รวมไอเดียแก้ปัญหา พื้นลื่น ในห้องน้ำ ทำได้อย่างไร?

ลื่นล้มในห้องน้ำ หนึ่งอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเป็นอันดับต้น ๆ ของบ้าน ที่สร้างความสูญเสียมาแล้วหลายกรณีห้องน้ำ เป็นโซนที่อันตรายที่สุดจุดหนึ่งของบ้าน ที่ต้องเจอความเปียกชื้นตลอดเวลา หากปล่อยให้พื้นห้องน้ำมีน้ำขัง หรือลื่นจะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ ซึ่ง “พื้นลื่น” ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลย ที่สำคัญ คือ ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกในบ้านวัยไหน ผู้สูงวัย เด็ก หรือวัยทำงาน ไม่ว่าใครก็มีโอกาสเจ็บหรือเสียชีวิตได้ทั้งนั้น ทางที่ดี คือ การป้องกันเอาไว้ดีกว่าแก้ไขทีหลัง ซึ่งความเสียหายมีมากกว่าการลงทุนดูแลบ้านให้มีความปลอดภัยแน่นอน

บทความนี้ KACHA มีวิธีแก้ปัญหา พื้นห้องน้ำลื่น มาแบ่งปันกัน ให้ทุกบ้านอยู่ได้อย่างปลอดภัย จะมีอะไรบ้าง ไปดูเลย

พื้นห้องน้ำลื่น แก้ไขได้อย่างไร?

พื้นลื่น เพราะพึ่งปรับปรุงห้องน้ำ และเปลี่ยนกระเบื้องใหม่ แต่กระเบื้องปูพื้นที่เปลี่ยนมา เมื่อถูกน้ำก็ยังลื่นอยู่ดี กลัวเกิดอุบัติเหตุกับเด็ก และผู้สูงวัย จะแก้ไขอย่างไรดี เพราะไม่อยากเสียเงินเปลี่ยนกระเบื้องใหม่อีก ปัญหา พื้นห้องน้ำลื่น นี้เราสามารถแก้ไขได้ เพราะพื้นผิวที่มีความมันเงา หรือบริเวณที่เปียกชื้น ย่อมมีความเสี่ยงสูงที่ก่อให้เกิดการลื่นล้มได้ง่าย โดยเฉพาะพื้นห้องน้ำ ซึ่งเป็นสถานที่ต้องเปียกน้ำอยู่เสมอ ๆ การแก้ไขมีหลายวิธี ดังนี้

• แยกพื้นที่ โซนแห้ง-เปียก

หลายคนคิดว่า การแยกโซนพื้นที่ใช้งานในห้องน้ำไม่สำคัญ ห้องน้ำเปียกได้ก็แห้งได้ ซึ่งเป็นความคิดที่ผิด เพราะความลื่นสัมพันธ์กับน้ำ หรือความชื้น ยิ่งในฤดูฝนน้ำแห้งช้า ถ้าในบ้านที่มีสมาชิกหลายคน อาจจะใช้งานเกือบทั้งวันจนแทบไม่มีเวลาแห้ง ดังนั้น การทำพื้นให้แห้งอยู่เสมอ จึงสำคัญและควรมีตัวช่วย หากมีพื้นที่ค่อนข้างมาก และพอมีงบประมาณควรแยกโซนเปียก-แห้งออกจากกัน

อ่านบทความ: ห้องน้ำแยกโซนเปียก-แห้ง ปลอดภัย สวยงาม เป็นสัดส่วน ทำได้อย่างไร?

หลาย ๆ บ้านนิยมทำพื้นโซนเปียก หรือโซนอาบน้ำ ต่ำกว่าโซนอื่น ๆ หรือก่อพื้นกั้นแบ่ง ซึ่งทำให้น้ำไหลลงท่อระบายได้เร็ว แต่วิธีนี้ไม่เหมาะกับผู้สูงอายุและเด็ก เพราะอาจจะสะดุดหรือเหยียบพลาดได้ ในบ้านที่มีสมาชิก 2 วัยนี้ จึงควรออกแบบพื้นห้องน้ำให้อยู่ระดับเดียวกัน แต่จัดให้โซนเปียกอยู่ด้านในสุด และทำพื้นที่ มีองศาลาดเอียงไปทางท่อระบายน้ำเล็กน้อย หรือติดราวใส่ผ้าม่านไวนิลกันน้ำได้ ก่อผนังเตี้ย ๆ กั้นระหว่างโซนอาบน้ำ กับโซนแห้ง อีกวิธีหนึ่ง คือ ติดผนังกระจกนิรภัย ซึ่งจะมีราคาแพง

ในปัจจุบัน ก็ยังมีตัวเลือกอื่น ๆ ในการแยกพื้นที่อาบน้ำกับส่วนอื่น ๆ เช่น ฉากกั้นอาบน้ำแบบราวแขวน 90 องศา ผลิตจากวัสดุราคาไม่แพงให้เลือกใช้ นอกจากนี้  ควรจะใส่ช่องแสงช่องลมขนาดใหญ่ ใส่ประตูบานเกล็ด เพื่อให้มีอากาศถ่ายเท ลดความชื้นในห้องน้ำได้ดียิ่งขึ้นด้วย

• ติดราวจับบริเวณทางเดิน และด้านข้างสุขภัณฑ์

อย่าคิดว่าราวจะเหมาะกับเด็ก และผู้สูงวัยเท่านั้น แม้บ้านเราจะไม่มีคนในช่วงวัยนี้อยู่ก็ไม่ควรประมาท เผื่อจำเป็นต้องใช้ทางที่ดี จึงควรออกแบบให้มีราวจับพยุงตัวไปยังจุดที่ติดตั้งสุขภัณฑ์ เพื่อความปลอดภัยในทุกย่างก้าว เลือกราวที่มีคุณสมบัติกันลื่น รับน้ำหนักได้มาก สามารถปรับแต่งการติดตั้งได้หลายรูปแบบ ซึ่งสามารถหาซื้อได้ง่าย ๆ ตามห้างร้านสุขภัณฑ์ชั้นนำทั่วไป

• ปูกระเบื้องผิวหยาบสำหรับใช้ในห้องน้ำ

กระเบื้องปูพื้นบ้านนั้น มีหลายประเภท แล้วแต่ลักษณะการใช้งาน ทั้งกระเบื้องกรุผนัง กระเบื้องปูพื้นห้อง กระเบื้องปูพื้นห้องน้ำ ต้องเลือกให้ถูกต้อง สำหรับกระเบื้องแบบใช้ในห้องน้ำ ควรมีผิวสัมผัสที่ฝืด มีลายนูนชัดเจน ตอนเลือกซื้อให้สังเกตง่าย ๆ โดยการใช้นิ้วสัมผัส หากรู้สึกฝืด ๆ นิ้วก็สามารถใช้งานได้ หรือหากต้องการให้มั่นใจที่สุด ต้องมองหากระเบื้องที่บอกค่ากันความลื่นไว้ (Slip Resistance) ควรมีค่ากันลื่นที่ R 10 ขึ้นไป ห้ามใช้กระเบื้องปูพื้นบ้าน หรือผนังมาปูพื้นห้องน้ำ เพราะพื้นผิวที่เรียบมัน เมื่อเปียกน้ำแล้วจะเกิดความลื่น เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุในห้องน้ำบ่อย ๆ

อ่านบทความ: กระเบื้องปูพื้น กระเบื้องผนัง ใช้แทนกันได้ไหม?

• ผลิตภัณฑ์เพิ่มความหยาบให้พื้นผิว

กรณีปูกระเบื้องไปแล้ว รู้สึกว่าพื้นยังลื่นอยู่ ลองใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันแก้ไขพื้นลื่นก็เป็นตัวเลือกที่ดี ไม่ยุ่งยาก ที่สำคัญยังสามารถใช้ได้หลายพื้นผิว และทุกที่ แม้พื้นที่กว้างก็ไม่มีปัญหา เช่น น้ำยากันพื้นลื่น หรือสีกันพื้นลื่น

• น้ำยากันพื้นลื่น Anti Slip Coating Products สำหรับผลิตภัณฑ์น้ำยากันพื้นลื่นนั้น มีหลักการทำงานง่าย ๆ คือ จะเป็นเหมือนฟิล์มไปเคลือบตัวกระเบื้องไว้ สร้างความหนืดให้กับวัสดุปูพื้น ไม่ว่าจะเป็นเรซิ่นสังเคราะห์ เซรามิค เหล็ก ไม้ หรือพื้นกระเบื้องห้องน้ำ เมื่อน้ำยากันลื่นมันยึดเกาะกับพื้นแล้ว สามารถใช้น้ำยาล้างห้องน้ำ และแปรงขัดห้องน้ำได้ตามปกติ แต่จะไม่ทนต่อสิ่งมีคม เช่น มีด หรือแปรงทองเหลือง ซึ่งจะไปขูดน้ำยาให้หลุดออกมาเร็วขึ้น ปัจจุบัน มีการพัฒนาน้ำยาเคลือบกันลื่นให้ทนทานมากขึ้น และบางยี่ห้อ ยังมีคุณสมบัติในการกำจัดเชื้อแบคทีเรียได้ด้วย
• ทากันพื้นลื่น Anti-Slip Floor Paint หลายคนอาจจะไม่คุ้นกับสีที่ทากันลื่นได้ เพราะมักจะใช้ในบริเวณใหญ่ ๆ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม ตลาด ริมสระน้ำ เป็นต้น สีชนิดนี้มีส่วนผสมของโพลียูรีเทน ให้ผิวสัมผัสหยาบจึงลดการลื่นอย่างเห็นผล ใช้งานง่ายไม่ต้องใช้ช่าง และมีอายุการใช้งานยาวนาน สามารถทาได้บนทุกพื้นผิว เช่น กระจก กระเบื้องขัดมัน ไม้ เหล็ก พลาสติก ท่อ PVC อลูมิเนียม พื้นถนนคอนกรีต ไม้เทียมทุกชนิด เป็นต้น ใช้ทาได้ทั้งภายใน และภายนอก ทั้งนี้หากใช้ในห้องน้ำควรเลือกใช้ยี่ห้อส่วนผสมจากยางธรรมชาติ จะให้ความนุ่มนวล ไม่หยาบจนบาดผิว และใช้ทาเฉพาะจุดเสี่ยง

สำหรับใครที่งบประมาณน้อย ๆ หรือจะเลือกใช้วิธี D.I.Y ง่าย ๆ ด้วยการทาน้ำยารองพื้นปูนบนกระเบื้องทีละส่วน จากนั้น ก็โรยพื้นกระเบื้องด้วยทรายทะเลที่เป็นเม็ดละเอียด เป็นเทคนิคและวิธีจัดการกับพื้นลื่น ๆ ในห้องน้ำที่ใช้งบประมาณที่ต่ำมาก แต่ต้องระวังกับผิวเด็ก เพราะทรายมีความคมพอสมควร

• รองพื้นห้องด้วยแผ่นรองกันลื่น

แผ่นกันลื่นในบ้าน มีให้เลือกมามายหลายยี่ห้อหลายรุ่น ผลิตจากวัสดุที่หลากหลาย เช่น พลาสติก ไม้ ยาง PVC แต่หลัก ๆ ควรเลือกรุ่นที่มีความหนืดติดกับพื้น ผิวสัมผัสนุ่มเท้าไม่บาดผิว ที่สำคัญ คือ ต้องมีช่องทางระบายน้ำได้ดี เพื่อไม่ให้น้ำขังตามซอกของแผ่น มีน้ำหนักไม่เบามากเกินไป เพราะแผ่นอาจจะไม่มีแรงยึดพื้นมากพอแล้วเคลื่อนไถลไปตามแรงเหยียบได้ ดังนั้น เพื่อความมั่นใจในการใช้งาน ควรหาภาชนะ หรือสิ่งของมาวางทับตามมุม เพื่อไม่ให้เคลื่อน และไม่ควรปูพื้นด้วยแผ่นรองกันลื่นแผ่นใหญ่แผ่นเดียวที่มีขนาดใหญ่ และน้ำหนักมากเกินไป เพื่อให้สามารถยกขึ้น ฉีดล้างทำความสะอาดด้านหลังได้ ทั้งนี้ควรขัด หรือยกมาฉีดล้างทำความสะอาด อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง แล้วนำมาตากผึ่งให้แห้ง เพื่อขจัดคราบ และความชื้น สาเหตุของการเกิดเชื้อรา และสิ่งหมักหมมได้

• เทปกันลื่น สำหรับห้องน้ำ

นอกจากแผ่นกันลื่น ซึ่งเป็นแผ่นขนาดใหญ่ ยังมีทางเลือกอื่น ๆ ให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมอย่าง เทปกันลื่น (Anti-Slip Tape) ซึ่งออกแบบมาให้ใช้งานได้อเนกประสงค์ จะติดบริเวณจมูกบันได หรือพื้นเปียกก็ได้ เพราะมีคุณสมบัติกันน้ำ ผิวสัมผัสมีความหยาบ แต่อ่อนนุ่มไม่บาดผิวหนัง สติ๊กเกอร์เหนียวติดทนทาน สามารถตัดใช้เฉพาะจุดได้ เช่น บริเวณอ่างอาบน้ำ จุดที่ติดตั้งอาบน้ำฝักบัว ทางเข้าห้องน้ำ ซึ่งเป็นจุดเสี่ยง โดยไม่จำเป็นต้องแปะเต็มพื้นที่ เทปกันลื่น มีให้เลือกทั้งแบบสี และแบบใส จึงใช้ติดในห้องน้ำสวย ๆ ได้แบบไม่ทำให้ภาพรวมดูเปลี่ยนไป และยังมีรุ่นที่เป็นแบบสะท้อนแสง ทำให้มองเห็นชัดในเวลากลางคืน

• หมั่นทำความสะอาดพื้น และปล่อยให้แห้งเสมอ

หลังการใช้งาน ควรขัดห้องน้ำส่วนที่เปียกทุกครั้ง เพื่อป้องกันคราบสะสม ที่จะทำให้พื้นลื่นได้ ในเวลาที่ไม่ได้ใช้งาน ควรเปิดประตูหรือหน้าต่างไว้ เพื่อให้ความชื้นระเหยได้ดี หมั่นเช็คการระบายน้ำในห้องน้ำ และดูแลระบบท่อให้ดีไม่มีน้ำขัง

• ใส่รองเท้าเข้าห้องน้ำเสมอ

ไม่ควรเดินเข้าห้องน้ำด้วยเท้าเปล่า เพราะนอกจากอาจจะลื่นได้แล้ว ยังเสี่ยงต่อการสัมผัสเชื้อแบคทีเรียบนพื้นด้วย ลองเปลี่ยนมาใช้รองเท้า ที่พื้นมีความหนืด หรือเป็นพื้นยางที่เดินสบายไม่ลื่น ซึ่งจะดีกว่าการเดินเข้าห้องน้ำด้วยเท้าเปล่า

เป็นอย่างไรกันบ้านกับวิธีแก้ปัญหา แต่ละวิธีก็ทำได้ไม่ยากเลยใช่ไหม ทั้งนี้ อย่าลืมว่าทุกครั้งที่เข้าห้องน้ำต้องเดินอย่างระมัดระวัง ติดไฟฟ้าส่องสว่างให้เพียงพอต่อการมองเห็น เพราะหากรีบเร่งเกินไป ก็อาจจะมองไม่เห็นร่องรอยน้ำที่อาจจะขังตามจุดต่าง ๆ เท่านี้ก็ทำให้ห้องน้ำของบ้านเราปลอดภัยหายห่วงเรื่องลื่น ๆ

>>สามารถติดตามบทความต่าง ๆ ของ KACHA ได้ตามนี้เลย<<