนั้น ผลิตจากพลาสติกชนิดรีไซเคิลได้ ได้แก่ HDPE (High-Density Polyethylene) พลาสติกเนื้อเหนียว น้ำหนักเบา ขนส่ง และจัดเก็บง่าย อีกทั้งยังช่วยป้องกันกลิ่น และน้ำได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับขยะทั่วไป ใช้ได้ทั้งในบ้าน และออฟฟิศ พลาสติกประเภท LDPE (Low-Density Polyethylene) มีคุณสมบัติคล้ายกันแต่มีความเหนียว ยืดหยุ่นได้ดี และทนกว่าพลาสติกชนิดแรก เหมาะสำหรับทิ้งขยะเปียก เช่น เศษอาหาร เปลือกไข่ เปลือกผลไม้ รวมไปถึงของมีคม และเม็ดพลาสติก PE (Polyethylene) ที่มีความเหนียว ทนทาน ป้องกันน้ำ และความชื้นได้ดี ใช้บรรจุของ หรือขยะทั่วไปได้ เนื่องจากถุงขยะทำมาจากวัสดุรีไซเคิล ทำให้มีสี และคุณสมบัติเปลี่ยนไปจากเดิม ถุงขยะส่วนใหญ่เลยถูกทำให้เป็นสีดำ เพื่อความสะดวกในการผลิต และใช้งานนั่นเอง

210927-Content-ถุงขยะเลือกอย่างไร-ให้เหมาะสมกับการใช้งาน02

วิธีเลือกถุงขยะ ทำได้อย่างไร?

  • เลือกตามขนาดการใช้งาน

วิธีซื้อถุงขยะ ควรเลือกถุงขยะ จากความหนา ขนาดถุงขยะ หากเป็นขยะทั่วไป เลือกถุงขยะ ที่มีความหนา 0.90 มิลลิเมตร ก็เพียงพอ แต่หากเป็นขยะในครัว เช่น เศษอาหาร ของหนัก หรือของมีคม ควรเลือกถุงขยะที่มีความหนา 1.5 มิลลิเมตร หรือระบุว่า “ขยะหนัก” ส่วนขนาดของถุงให้เทียบจากความจุของถังขยะ ดังนี้

  • ขนาด 18×20 นิ้ว เหมาะกับถังขยะ 10 ลิตร
  • ขนาด 22×30 นิ้ว เหมาะกับถังขยะ 30 ลิตร
  • ขนาด 24×28 นิ้ว เหมาะกับถังขยะ 40 ลิตร
  • ขนาด 26×30 นิ้ว เหมาะกับถังขยะ 40 ลิตร
  • ขนาด 28×36 นิ้ว เหมาะกับถังขยะ 50 ลิตร
  • ขนาด 30×40 นิ้ว เหมาะกับถังขยะ 60 ลิตร
  • ขนาด 36×45 นิ้ว เหมาะกับถังขยะ 120 ลิตร
  • ขนาด 40×60 นิ้ว เหมาะกับถังขยะ 200 ลิตร
  • ขนาด 45×60 นิ้ว เหมาะกับถังขยะ 240 ลิตร

ปกติถุงขยะทั่วไป จะมีสีดำ เพราะช่วยปกปิดขยะที่อยู่ด้านในได้ดี และดูเป็นระเบียบเมื่อนำไปทิ้ง ตอนนี้มีหลายสีให้เลือกใช้มากขึ้น เช่น สีเขียว สีฟ้า สีเหลือง สีแดง เพื่อความสะดวกในการคัดแยกขยะก่อนนำไปทิ้ง

  • ความหนาและความแข็งแรง

ความหนาของถุงขยะ โดยทั่วไปที่เหมาะกับการใส่เศษอาหาร หรือวัสดุตามบ้านเรือนจะอยู่ที่ 0.09 และ 0.07 มิลลิเมตร ซึ่งการเลือกดูจากฉลากที่ระบุอาจไม่ใช่ปัญหา แต่ยังมีรายละเอียดอื่น ๆ ที่ต้องคอยสังเกต อย่างสภาพของถุงและรอยซีลรอบ ๆ ที่ควรมีความเรียบร้อย ดูแข็งแรง ไม่มีรอยขาด เพื่อจะสามารถรับน้ำหนัก และยืดหยุ่นได้อย่างเหมาะสม ไม่มีการรั่วซึม ส่วนอีกข้อที่ต้องระวัง คือ การไม่ใส่ขยะมากเกินไป หรือนำไปใช้กับวัสดุที่มีน้ำมาก ซึ่งต่อให้ถุงขยะจะมีความแข็งแรงแค่ไหนก็คงรับน้ำหนักไม่ไหวได้เหมือนกัน

  • สีถุงขยะ

ถุงขยะส่วนใหญ่ มักจะเป็นสีดำ เป็นสีที่ช่วยบดบังขยะภายในถุงได้เป็นอย่างดี แถมถุงดำนั้น ยังผลิตมาจากวัสดุรีไซเคิลทีต้นทุนถูกกว่า ราคาไม่สูง จึงไม่แปลกเลยที่ถุงดำจะเป็นนิยม แต่นอกจากนี้ ก็ยังมีถุงขยะสีอื่น ๆ ซึ่งถุงขยะที่ใส่กลิ่นหอมเพิ่มเข้าไปก็อาจจะผลิตออกมาเป็นสีที่สอดคล้องกับกลิ่นนั้น ๆ นอกจากนี้ ถุงสีอื่น ๆ ก็ยังมีความหมายที่ต่างกันออกไปในด้านการคัดแยกขยะด้วย

210927-Content-ถุงขยะเลือกอย่างไร-ให้เหมาะสมกับการใช้งาน04
  • กลิ่นของถุงขยะ

ถุงขยะในท้องตลาดในปัจจุบัน ได้ผลิตถุงขยะที่เพิ่มกลิ่นหอมเข้าไปทำให้ช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ด้วย ซึ่งถ้าหากเป็นบริเวณที่ต้องการมีการรับแขก หรือเป็นวันพิเศษก็อาจเลือกใช้ถุงขยะประเภทนี้ได้ ส่วนใครที่ใช้ถุงดำก็ไม่ต้องน้อยใจไป เพราะการโรยเบกกิ้งโซดาใส่ไว้ก้นถุงก่อนจะทิ้งขยะลงไปก็สามารถช่วยดูดซับกลิ่นและความชื้นได้เหมือนกัน

  • วัสดุและวิธีมัดปากถุง

รายละเอียดเล็ก ๆ อีกจุดของถุงขยะ คือ การมัดปากถุง เพราะถุงขยะได้ถูกออกแบบมาให้มีการมัด หรือผูกปากถุงที่ต่างกันนออกไป บางรูปแบบอาจมีสายรูดร้อยมาให้ด้วยเลย บางแบบก็มีเชือกติดมาไว้ให้สำหรับมัดปากถุง หรือบางครั้งก็มีการออกแบบปากถุงมาให้มัดได้อย่างสะดวกโดยไม่ต้องใช้วัสดุอื่น ๆ เพิ่มเติม ทั้งนี้ การเลือกใช้งานแต่ละแบบก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกของสมาชิกในบ้าน และพื้นที่การวางหรือจัดการถุงขยะนั่นเอง

  • ราคา

ราคาของถุงขยะ ที่พอนำปัจจัยทุกอย่างมารวมกันแล้ว ควรมีราคาต่อถุงเฉลี่ยออกมาแล้วดูสมเหตุสมผล การเลือกถุงขยะที่มีคุณภาพดี เป็นเรื่องที่จำเป็น แต่หากคิดออกมาแล้วมีราคาเฉลี่ยที่สูงเกินไป อาจจะต้องกลับมาสำรวจข้ออื่น ๆ ตั้งแต่ ขนาด คุณภาพความแข็งแรง เรื่องของสี กลิ่น และวัสดุการมัดปากถุงที่เป็นเรื่องรองลงมา หรือระยะเวลาในการใช้ถุงแต่ละใบว่าคุ้มค่าแค่ไหน เพราะทุกอย่างควรอยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อการใช้งานในระยะยาวทั้งราคาและคุณภาพ

ประโยชน์ถุงขยะ เป็นอย่างไรบ้าง?

  1. ป้องกันถังขยะเปื้อน นอกจากนี้ยังไม่ต้องคอยทำความสะอาดถังขยะบ่อย ๆ ช่วยยืดอายุถังขยะให้ใช้ได้นาน อีกทั้งถุงขยะบางยี่ห้อยังมีกลิ่นหอมช่วยกลบกลิ่นไม่พึงประสงค์ พร้อมเชือกสำหรับมัดปากถุง ป้องกันแมลงมารบกวน และป้องกันไม่ให้ขยะปลิวออกมาอีกด้วย
  2. แยกขยะได้ง่ายขึ้น ตอนนี้ถุงขยะมีหลายสีมากขึ้น ถือว่าสะดวกมาก ๆ สำหรับการแยกขยะก่อนนำไปทิ้ง เช่น เศษอาหาร ขยะรีไซเคิล ขยะทั่วไป และขยะอันตราย หรือติดเชื้ออย่าง หน้ากากอนามัย ซึ่งตอนนี้กลายเป็นของจำเป็นที่ต้องใช้กันทุกวัน แถมยังสะดวกกับคนเก็บขยะด้วย
  3. มีหลายขนาดให้เลือก หากเป็นถุงพลาสติกทั่วไป อาจจะมีขนาดเล็ก หรือใหญ่เกินไป ไม่เหมาะกับขนาดถังขยะที่มีอยู่ แต่ถุงขยะออกแบบมาหลายขนาด เพื่อให้เหมาะกับถังขยะความจุต่าง ๆ ตั้งแต่ขนาดเล็ก ไปจนถึงขนาดใหญ่ อีกทั้งยังมีความหนาเหมาะสำหรับใส่ของหนัก หรือของมีคมอีกด้วย
  4. ใช้เก็บของป้องกันฝุ่นได้ เช่น เสื้อผ้า รองเท้า หรือของใช้ต่าง ๆ ที่ไม่ใช้ ก็สามารถนำมาเก็บไว้ในถุงขยะ เพื่อป้องกันฝุ่น และสิ่งสกปรกได้ แถมยังทำให้บ้านดูเป็นระเบียบมากขึ้น และยังสะดวก เมื่อต้องการจะเก็บของลงกระเป๋าสำหรับเดินทาง หรือย้ายบ้านด้วย
210927-Content-ถุงขยะเลือกอย่างไร-ให้เหมาะสมกับการใช้งาน05

จบไปแล้ว การเลือกถุงขยะ การเลือก ขนาดถุงขยะ ทำได้ไม่ยากเลยใช่ไหม? และรู้ไหมว่า ถุงขยะ ไม่ได้มีไว้ใส่ขยะอย่างเดียว แต่ยังสามารถนำไปใส่ของอื่น ๆ ได้ด้วย แต่ทั้งนี้ก่อนจะซื้อก็อย่าลืมเลือกขนาดถุงขยะให้เหมาะกับขนาดของถังและการใช้งาน แต่ถ้าจะให้ดีอย่าลืมแยกขยะก่อนนำไปทิ้งด้วย เพื่อการนำไปจัดการรีไซเคิล หรือทำลายำด้อย่างเหมาะสม และเพื่อสุขภาพแวดล้อมที่ดีของเราด้วยนั่นเอง

สามารถอ่านบทความ:

KACHA ผู้จัดจำหน่าย เครื่องมือช่างราคาถูก และอุปกรณ์เสริม สำหรับช่างมืออาชีพ ราคาที่คุณจับต้องได้ รับรองสินค้าคุณภาพ บริการหลังการขายที่ประทับใจอย่างแน่นอน!! ขอแนะนำ รถเข็นเครื่องมือช่าง ตัวช่วยดี ๆ เหมาะสำหรับ เก็บอุปกรณ์ช่าง อะไหล่ต่าง ๆ ทำให้ประหยัดพื้นที่ในการใช้สอย สะดวกต่อการจัดเก็บ และหยิบใช้งานง่าย