พัดลมอุตสาหกรรม ที่ใช้ในโรงงาน คืออะไร? ใช้พัดลมธรรมดาแทนได้ไหม?

พัดลมอุตสาหกรรม ตัวช่วยระบายความร้อนภายในโรงงาน มีขนาดใหญ่และสร้างแรงลมได้มากกว่าพัดลมธรรมดาหลายเท่า

 พัดลมโรงงานคืออะไร? แต่ละประเภทใช้งานแบบไหน? สามารถใช้พัดลมธรรมดาแทนได้หรือไม่? ตาม KACHA ไปหาคำตอบกัน!

พัดลมอุตสาหกรรม คืออะไร?

พัดลมอุตสาหกรรม คืออะไร?

พัดลมอุตสาหกรรม (Industrial Fan) คือ พัดลมที่ออกแบบสำหรับใช้ในอุตสาหกรรม โรงงาน โรงอาหาร หรือพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่ มีลักษณะคล้ายกับพัดลมทั่วไป แตกต่างกันที่โครง มอเตอร์  ใบพัด และองค์ประกอบที่มีขนาดใหญ่ แข็งแรง และมั่นคง เนื่องจากต้องใช้งานหนักและต่อเนื่อง ภาพลักษณ์โดยรวมของพัดลมอุตสาหกรรมจึงเป็นเหมือนพัดลมโครงเหล็กที่ออกแบบมาเพื่อใช้งาน ดีไซน์ไม่สวยงามมินิมอลเท่าพัดลมที่ใช้ในบ้าน แต่ไปเด่นที่ตัววัสดุที่ใช้ผลิต สำหรับสร้างแรงลมที่มีประสิทธิภาพมากพอที่จะเปลี่ยนอากาศบริเวณให้เย็นขึ้น หมุนเวียนของอากาศ และระบายอากาศได้ดี นอกจากนี้ยังต้องผ่านการทดสอบ ได้รับมาตรฐาน มอก. เพื่อแสดงถึงคุณภาพ สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคได้

ประโยชน์ของพัดลมอุตสาหกรรม

  • ระบายความร้อน อากาศถ่ายเทสะดวก ในโรงงานที่ไม่มีหน้าต่างหรือเป็นห้องที่ปิดมิดมักเกิดความร้อนง่าย การติดตั้งพัดลมจะช่วยระบายอากาศและช่วยลดความร้อนได้ ใบพัดขนาดใหญ่ รอบการหมุนที่รวดเร็ว ทำให้กระแสลมแรง ช่วยพัดความร้อนออกจากพื้นที่และลดความร้อนที่สะสมอยู่
  • ลดฝุ่น กำจัดมลพิษ โดยเฉพาะพื้นที่ในโรงงานอุตสาหกรรม ฟาร์ม คลังสินค้าที่มักจะมีละอองฝุ่น กลิ่นสารเคมี กลิ่นไม่พึงประสงค์ พัดลมอุตสาหกรรมจะช่วยลดปัจจัยเหล่านี้ให้ส่งผลกระทบกับผู้ที่อยู่ในพื้นที่น้อยกว่าเดิม
  • ปลอดภัยกับผู้ใช้งาน เนื่องจากพัดลมอุตสาหกรรม เปิดใช้งานต่อเนื่องตลอดเวลา จึงทำให้พัดลมประเภทนี้มีตะแกรงใบพัดที่มีความถี่มากขึ้น เพื่อป้องกันอันตรายจากใบพัด รวมถึงมีเทอร์โมฟิวส์ที่ช่วยตัดไฟจากกระแสไฟเกิน ไม่ให้เกิดอันตรายจากอัคคีภัย

ประเภทของพัดลมอุตสาหกรรม

พัดลมอุตสาหกรรมมีหลายขนาด หลายแบบ หลายฟังก์ชันเสริม ก่อนที่จะนำพัดลมอุตสาหกรรมไปติดตั้งหรือใช้งาน เราจึงควรเลือกแบบและขนาดให้เหมาะสมกับพื้นที่ทำงาน

เพื่อให้พัดลมทำงานได้เต็มประสิทธิภาพอยู่เสมอ ประเภทของ พัดลมอุตสาหกรรม แบ่งได้หลัก ๆ ดังนี้

พัดลมอุตสาหกรรมแบบตั้งโต๊ะ

พัดลมอุตสาหกรรมแบบตั้งโต๊ะ

พัดลมอุตสาหกรรมแบบตั้งโต๊ะ  มีลักษณะคอสั้น ฐานกว้าง มีฟังก์ชันปรับระดับแรงลม ปรับส่าย รวมถึงปรับแหงนขึ้น-ลงได้ ตอบโจทย์สำหรับผู้ใช้งานที่ไม่ได้เคลื่อนที่หรือนั่งอยู่จุดเดิมต่อเนื่องเป็นเวลานาน พัดลมอุตสาหกรรมแบบตั้งโต๊ะ แบ่งได้หลัก ๆ 2 แบบ คือ แบบใบพัดเล็ก ที่ตัวเครื่องกะทัดรัด พกพาง่าย เหมาะสำหรับเป่าลมเพื่อคลายความร้อน และแบบใบพัดใหญ่ที่ให้ลมแรงกว่า ช่วยระบายความร้อนและถ่ายเทอากาศในพื้นที่ได้

พัดลมอุตสาหกรรมแบบตั้งพื้น

พัดลมอุตสาหกรรมแบบตั้งพื้น
  • ตั้งพื้นแบบเคลื่อนที่ จุดเด่นของพัดลมแบบนี้ คือ เคลื่อนย้ายง่าย หน้าพัดลมปรับแหงนได้หลายองศา เหมาะสำหรับใช้งานในพื้นที่ที่มีการเคลื่อนย้ายบ่อยหรือเปลี่ยนจุดทำงานบ่อยครั้ง
  • ตั้งพื้นแบบมีขา พัดลมตั้งพื้นอุตสาหกรรมแบบมีขา มีหลายแบบให้เลือก ทั้งแบบขาเดียว สองขา สามขา หรือมากกว่า จุดเด่น คือ สามารถกางขาออกได้ ตัวพัดลมสูง บางยี่ห้อสามารถปรับสไลด์ได้

พัดลมอุตสาหกรรมแบบติดผนัง

พัดลมอุตสาหกรรมแบบติดผนัง

พัดลมอุตสาหกรรมแบบติดผนัง เป็นพัดลมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ใช้วัสดุในการผลิตเป็นโลหะเกือบทั้งหมด นิยมติดตั้งในโรงงาน ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ หรือโรงอาหารที่ไม่ต้องการให้พัดลมกีดขวางทางเดินหรือกีดขวางพื้นที่การทำงาน สามารถปรับระยะ ปรับการส่ายได้ 90 องศา มีความแข็งแรง ทนทาน รูปทรงใบพัดคล้าย พัดลมตั้งพื้นแบบขาเดียว แต่เป็นแบบแขวนผนังที่สามารถปรับได้ ซึ่งการติดตั้งพัดลมแบบติดหรือฝังกับผนัง ต้องคอยสังเกต การเดินสายไฟ และ การเก็บสายไฟเป็นระเบียบเรียบร้อยหรือไม่ เพราะการทำงานของพัดลมที่ติดหรือฝังผนัง จะเป็นการสั่งงานจากระยะไกล หากสายไฟมีปัญหา จะส่งผลให้พัดลมไม่สามารถทำงานได้ ทำให้เสียเวลาซ่อมแซมและเดินสายใหม่

พัดลมอุตสาหกรรม เลือกอย่างไรเหมาะสม?

  1. ขนาดเหมาะกับพื้นที่ ปกติแล้วขนาดของพัดลมอุตสาหกรรม ขนาดจะอยู่ที่ 18 – 30 นิ้วขึ้นไป ซึ่งแต่ละขนาดมีผลต่อแรงลม ถ้าเป็นพื้นที่กว้าง ควรเลือกใบพัดให้มีขนาดใหญ่ สร้างแรงลมได้เพียงพอ โดยทั่วไปถ้าใช้งานในห้องโถง ออฟฟิศ มักใช้ขนาด 18-20 นิ้ว ส่วนพื้นที่กลางแจ้งหรือโรงงานอุตสากรรมต่าง ๆ นิยมใช้กันที่ขนาด 26-30 นิ้ว
  2. การปรับระดับแรงลม สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณา เพราะแต่ละวันพื้นที่หน้างานมักคาดเดาได้ยาก รวมถึงสภาพอากาศในแต่ละวันว่าร้อนระดับไหน ถ้าเลือกพัดลมอุตสาหกรรมหลายระดับ ก็จะสามารถปรับแรงลมได้ตามความเหมาะสม
  3. ฟังก์ชันเสริม ฟังก์ชันพิเศษที่มาพร้อมพัดลมแต่ละยี่ห้อมีความแตกต่างกัน ยิ่งมีฟังก์ชันเยอะ ก็จะยิ่งเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งานได้มากขึ้น ราคาก็จะสูงขึ้นเช่นกัน เราควรศึกษาให้ดีว่าฟังก์ชันนั้นมีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน ยกตัวอย่างฟังก์ชันที่ได้รับความนิยม คือ ปรับระดับความสูง ปรับทิศทางการส่าย มีด้ามจับ ล้อเข็น รวมถึงฟังก์ชันสั่งงานด้วยระบบสัมผัส หรือสั่งงานผ่านสมาร์ตโฟน เป็นต้น
  4. ผ่านมาตรฐาน มอก. การเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้มาตรฐานการรับรองย่อมอุ่นใจกว่า เพราะช่วยเพิ่มความมั่นใจว่าสินค้าที่เราได้รับนั้นมีคุณภาพ ปลอดภัยในการใช้งาน พัดลมอุตสาหกรรม ใช้งานหนักและต่อเนื่องเกือบ 24 ชั่วโมง เพื่อให้อากาศในพื้นที่นั้นหมุนเวียนตลอดเวลา แนะนำให้เลือกพัดลมที่มีระบบตัดการทำงานอัตโนมัติ ป้องกันอุบัติเหตุจากไฟฟ้าลัดวงจร

พัดลมทั่วไปใช้แทนพัดลมอุตสาหกรรมได้ไหม?

หลายคนอาจเกิดความสงสัยว่า พัดลมทั่วไปใช้แทนพัดลมอุตสาหกรรมได้ไหม? คำตอบคือ ไม่ได้ และ ไม่ควรอย่างยิ่ง เพราะพัดลมธรรมดาที่ใช้ภายในบ้านออกแบบมาเพื่อใช้งานในพื้นที่แคบกว่า มีรอบการหมุนที่ต่ำกว่า รวมถึงให้แรงลมที่น้อยกว่ามาก ที่สำคัญคือพัดลมทั่วไปไม่สามารถใช้งานหนักและต่อเนื่องได้เท่าพัดลมอุตสาหกรรม การใช้ใบพัดของพัดลมธรรมดาซึ่งตัววัสดุทำมาจากพลาสติก อาจรับแรงและจำนวนรอบหมุนนั้นไม่ไหวจนเกิดการแตกหักระหว่างใช้งาน ดังนั้น เราควรเลือกชนิดของพัดลมให้เหมาะกับพื้นที่และการใช้งาน เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้น

จะเห็นว่า พัดลมอุตสาหกรรม มีหลายแบบ หลายขนาดให้เลือก หากนำไปใช้งานที่โรงงาน ควรเลือกประเภทและขนาดให้เหมาะสม เพื่อประสิทธิภาพที่ดี และอย่าลืมศึกษารายละเอียดของสินค้าที่เราเลือก ว่ามีลักษณะการใช้งานเป็นอย่างไร เปิดได้ต่อเนื่องกี่ชม. ส่วนเรื่องการติดตั้ง ควรเลือกช่างผู้ชำนาญการมาดำเนินการ ตรวจสอบ เพื่อความปลอดภัยทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินที่ไม่อาจประเมินค่าได้  

ขอบคุณข้อมูลจาก : Yushi Group

KACHA ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องมือช่าง อุปกรณ์ก่อสร้าง รับสร้างโกดังสำเร็จรูป ออกแบบโดยวิศวกร ช่างผู้เชี่ยวชาญ ดูแลให้คำปรึกษา พร้อมบริการที่ประทับใจ