การสร้าง บ้านสำเร็จรูป ในปัจจุบันได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยความที่สามารถสร้างได้อย่างรวดเร็ว และสามารถอยู่อาศัยได้จริง ไม่แพ้การสร้างบ้านแบบธรรมดาทั่วไป เป็นอีกทางเลือกของผู้ที่อยากต่อเติมเรือนรับรองอีกหลังหนึ่ง สำหรับผู้ที่มีเนื้อที่บ้านเยอะ ๆ หรือนำไปทำเป็นรีสอร์ท เป็นที่นิยมเหมือนกัน
วันนี้ KACHA เราจะพาไปทำความรู้จักกับ “บ้านสำเร็จรูป หรือ บ้านน็อคดาวน์” พร้อมทั้งบอกถึงข้อดี-ข้อเสีย ให้พิจารณากันก่อนตัดสินใจ
“บ้านสำเร็จรูป” คืออะไร?
บ้านสำเร็จรูป (Finished Home) คือ บ้านที่นำชิ้นส่วนแต่ละส่วนของบ้าน มาประกอบปะติดปะต่อกันเป็นตัวบ้านที่สำเร็จแล้วมาตั้งแต่โรงงาน โดยจะใช้ผนังในการรับน้ำหนักตัวบ้านแทนเสา และคาน สามารถออกแบบสถาปัตยกรรมของบ้านได้ทุกรูปแบบ ไม่แพ้กับการสร้างบ้านแบบก่ออิฐฉาบปูนทั่วไป ส่วนใหญ่แล้ว บ้านจะมีขนาดเล็กกระทัดรัด สามารถเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้ ระยะเวลาการก่อสร้างก็รวดเร็ว ประมาณ 1 เดือนตัวบ้านก็ประกอบกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว และระยะเวลาติดตั้งบนที่ดินของเรา ไม่เกิน 3 วัน ก็สามารถขนของย้ายเข้าอยู่ได้เลย
บ้านสำเร็จรูปมีแบบไหนบ้าง?
บ้านสำเร็จรูปที่นิยมกันในตอนนี้ จะมี 2 แบบด้วยกัน “บ้านน็อคดาวน์” และ “บ้านจากตู้คอนเทนเนอร์”
ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดของบ้านสำเร็จรูป 2 แบบนี้ก็คือ วัสดุที่ใช้สร้างนั่นเอง ถ้าเป็นบ้านน็อคดาวน์ วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างส่วนใหญ่ จะเป็นเหล็ก หรือไม้ นำมาประกอบ ๆ กันเป็นรูปแบบบ้านแล้วแต่ดีไซน์ขึ้นมา แต่ถ้าหากเป็นบ้านจากตู้คอนเทนเนอร์ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าสร้างมาจากตู้คอนเทนเนอร์ ที่ใช้ขนส่งสินค้านั่นเอง ซึ่งก็จะมีรูปแบบเป็นห้องเหลี่ยม ๆ แบบทรงตู้คอนเทนเนอร์ แต่ก็มีความแข็งแรงมากทีเดียว อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันก็มีการพัฒนาการสไตล์บ้านตู้คอนเทนเนอร์ให้สวยงามขึ้นมาไม่แพ้แบบบ้านทั่วไปอยู่เหมือนกัน
บ้านสำเร็จรูป มีข้อดี-ข้อเสีย อย่างไรบ้าง?
อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างมีข้อดี-ข้อเสียของมัน แม้แต่บ้านสำเร็จรูป ถึงแม้ว่าเราอาจจะอยากได้ แต่ก็อาจจะมีปัจจัยที่ทำให้เราไม่เหมาะที่จะซื้อก็ได้ เรามาดูกันว่า บ้านสำเร็จรูปนี้เหมาะกับใคร และเราก็นำ ข้อดี-ข้อเสีย มาให้ดูกันเพื่อพิจารณาเพิ่มเติมว่า เราควรจะซื้อบ้านสำเร็จรูปดีไหม หรือจะสร้างบ้านแบบก่ออิฐ ฉาบปูนแบบทั่วไปดี
➤ บ้านสำเร็จรูปเหมาะกับใคร
- เหมาะกับผู้ที่มีที่ดินอยู่แล้ว เพราะตัวบ้านต้องนำไปวางไว้บนที่ดิน ๆ นึง โดยจะต้องมีการปรับหน้าดินไว้ก่อน และเพื่อความแข็งแรงมั่นคง ควรมีการลงเสาเข็มด้วย
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการความรวดเร็วในการเข้าอยู่อาศัย จากการสร้างบ้านแบบปกติที่ต้องใช้เวลา 6 เดือน บ้านน็อคดาวน์ อาจจะเหลือเพียงแค่ 1-2 เดือน
- เหมาะกับผู้ที่มีงบประมาณจำกัดตั้งแต่ 100,000-1,000,000 บาท บางเจ้าอาจจะราคาสูงกว่า 1 ล้านบาท แล้วแต่ฟังก์ชันการใช้งานของบ้าน
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการต่อเติมบ้านหลังเล็กในที่ดินของตัวเอง เช่น ทำเรือนรับรอง, ทำห้องนั่งเล่น เป็นต้น
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการทำธุรกิจรีสอร์ท สามารถใช้บ้านน็อคดาวน์เป็นที่พักให้เช่ารายวันได้ ซึ่งสมัยนี้ ก็นิยมทำกันเยอะเลยทีเดียว
- เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการต่อเติมบ้านเพิ่มเติมในอนาคต เพราะไม่สามารถทำได้กับบ้านสำเร็จรูป
- เหมาะกับผู้ที่มีจำนวนสมาชิกในครอบครัวน้อย เพราะบ้านสำเร็จรูปส่วนใหญ่มีขนาดเล็ก
ข้อดี-ข้อเสีย ของบ้านสำเร็จรูป
ข้อดีของบ้านสำเร็จรูป
|
ข้อเสียของบ้านสำเร็จรูป
|
บ้านสำเร็จรูป บ้านน็อกดาวน์นำไปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง?
ได้รู้กันไปแล้วถึงข้อดี-ข้อเสีย คราวนี้ ลองมาดูกันว่าสามารถนำบ้านประเภทนี้ ไปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง
- ใช้เป็นที่อยู่อาศัยชั่วคราว : เนื่องจากอายุการใช้งานมีตั้งแต่ 10-20 ปี นับได้ว่าเพียงพอสำหรับการอยู่อาศัยในช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่หากต้องการให้เป็นบ้านถาวรอาจไม่เหมาะเท่าไรนัก
- สร้างเป็นออฟฟิศ : บ้านแบบน็อกดาวน์ นอกจากจะใช้เป้นที่อยู่อาศัยได้แล้ว ยังเหมาะสำหรับการทำโฮมออฟฟิศอีกด้วย
- ใช้เปิดร้านค้า ร้านอาหาร และธุรกิจส่วนตัวต่าง ๆ : นอกจากใช้เป็นที่อยู่อาศัยแล้ว ยังสามารถดัดแปลงเป้นร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ หรือธุรกิจอื่น ๆ ที่เราต้องการได้อีกด้วย เนื่องจากสร้างเสร็จเร็วใช้งบไม่เยอะ จึงช่วยประหยัดต้นทุนการสร้างหน้าร้านได้เป็นอย่างดี
สุดท้ายนี้ หากคุณคือคนหนึ่งที่กำลังสนใจบ้านประเภทนี้ อย่าลืมพิจารณาข้อดี และข้อเสียอย่างละเอียด รวมถึงตรวจสอบประวัติของผู้รับเหมาให้ดี เพื่อความมั่นใจ ที่สำคัญต้องเข้าใจว่าเราต้องการบ้านสำเร็จรูป หรือบ้านน็อกดาวน์ไปเพื่ออะไร บ้านแบบนี้ ตอบโจทย์วัตถุประสงค์ของเราหรือเปล่า เพื่อให้เราตัดสินใจได้อย่างมั่นใจที่สุด ????
สามารถติดตามบทความต่าง ๆ ของ KACHA ได้ตามนี้เลย<<
▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾
ขอแนะนำสินค้าจาก KACHA
เลือกซื้อสินค้า รอกไฟฟ้า รอกยกของ ???? คลิกเลย รับรองสินค้าดี มีคุณภาพอย่างแน่นอน