How to กำจัดมด ไล่มดให้อยู่หมัดอย่างถาวร ทำได้อย่างไร?

ขึ้นชื่อว่า “มด” ทุกคนคงนึกถึงเจ้าสัตว์ตัวจิ๋วที่มาเป็นฝูง ชอบกิน และขนอาหารของคนกลับไปรัง มันไม่เพียงรบกวนการอยู่อาศัยของเราเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับเชื้อโรคที่ติดตามแขน ขา และลำตัว และแพร่ลงสู่บริเวณที่มันเดินผ่าน

โดยเฉพาะตามอาหาร โต๊ะอาหาร และบริเวณในครัว ด้วยเหตุนี้ วิธีกำจัดมด และ วิธีไล่มด ออกจากบ้านจึงควรเป็นแบบธรรมชาติ และควรรู้วิธีไล่มดไม่ให้เข้ามาในบ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้มีเชื้อโรคปนเปื้อนกับอาหารที่เรากิน จะมีอะไรบ้าง ตาม KACHA ไปดูกันดีกว่า

211124-Content-วิธีกําจัดมดให้อยู่หมัดอย่างถาวรทำได้อย่างไร02

มด ถือเป็นแมลงที่มีประสาทสัมผัสต่อเรื่องอาหารไวมาก ไม่ว่าคุณแม่บ้านจะวางอาหารคาวหรือหวานไว้ตรงไหน เจ้าตัวจ้อยเหล่านี้ จะจู่โจมเข้ามาทันทีแบบไม่ให้คุณตั้งตัว ครั้นอยากฆ่าให้ตายอย่างไรก็ฆ่าไม่หมด เพราะอย่างไรมันก็จะมาก่อตัวใหม่อยู่ดี ครั้นจะใช้สารเคมีในการช่วยกำจัด ก็เสียสุขภาพร่างกายโดยใช่เหตุ

มดขึ้นบ้าน สาเหตุมาจากอะไร?

เกือบ 100% ของสาเหตุที่ทำให้มดขึ้นบ้านนั้น มีที่มาจากแหล่งอาหาร ซึ่งก็มาจากพฤติกรรมการรับประทานอาหารของสมาชิกในบ้าน ที่อาจมีการหกเลอะเทอะ หรือวางอาหารทิ้งไว้โดยไม่ได้ป้องกัน รวมถึงการทิ้งขยะอาหารที่รับประทานไม่หมด โดยไม่ได้ปิดถังขยะไว้ให้มิดชิด

211124-Content-วิธีกําจัดมดให้อยู่หมัดอย่างถาวรทำได้อย่างไร03

นอกจากนี้ หากบริเวณผนังบ้านมีรอยแตกร้าว มีรู หรือช่องโหว่ที่มดจะใช้เป็นเส้นทางลำเลียงอาหาร หรือสร้างรังขนาดใหญ่อยู่ในนั้นได้ ก็อาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้มดขึ้นบ้านได้เช่นกัน

วิธีกำจัดมด วิธีไล่มด ในบ้านอย่างง่าย ๆ ไม่ต้องฆ่า

การรับมือปัญหาเรื่องมดนั้น มีอยู่หลากหลายวิธี ทั้งวิธีเด็ดขาดแบบการใช้สารเคมี หรือใช้บริการจากบริษัทกำจัดมดและแมลง และวิธีกำจัดมดแบบธรรมชาติ ที่อาศัยของใช้ใกล้ ๆ ตัวที่หาได้ง่ายภายในบ้าน ซึ่งเป็น วิธีกำจัดมด ที่ไม่เน้นการฆ่า แต่เน้นผลลัพธ์ในการขับไล่ให้หมดไปจากบ้าน มีดังนี้

วิธีกำจัดมดในบ้าน

211124-Content-วิธีกําจัดมดให้อยู่หมัดอย่างถาวรทำได้อย่างไร04
  • รักษาความสะอาดภายในบ้าน โดยหมั่นทำความสะอาด ไม่ให้มีเศษอาหารตกหล่นภายในบ้าน หลังรับประทานอาหารอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เป็นสาเหตุให้มดเข้ามาปักหลักอาศัยอยู่ภายในบ้าน
  • การกำจัดกลิ่นมด โดยธรรมชาติของมด เมื่อเดินผ่านบริเวณใดก็จะปล่อยน้ำเคมีที่มีกลิ่นทิ้งไว้ เพื่อใช้ติดตามเส้นทางที่เคยเดินผ่านมาได้ การกำจัดกลิ่นมด จึงจำเป็นต้องทำเมื่อสังเกตุเห็นร่องรอยของมด โดยสามารถนำน้ำสบู่ หรือน้ำมะนาวมาผสมน้ำ แล้วใช้เช็ดตามบริเวณเส้นทางเดินของมดที่พบเจอบ่อย ๆ
  • หนังยางไล่มดได้ หากต้องการวางอาหารทิ้งไว้ การนำหนังยางหลาย ๆ เส้นมารัดรอบ ๆ ภาชนะใส่อาหาร หรือการนำหนังยางจำนวนมากใส่ในภาชนะ ก่อนจะวางภาชนะที่ใส่อาหารลงในนั้นอีกที กลิ่นของหนังยางที่มดไม่ชอบ จะช่วยป้องกันไม่ให้มดขึ้นอาหารได้
  • ใช้น้ำก๊อกไล่มด วิธีกำจัดมดในบ้านง่าย ๆ อีกวิธีหนึ่ง นอกเหนือจากการใช้หนังยาง คือ การนำน้ำก๊อกใส่ภาชนะ ก่อนจะวางภาชนะใส่อาหารลงไปอีกครั้ง แม้ว่าจะมีกลิ่นอาหารเล็ดลอดออกมาบ้างแต่กองทัพมด จะไม่มาเยือนแน่นอน ข้อควรระวัง คือ ให้ใช้น้ำก๊อกธรรมดา ไม่ใช้น้ำต้ม เพราะหากใช้น้ำที่ผ่านการต้มมามดก็จะมาเยือนและลงน้ำได้
  • แต่งบ้านด้วยกลิ่นไล่มด กลิ่นหอมบางชนิดอย่าง กลิ่นมะนาว กลิ่นเปลือกส้ม กลิ่นน้ำมันซินนามอน (Cinnamon) หรือกลิ่นน้ำมันยูคาลิปตัสนั้น เป็นกลิ่นที่มดไม่ชอบ ดังนั้นการนำสเปรย์กลิ่นเหล่านี้ มาฉีดบริเวณถังขยะที่ใช้ทิ้งเศษอาหาร หรือฉีดตามทางเดินเข้าออกของมดสัปดาห์ละครั้ง ก็จะช่วยป้องกันมดได้ดี หรือสามารถนำเปลือกมะนาว เปลือกส้ม เปลือกซินนามอนมาวางในถ้วยแก้วสวย ๆ ก็สามารถใช้เป็นของตกแต่งบ้านที่มีคุณสมบัติช่วยไล่มดในบ้านได้ดี

วิธีกำจัดมดในห้องนอน

หากมีปัญหาเรื่องมดในห้องนอน แนะนำให้ใช้ วิธีกำจัดมดในห้องนอน แบบธรรมชาติ ไม่ใช้สารเคมี เพราะสารเคมีอาจตกค้างอยู่ภายในห้องนอน และก่อให้เกิดอันตรายต่อสมาชิกภายในบ้าน

211124-Content-วิธีกําจัดมดให้อยู่หมัดอย่างถาวรทำได้อย่างไร05
  • ทำความสะอาดห้องนอนอย่างสม่ำเสมอ การทำความสะอาดห้องนอนอย่างน้อยวันละครั้ง จะช่วยป้องกันปัญหามด และแมลงรบกวน รวมทั้งป้องกันฝุ่นละอองต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ด้วย
  • ทำความสะอาดชุดเครื่องนอน ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม เมื่อมีการใช้งานไปนาน ๆ จะมีตัวไร มด หรือแมลงต่าง ๆ มาอาศัยอยู่ ดังนั้น การทำความสะอาดชุดเครื่องนอนอาทิตย์ละ 1 ครั้ง จะช่วยทำให้มั่นใจได้ว่าปลอดภัยจากตัวไร มด และแมลงต่าง ๆ
  • ตรวจสอบและทำความสะอาดเตียงนอน เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีมด หรือแมลงแอบมาทำรังไว้ แต่หากพบให้รีบกำจัดโดยการปัด กวาด เช็ด ถู ไม่ให้มด หรือแมลงกลับมาทำรังที่เดิมอีก รวมทั้งเลื่อนเตียงให้ห่างจากผนังเล็กน้อย เพื่อป้องกันไม่ให้มดไต่มาถึงเตียงนอนได้โดยง่าย
  • ไม่นำอาหารมารับประทานบนที่นอน หากจำเป็นต้องนำอาหารไว้ในห้องนอน ก็ควรจำกัดพื้นที่สำหรับรับประทานอาหารให้เรียบร้อย ไม่ให้เข้าถึงน้ำ และอาหารภายในห้องได้
  • ใช้น้ำมันซินนามอนหรืออบเชย กลิ่นหอมของซินนามอน นอกจากจะช่วยให้ความรู้สึกผ่อนคลายยามพักผ่อนแล้ว หากนำซินนามอนไปวางไว้ตามซอกมุมประตู และตามทางเดินของมด หรือการนำน้ำมันซินนามอน 1 ช้อนชา ผสมน้ำ 1 ถ้วย มาทาบริเวณที่มดเดินผ่านก็ช่วยไล่มดได้เป็นอย่างดี
  • ใช้พิมเสนวางในห้องนอน กลิ่นฉุน ๆ ของพิมเสนเป็นกลิ่นที่มดไม่ชอบ ดังนั้น การวางพิมเสนไว้ตามจุดต่าง ๆ ในห้องนอนจะช่วยกำจัดทั้งมดและแมลงรบกวนได้
  • ใช้เกลือโรยตามเส้นทางเดินมด มดกับเกลือเป็นอะไรที่ไม่ถูกกันมาก ๆ ดังนั้น การนำเกลือมาโรยไว้ตามเส้นทางเกินของมด จึงเป็นวิธีง่าย ๆ ที่จะทำให้มดไม่เข้าใกล้ และเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น
  • ใช้เจลป้องกันมด การนำเจลป้องกันมดมาทาบริเวณขาเตียง จะช่วยป้องกันปัญหามดขึ้นที่นอนได้ดี โดยการทาเจลควรทาให้สูงจากพื้นขึ้นมา ไม่ทาตรงจุดที่ใกล้พื้นเกินไปเพราะเป็นส่วนที่ฝุ่นจับได้ง่าย ประสิทธิภาพ และระยะเวลาในการป้องกันมดจะลดลงได้
  • ย้ายตำแหน่งที่นอนใหม่ หากที่นอนอยู่ในตำแหน่งใกล้รังมด โอกาสเจอมดในห้องนอน และขึ้นมาอาศัยอยู่บนที่นอนจะสูงมาก ดังนั้น การย้ายตำแหน่งของที่นอนใหม่ จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดปัญหามดขึ้นที่นอนได้ในระดับหนึ่ง

วิธีกำจัดมดในตู้เสื้อผ้า

211124-Content-วิธีกําจัดมดให้อยู่หมัดอย่างถาวรทำได้อย่างไร06
  • ซักเสื้อผ้าใหม่ก่อนเก็บเข้าตู้ การซักเสื้อผ้าใหม่ด้วยผงซักฟอก และน้ำยาปรับผ้านุ่มในน้ำสุดท้าย จะช่วยลดกลิ่นเส้นใยจากเนื้อผ้าประเภทผ้าฝ้าย ที่เป็นที่ชื่นชอบของมด และแมลงกินผ้า
  • ใช้ผักกลิ่นฉุน หนึ่งในวิธีกำจัดมดในตู้เสื้อผ้าที่ได้ผล คือ การนำผักที่มีกลิ่นฉุนอย่างผักชี ขึ้นฉ่าย หรือผักอื่น ๆ ที่ค่อนข้างฉุนมาไว้ในมุมตู้เสื้อผ้า
  • ใช้ไม้ซีดาร์ สำหรับใครที่ไม่อยากให้มีกลิ่นฉุนในตู้เสื้อผ้า สามารถใช้ไม้ซีดาร์ ซึ่งเป็นไม้ที่เนื้อไม้มีคุณสมบัติมีกลิ่นไล่มด และแมลงได้มาใส่ไว้ในตู้เสื้อผ้าได้
  • ใช้ถุงหอมกลิ่นธรรมชาติ ถุงหอมที่บรรจุผิวมะกรูดแห้ง เปลือกส้มแห้ง หรือลาเวนดเอร์แห้ง นอกจากจะช่วยป้องกันพวกมดได้ดีแล้ว ยังช่วยทำให้เสื้อผ้าในตู้มีกลิ่นหอมด้วย

วิธีกำจัดมดในสวน

211124-Content-วิธีกําจัดมดให้อยู่หมัดอย่างถาวรทำได้อย่างไร07

มด หลายชนิดนั้นมักจะทำรังอยู่ภายในสวน ตามต้นไม้ หรือในสนามหญ้า ซึ่งนอกจากจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำลายให้ต้นไม้เน่าเสียแล้ว ยังทำให้มีปัญหาเรื่องเพลี้ยตามมา จึงต้องใช้ วิธีกำจัดมดในสวน ให้อยู่หมัดไม่ลุกลาม

  • ใช้กากกาแฟ การนำกากกาแฟมาโรยตามโคนต้นไม้ นอกจากจะช่วยกำจัดทั้งมด และแมลงต่าง ๆ ให้อพยพหนีไปแล้ว ยังช่วยบำรุงต้นไม้ดอกไม้ให้เจริญเติบโตดีขึ้นด้วย
  • ใช้สเปรย์เปเปอร์มินต์ โดยสามารถทำเองได้ ด้วยการผสมน้ำมันเปเปอร์มินต์ 30 หยด ต่อน้ำ 1 แกลลอน แล้วนำไปพ่นบริเวณรังมด และตามเส้นทางเดินของมด
  • สกัดเส้นทางเดินของมด โดยการนำสิ่งที่มดไม่ชอบ เช่น พริกไทยดำ ชอล์ก ปิโตรเลียมเจลลี่ มาโรยไว้จามเส้นทางที่มดเดิน รวมทั้งตัดทางเดินอื่น ๆ ที่มดจะสามารถใช้เดินเข้าถึงรังอย่างตามสายไฟ หรือกิ่งก้านของต้นไม้ต้นอื่นที่พาดมายังต้นไม้ที่มีรังมดด้วย

ป้องกันมดกลับเข้าบ้านอย่างไร? หลังใช้วิธีกำจัดมด

หลังจากใช้วิธีกำจัดมด ตามจุดต่าง ๆ จนมั่นใจว่ามดหมดไปจากบ้านแล้ว การป้องกันไม่ให้หมดกลับมา ถือเป็นขั้นตอนสำคัญลำดับต่อไปที่ต้องให้ความสำคัญ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหามดบุกบ้านซ้ำซาก โดยวิธีป้องกันในเบื้องต้น มีดังนี้

  • ทำความสะอาดบ้านอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในบริเวณห้องครัว ไม่ว่าจะเป็นหลังการทำอาหาร หรือหลังรับประทานอาหาร ก็ควรใช้ฟองน้ำ หรือผ้าชุบน้ำหมาด ๆ แล้วเช็ดทำความสะอาดคราบอาหาร หรือเศษอาหารทันที เพื่อป้องกันไม่ให้มดตามกลิ่นอาหารมา รวมทั้งไม่ทิ้งอาหารไว้ในภาชนะโดยไม่ป้องกันด้วย
  • ปิดทางเข้า-ออกของมด หากลองสังเกตุแล้วพบว่ามดใช้เส้นทางเดินไหนในการเข้า-ออกจากบ้าน ให้ลองหายางซิลิโคน เทปกาว หรือพลาสเตอร์มาปิดรูที่มดใช้เดินเข้า-ออกให้สนิท แต่ทั้งนี้ ให้ลองสังเกตุดูเรื่อย ๆ เพราะวัสดุที่ใช้ปิดทับอาจมีการเสื่อมสภาพ หรือหลุดออกได้ จึงต้องคอยตรวจสอบอยู่เสมอ แต่หากต้องการให้คงทนถาวรก็สามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อุดรอยรั่วซึมและรอยแตกร้าวอย่างโพลียูรีเทนได้

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ วิธีกำจัดมด วิธีไล่มด ถือเป็นความรู้คู่บ้านอย่างหนึ่งที่ทุกคนควรรู้ เพราะมดเป็นสัตว์ตัวเล็ก ๆ ที่พบเห็นได้ทั่วไปทั้งภายในบ้าน และตามสวนต่าง ๆ ภายนอกบ้าน ซึ่งมดตัวเล็ก ๆ เหล่านี้ ไม่เพียงแต่รบกวนการอยู่อาศัยเท่านั้น แต่มดยังมีเชื้อโรคที่ติดอยู่ตามตัว พร้อมแพร่ลงสู่ทุกบริเวณที่มันเดินผ่าน ซึ่งมดตัวเล็ก ๆ อาจเพียงแค่สร้างความเดือดร้อนรำคาญเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่หากเจอมดสายพันธุ์ใหญ่อย่างมดพันธุ์ที่ทำลายไม้ ก็อาจทำให้บ้านเรือนเสียหาย และอาจทำอันตรายกับคนในบ้านได้อีกด้วย

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: